“จิตรลดา” มือแทงนักเรียน ร.ร.เซนต์โยเซฟคอนแวนต์ไม่รอดคุก ศาลตัดสินจำคุก 8 ปี ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ลดเหลือจำคุก 4 ปี เมื่อพ้นโทษให้ส่งบำบัดทางจิตที่สถาบันกัญยาณ์ราชนครินทร์ต่อ และให้แพทย์รายงานอาการทุก 6 เดือน ด้านพ่อผู้เสียหาย บอกพอใจคำตัดสิน ซึ่งส่งผลดีจะทำให้สังคมปลอดภัยมากขึ้น
ที่ห้องพิจารณาคดี 603 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง วันนี้( 20 พ.ย.) เวลา 10.00 น. ศาลมีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ 6957 / 2549 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 และนายชุมเจตน์ อารีฟ บิดา ด.ญ.ชมณรรฐ นักเรียนโรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์ ผู้เสียหาย เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.จิตรลดา ตันติวณิชยสุข อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 / 2 ม.4 ต.วัดแค อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งเป็นผู้มีอาการจิตเภท เป็นจำเลย ในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น และ พกพาอาวุธไปในที่สาธารณะในเมืองหรือในหมู่บ้านโดยไม่มีมีเหตุอันควร
ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.49 ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 48 เวลากลางวัน จำเลยได้พกอาวุธมีดยาว 6 นิ้ว2 เล่ม และมีดขนาดความยาว 8 นิ้วอีก 1 เล่ม ไปที่ รร.เซนโยเซพคอนแวนต์ ถ.คอนแวนต์ เขตสาทร แล้วใช้มีดแทงนักเรียนหญิงผู้เสียหายรวม 4 ราย คือ ด.ญ.ชมณรรฐ อารีฟ อายุ 12 ปี ชั้น ป.6 / 5 ถูกที่ไตด้านขวา , ด.ญ.ชญมน ไตรเลิศสุนทร อายุ 14 ปี ชั้น ม.2 / 5 ที่บริเวณรักแร้ทะลุปอด , ด.ญ.อภิญญา บุญนำ อายุ 14 ปี ชั้น ม.2 / 1 ทะลุปอด และ ด.ญ.จัณจุฑา ฤกษ์วิสิษฐกุล อายุ 13 ปี ชั้น ม.2 / 7 บริเวณหน้าท้องได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งจำเลยกระทำไปโดยมีเจตนาฆ่า และมีการกระทำอันเป็นการไต่ตรองไว้ก่อน ซึ่งท้ายฟ้อง อัยการระบุด้วยว่า จำเลยมีสติรับรู้ดี สามารถต่อสู้คดีได้
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า โจทก์ มีเด็กนักเรียน ผู้เสียหายทั้ง 4 คนซึ่งถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทง เบิกความสอดคล้องต้องกันว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ย.48 เวลา 07.00 น. ขณะเดินเข้าอาคารเรียน จำเลยได้ถืออาวุธมีดแล้วไล่แทงด.ญ.ชมณรรฐ ผู้เสียหายที่ 1 และเมื่อถูกแทงแล้วได้หนีขึ้นบันไดร้องขอความช่วยเหลือ แล้วเข้าไปหลบซ่อนตัวที่ห้องเรียนชั้นม.2/1 โดยผู้เสียหายที่ 2-4 ซึ่งอยู่บริเวณหน้าห้องเรียนชั้นม.2/1 และม.2/3 ขณะนั่งคุยกับเพื่อนนักเรียนก็ถูกจำเลยใช้อาวุธมีดแทง หลังจากใช้อาวุธมีดแทงแล้ว จำเลยได้ทิ้งอาวุธมีดไว้ที่ตักของด.ญ.จัณจุฑา ผู้เสียหายที่ 4 ก่อนจะหลบหนีไป ซึ่งผู้เสียหายทั้ง 4 คน สามารถชี้ตัวจำเลยตามรูปถ่ายได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
ขณะที่พยานโจทก์ซึ่งเป็นเพื่อนนักเรียนของผู้เสียหายทั้ง 4 ตลอดจนครู และผู้ปกครองที่เห็นเหตุการณ์กว่า 10 ปากเบิกความสอดคล้องกันว่า เมื่อเกิดเหตุแล้วได้พานักเรียนผู้เสียหายส่งโรงพยาบาลบีเอ็นเอช โดยพยานระบุรูปพรรณคนร้ายมีรูปร่างผอม ขาว ตาโต ไว้ผมสั้นหน้าม้า ลักษณะคล้ายจำเลย สวมเสื้อสายเดียวสีชมพู กระโปรงสีเข้ม และเมื่อพนักงานสอบสวนให้ชี้ยืนตามรูปถ่ายก็ชี้รูปจำเลยได้ถูกต้อง รวมทั้งเด็กนักเรียนโรงเรียนเซนโยเซฟเบิกความด้วยว่า เวลา 17.00 น. วันที่ 8 กันยายน พบหญิงสาวรูปร่างสูง 150-160 เซนติเมตร อายุ 25-30 ปี สวมเสื้อสายเดี่ยวสีชมพู กางเกงขาสั้นสีดำ เดินเข้ามาในโรงเรียนประมาณ 5 นาทีแล้วก็เดินออกไป ซึ่งพยานชี้ตัวจำเลยได้ถูกต้อง โดยแพทย์โรงพยาบาลบีเอ็นเอช ได้เบิกความว่า นักเรียนผู้เสียหายถูกแทงหลายแผลเข้าอวัยวะสำคัญ ถ้าผ่าตัดรักษาไม่ทันท่วงทีอาจได้รับอันตรายถึงชีวิต
นอกจากนี้นายประเชิญ หวังเย็นกลาง คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างในซอยคอนแวนต์ เบิกความว่าเมื่อวันที่ 9 กันยายน มีหญิงสาวสวมกระโปรงสีน้ำตาล สวมเสื้อคลุมสีดำทับ สะพายกระเป๋าดำ ในมือถือถุงคล้ายขยะ ว่าจ้างไปทางถนนสาทร และให้จอดรถบริเวณหน้าธนาคารทหารไทย สาขาถนนสาทร โดยหญิงคนดังกล่าวได้นำถุงขยะในมือไปทิ้ง จากนั้นก็โดยสารต่อมาให้เลี้ยวซ้ายไปทางถนนพระราม 4 เมื่อถึงที่หมายได้จ่ายเงินค่าจ้าง 100 บาท และถอดหมวกกันน็อคไม่เป็น พยานจึงช่วยถอดและพบรอยเลือดที่แก้มซ้าย พยานจึงสอบถามว่าไปโดนอะไรมา แต่จำเลยไม่ตอบ พอมาทราบว่ามีคดีแทงนักเรียนโรงเรียนเซนโยเซฟ ก็จำได้ว่าเป็นจำเลย จึงเข้าพบพนักงานสอบสวนและพาไปค้นถังขยะดังกล่าว จนพบอาวุธมีดที่จำเลยทิ้งไว้ ขณะที่เพื่อนวินรถจักรยานยนต์รับจ้างเล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้จำเลยเคยว่าจ้างให้ติดตามนักเรียนโรงเรียนเซนโยเซฟหลายครั้ง ขณะที่นายประไพ มาขุมเหล็ก วินรถจักรยานยนต์รับจ้างข้างโรงพยาบาลบีเอ็นเอช เบิกความว่าเคยถูกจำเลยว่าจ้างให้ติดตามเด็กนักเรียนโรงเรียนเซนโยเซฟมานาน 2-3 ปี แล้วก็หายไป ต่อมาก่อนเกิดเหตุ 3-4 เดือน พบจำเลยกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
โดยโจทก์ยังมีพนักงานร้านขายอาวุธมีดที่ห้างดิโอลด์ สยามพลาซ่า เบิกความด้วยว่า มีหญิงสาวรูปพรรณเหมือนจำเลยมาซื้อมีดไป 3 เล่มเป็นเงิน 9,000 บาท ซึ่งพยานได้หาปลอกสวมและห่อสินค้าให้ไป และพยานเจ้าของร้านเสริมสวยย่านพรานนก ซึ่งจำเลยมาดัดผมและเปลี่ยนสีผม ตลอดจนเจ้าของร้านอาหารครัวตาน้อย ภายในสโมสรรถไฟ เบิกความทำนองเดียวกันว่า หลังเกิดเหตุจำเลยได้มาสมัครงาน โดยจำเลยได้ทำงานอยู่ที่ร้านครัวตาน้อย แต่ภายหลังเมื่อทราบข่าวว่ามีคนร้ายแทงเด็กนักเรียนและหน้าตาเหมือนจำเลยจึงแจ้งตำรวจ กระทั่งจับกุมจำเลยได้พร้อมอาวุธมีด
เห็นว่าพยานโจทก์เบิกความสอดคล้องต้องกันว่า จำเลยแทงผู้เสียหายที่ 1 ก่อนจะแทงผู้เสียหายที่ 2-4 มีการลำดับเหตุการณ์สมเหตุสมผล ไม่มีพิรุธ มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้ายจึงไม่มีเหตุให้ระแวงสงสัยว่าพยานจะเบิกความกลั่นแกล้งปรักปรำจำเลย อีกทั้งช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นเวลากลางวัน ซึ่งมีประจักษ์พยานหลายคนทั้งนักเรียนและครู วินรถจักรยานยนต์ ผู้ปกครอง ตลอดจนพยานแวดล้อมใกล้ชิด ทั้งคนขายอาวุธมีด เบิกความสนับสนุน มีน้ำหนักน่าเชื่อว่า จำเลยได้เตรียมมีดหลายเล่มมาก่อเหตุแทงนักเรียนอย่างรุนแรงหลายครั้งต่อเนื่องกัน ซึ่งผู้เสียหายมีลักษณะเป็นลูกครึ่งไทยอินเดีย และลูกครึ่งไทยจีน ที่จำเลยมีความฝังใจโกรธและเกลียดอยากจะทำร้ายบุคคลลักษณะดังกล่าว ประกอบกับคำรับสารภาพของจำเลย ทำให้พยานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือปราศจากข้อสงสัย
ส่วนจำเลยจะมีจิตบกพร่องฟั่นเฟือนหรือไม่ สามารถมีความรับผิดชอบตัวเองและบังคับตัวเองได้บ้างหรือไม่นั้น เห็นว่าโจทก์มีบุคคลในครองครัวของจำเลยและแพทย์สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เบิกความว่า จำเลยมีอาการป่วยเป็นจิตเภทเรื้อรังมาตั้งแต่อายุ 20 ปี ครั้งแรกเข้ารักษาโรงพยาบาลนิติจิตเวชปี 2536 แล้วหยุดรักษาไป จากนั้นเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาในปี 2544 และหยุดรักษาไปอีกครั้ง โดยแพทย์ให้ความเห็นว่า จำเลยป่วยเป็นโรคจิตเภท ประเภทหวาดระแวง หูแว่ว ประสาทหลอน ต้องฉีดยาและกินยารักษาตัวไปตลอดชีวิต โดยจำเลยจะใช้ชีวิตได้ตามปกติได้ รู้รับผิดชอบการกระทำของตัวเองได้บ้าง โดยช่วงก่อนเกิดเหตุจำเลยไม่ได้กินยา และหนีออกจากบ้านพร้อมขโมยบัญชีเงินสดมาด้วย เห็นว่าแม้ทางการแพทย์จะลงความเห็นดังกล่าว แต่พฤติกรรมของจำเลยที่แทงนักเรียนลูกครึ่งไทยอินเดีย และลูกครึ่งไทยจีน มีการเฝ้าดูนักเรียนผู้เสียหายที่ 1 มาก่อน มีการดักรอ ซื้อมีดหลายเล่มไว้ก่อเหตุแทง ทั้งยังมีการเปลี่ยนเสื้อผ้า ทรงผมหลังก่อเหตุ ตลอดจนให้การกับพนักงานสอบสวนถึงเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนถึงขั้นตอนที่แพทย์ทำการรักษา เป็นการลำดับเหตุการณ์อย่างปกติ ที่จำเลยอ้างว่าขณะเกิดเหตุมีปัญหาการป่วยทางจิต ไม่สามารถบังคับตัวเองได้ จึงเป็นเพียงข้อกล่าวอ้างลอยๆ ซึ่งไม่มีหลักฐานอื่นมาสนับสนุน พิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4) , 80 และ 65 วรรค 2 ให้จำคุก 4 กระทง กระทงละ 2 ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จำคุกกระทงละ 1 ปี รวม จำคุกจำเลย 4 ปี เมื่อพ้นโทษจำคุกแล้วให้ส่งตัวจำเลยไปคุมตัวรักษาที่สถานกัลยาณ์ราชนครินทร์จนกว่าจำเลยจะอยู่ร่วมในสังคมได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสังคม โดยให้แพทย์ผู้รักษารายงานผลต่อศาลทุก 6 เดือน ทั้งนี้ตามมาตรา 48 บัญญัติว่า หากศาลเห็นว่าการปล่อยตัวผู้มีจิตบกพร่อง โรคจิต หรือจิตฟั่นเฟือน ซึ่งไม่ต้องรับโทษหรือได้รับการลดโทษจะเป็นการไม่ปลอดภัยแก่ประชาชน ศาลจะสั่งให้ส่งไปคุมตัวไว้ในสถานพยาบาลก็ได้
โดยวันนี้ผู้ปกครองของผู้เสียหายและคณะครูโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ ได้มารับฟังคำพิพากษาด้ว นายชุมเจตน์ อารีฟ บิดาของ ด.ญ.ชมณรรฐ กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับคำพิพากษา ที่ศาลให้ความยุติธรรมลงโทษจำคุกผู้กระทำความผิดไป 4 ปี ซึ่งจะทำให้สังคมปลอดภัยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อาการของน้องชญมน ยังมีอาการหวาดระแวง ซึ่งทางครอบครัวก็ได้ให้กำลังใจ ดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนจะฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายหรือไม่ คงต้องหารือกับทนายความต่อไป
ด้านนายสมมิตร หล่อกิติยะกุล นายกสมาคมครูและผู้ปกครองโรงเรียนเซนโยเซฟ ซึ่งมาร่วมฟังคำพิพากษาด้วย ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากเกิดเหตุดังกล่าวทางโรงเรียนได้เพิ่มมาตรการในการตรวจตราบุคคลภายนอกที่เดินทางมารับบุตรหลานมากขึ้น ทั้งนี้เห็นว่าคำศาลพิพากษาในวันนี้มีความยุติธรรมมากที่สุด
ศาลพิพากษา “จิตรลดา”ไล่แทงน.ร.เซนต์โยเซฟเช้านี้
“จิตรลดา” ยังมีอาการทางจิตเลื่อนนัดพร้อมอีกครั้ง
“จิตรลดา” มือแทง นร.เซนต์โยฯยังไม่หายเลื่อนขึ้นศาลอีกครั้ง
“จิตรลดา” มือมีดแทง 4 นร.เซนต์โยฯ ยังไม่หายจิตเภท-สู้คดีไม่ได้
ฟ้อง “จิตรลดา” มือมีดแทง 4 นร.เซนต์โยฯ - ปฏิเสธไม่เจตนา
ตร.พร้อมสอบ-แจ้งข้อหา “จิตรลดา” มือแทง นร.เซนต์โยฯ
แพทย์ระบุอาการ “จิตรลดา” ดีขึ้น
4 นร.เซนต์โยฯ เจ็บฟรี “จิตรลดา” ป่วยทางจิตเรื้อรัง!
ตำรวจมอบเงินรางวัลที่ได้รับช่วย 4 นร.เซนต์โยฯ
มอบเงิน “ตำรวจ-พลเมืองดี” ร่วมจับ “จิตรลดา”
“จิตรลดา” ปัดจิตเภท ขอนั่ง ฮ.ชมเมืองหลวง
คุมตัว “จิตรลดา” รักษาโรคจิตเภทวันนี้
ตร.แถลงซ้ำ มือแทง 4 นร.เซนต์โยฯ มีเพียง “จิตรลดา”
แถลงอาการ 4 นร.เซนต์โยฯ ดีขึ้นตามลำดับ
แบ่งเงิน 2 แสนให้ ตร.-พลเมืองดีช่วยแจ้งเบาะแสจับ “จิตรลดา”
“จิตรลดา” เป็นโรคจิตเภท ชนิดหวาดระแวง
ตร.ค้านประกันตัวสาวมือมีดหวั่นไปทำร้ายคนอื่นซ้ำ
ตำรวจยืนยัน คนร้ายแทง 4 นร.เซนต์โยฯ มีคนเดียว!
คุมเข้ม"เซนโยเซฟฯ"-เจ๊หน่อยรุดหารือปรับกฏเหล็ก
ครู - ตร. คุมเข้มหน้า “เซนต์โยเซฟฯ”
ฝากขัง "เป็ด" -แถลงจิตบกพร่องหรือไม่วันนี้
ชี้ขาดอาการจิต “มือมีด” บ่ายวันนี้
“มือมีด” ชี้จุดระหว่างหลบหนี หลังก่อเหตุไล่จ้วงแทง นร.
อาการ 4 เด็กเซนต์โยฯ ดีขึ้นตามลำดับ
กรมสุขภาพจิตแถลงผลตรวจ “จิตรลดา” พรุ่งนี้
พบ “จิตรลดา” ตอบคำถามนักจิตวิยาได้ทุกคำถาม
ผอ.บีเอ็นเอชแถลงอาการเจ็บ 4 นร.เซนต์โยฯ
ตร.สั่งจับตามือมีดแทง 4 นร.ใกล้ชิด!
พ่อ นร.อยากถาม “จิตรลดา” แค้นอะไรลูกสาวถึงไล่แทงดะ!
ตั้งข้อหา “พยายามฆ่า” มือมีดแทง 4 นร.เซนต์โยฯ
จับแล้วมือมีด แทง 4 นร.เซนต์โยฯ
แม่มือมีด!!!วอนลูกสาวติดต่อกลับบ้าน พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเต็มที่
ตำรวจขออนุมัติหมายจับสาวทอมวิกลจริตแล้ว
แพทย์ยังต้องเฝ้าดูอาการ 4 นร.เซนต์โยฯตลอด 24-48 ชม.
ตร.ได้เบาะแสภาพทอมวิกลจริตจากวงจรปิดโรงพยาบาล
แฉเหตุระทึก!! พลิกแผ่นดินล่า..ทอมชั่วไล่จ้วง นร.คอนแวนต์
นร.เซนต์โยฯเผยวินาทีระทึกวิ่งหนีไม่ทันทอมวิกลจริต!
แพทย์ยังวิตกอาการ 1 ใน 4 นร.เซนต์โยฯ
แจกภาพสเก็ตซ์มือมีดแทงเด็กเซนต์โยฯ
ผู้ปกครองทำใจเหตุสุดวิสัย ลูกถูกแทง
ล่าสาวทอมมือมีด เชื่อมีสติครบ “ชูวิทย์” โร่รับลูกสาว
เคยเสนอทำบัตรผู้ปกครอง ก่อนเกิดเหตุร้ายในเซนต์โยเซฟ
ตร.เผยทอมบอยวิกลจริตมือมีดแทง 4 นร.เซนต์โยฯ
4 นักเรียนเซนต์โยฯ ปลอดภัยแล้ว
หญิงวิกลจริตคลั่ง!!! บุกแทงเด็กเซนต์โยฯ สาหัส 3