“จงรัก” พูดแปลกตำรวจป้องกันเหตุร้ายอย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว แต่ยังเกิดเหตุยิงระเบิดใส่พันธมิตร ระบุไทยไม่ใช่อิรัก ไม่ควรห้ำหั่นกัน พร้อมปัดเรียก"เสธ.แดง"สอบปากคำ แต่ยันจะคลี่คลายคดีให้เร็วที่สุด ขณะที่ “สุชาติ” ยังไม่ฟันธง เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นหลายครั้ง เชื่อมโยงกันหรือไม่
วันนี้(20 พ.ย.)ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 10.30 น.พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดใกล้เวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ภายในทำเนียบรัฐบาล เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 24 ราย เสียชีวิต 1 ราย ว่า คนร้ายใช้ระเบิดชนิดเอ็ม 79 ที่ยิงมาจากด้านนอกทำเนียบรัฐบาลจุดใดจุดหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุได้เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมฯไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไป
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวต่อว่า แม้ตำรวจจะมีการป้องกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ มีการตั้งด่านสกัดตรวจอย่างเคร่งครัดก็ตาม แต่ได้สั่งกำชับย้ำแล้วว่าให้เพิ่มความเข้มในการตรวจตรามากกว่าเดิมเพราะไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงใดๆ ประเทศไทยไม่ใช่อิรัก การจะมาห้ำหั่นกันโดยใช้กำลังนั้นมันไม่ถูกต้องอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาร่วมมือทำให้ประเทศเราเป็นประเทศที่สงบจะดีเสียกว่า
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานทางคดีให้ได้มากที่สุดพร้อมคลี่คลายคดีให้ได้โดยเร็วและกำชับให้ทุกฝ่ายเข้มงวดในการตรวจตราพื้นที่จุดล่อแหลมและหน่วยงานราชการสำคัญให้มากขึ้น ภายหลังกระแสข่าวอย่างต่อเนื่องว่า จะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นอีกหลายจุดใน กทม.หลังจากเสร็จสิ้นงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า ต้องเชิญ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก มาสอบสวนหรือไม่ เพราะเคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า จะมีเหตุระเบิดขึ้น รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องสอบสวนผู้บาดเจ็บตามโรงพยาบาลต่างๆ ว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร หารายละเอียดให้มากที่สุด การจะเชิญใครมาสอบสวนต้องมีพยานหลักฐานพอสมควรก่อน แต่ขณะนี้เรายังไม่ได้รายละเอียดในส่วนนี้เลย รวมทั้งต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บก่อนว่า มาจากทางไหน ทิศทางเป็นยังไง ผู้บาดเจ็บเห็นใครอะไรหรือไม่ ต้องขอเวลาทำงานด้วย
"การป้องกันตำรวจทำงานเต็มที่ ทุกวันนี้ก็ไม่ได้หลับได้นอน ตำรวจอยู่กับม็อบมานานก็ป้องกันทุกอย่าง เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงอยู่แล้ว"รอง ผบ.ตร. กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าคนร้ายยิงเข้ามาจากด้านใด เพราะยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่จุดเกิดเหตุได้ ซึ่งหากเป็นการยิงจากปืน ได้ตรวจสอบจะทราบว่าจุดตกกระทบนั้นมีระยะเท่าใด และอาจจะสามารถระบุชนิดเครื่องยิงได้ เพราะหากเป็นการยิงนั้นก็มีปืนอยู่เพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น รวมทั้งหากเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดตรวจสะเก็ดระเบิดหรือจุดเกิดเหตุก็สามารถระบุชนิดของระเบิดได้อย่างชัดเจน
พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจะมีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หรือไม่ คงยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากยังไม่มีพยานหลักฐาน แต่ส่วนนี้จะเร่งสืบสวนให้ได้โดยเร็วที่สุด
วันนี้(20 พ.ย.)ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 10.30 น.พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดใกล้เวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ภายในทำเนียบรัฐบาล เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 24 ราย เสียชีวิต 1 ราย ว่า คนร้ายใช้ระเบิดชนิดเอ็ม 79 ที่ยิงมาจากด้านนอกทำเนียบรัฐบาลจุดใดจุดหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุได้เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมฯไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไป
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวต่อว่า แม้ตำรวจจะมีการป้องกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ มีการตั้งด่านสกัดตรวจอย่างเคร่งครัดก็ตาม แต่ได้สั่งกำชับย้ำแล้วว่าให้เพิ่มความเข้มในการตรวจตรามากกว่าเดิมเพราะไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงใดๆ ประเทศไทยไม่ใช่อิรัก การจะมาห้ำหั่นกันโดยใช้กำลังนั้นมันไม่ถูกต้องอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาร่วมมือทำให้ประเทศเราเป็นประเทศที่สงบจะดีเสียกว่า
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานทางคดีให้ได้มากที่สุดพร้อมคลี่คลายคดีให้ได้โดยเร็วและกำชับให้ทุกฝ่ายเข้มงวดในการตรวจตราพื้นที่จุดล่อแหลมและหน่วยงานราชการสำคัญให้มากขึ้น ภายหลังกระแสข่าวอย่างต่อเนื่องว่า จะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นอีกหลายจุดใน กทม.หลังจากเสร็จสิ้นงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า ต้องเชิญ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก มาสอบสวนหรือไม่ เพราะเคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า จะมีเหตุระเบิดขึ้น รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องสอบสวนผู้บาดเจ็บตามโรงพยาบาลต่างๆ ว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร หารายละเอียดให้มากที่สุด การจะเชิญใครมาสอบสวนต้องมีพยานหลักฐานพอสมควรก่อน แต่ขณะนี้เรายังไม่ได้รายละเอียดในส่วนนี้เลย รวมทั้งต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บก่อนว่า มาจากทางไหน ทิศทางเป็นยังไง ผู้บาดเจ็บเห็นใครอะไรหรือไม่ ต้องขอเวลาทำงานด้วย
"การป้องกันตำรวจทำงานเต็มที่ ทุกวันนี้ก็ไม่ได้หลับได้นอน ตำรวจอยู่กับม็อบมานานก็ป้องกันทุกอย่าง เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงอยู่แล้ว"รอง ผบ.ตร. กล่าว
ด้าน พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าคนร้ายยิงเข้ามาจากด้านใด เพราะยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่จุดเกิดเหตุได้ ซึ่งหากเป็นการยิงจากปืน ได้ตรวจสอบจะทราบว่าจุดตกกระทบนั้นมีระยะเท่าใด และอาจจะสามารถระบุชนิดเครื่องยิงได้ เพราะหากเป็นการยิงนั้นก็มีปืนอยู่เพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น รวมทั้งหากเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดตรวจสะเก็ดระเบิดหรือจุดเกิดเหตุก็สามารถระบุชนิดของระเบิดได้อย่างชัดเจน
พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจะมีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หรือไม่ คงยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากยังไม่มีพยานหลักฐาน แต่ส่วนนี้จะเร่งสืบสวนให้ได้โดยเร็วที่สุด