พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว นำตัว “หมอไพศาล” ผู้ต้องหาจ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ไปฝากขังศาลผลัดแรก โดยได้ค้านประกันตัว ขณะที่ทนายเผยญาติเตรียมโฉนดที่ดินราคาประเมิน 2 ล้าน เป็นหลักทรัพย์ เพื่อยื่นขอประกันตัวต่อศาล บอก “หมอไพศาล” มีสีหน้าปกติ พร้อมต่อสู้คดี
วันนี้ (13 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พ.ต.ท.อานพ วินัยโรจน์ พนักงานสอบสวนสน.ลาดพร้าว ควบคุมตัว นพ. ไกรวิชญ์ หรือ กวีวัธน์ หรือไพศาล เฮงสวัสดิ์ อายุ 43 ปี เจ้าของสถานเสริมความงาม “ไบโอคลินิก” ย่านดอนเมือง ผู้ต้องหาคดี ใช้ จ้างวาน ให้ฆ่า นางอภัสนันท์ หรือ รวิวรรณ เสตะรัตน์ ผู้เสียโฉมจากการเข้ารับบริการศัลยกรรม โดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ฯ พ.ศ.2490 มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 – 24 พ.ย. นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 7 ปาก และรอผลตรวจสอบประวัติ ลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา จากกองทะเบียนประวัติอาชญากร และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดี โดยพนักงานสอบสวนยังได้ขอคัดค้านการประกันตัวด้วย เนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีอุฉกรรจ์ และเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไป ซึ่งหากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ทั้งนี้ ตามคำร้องฝากขัง ระบุว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย.51 เวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวน บก.น.4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัทยา ได้ร่วมกันจับกุมตัว ผู้ต้องหาได้ตามหมายจับศาลอาญาที่ 3101/2551 ลงวันที่ 11 พ.ย. 51 ที่ใช้จ้างวานให้นายศักดา เฮงสวัสดิ์ น้องชาย , นายจตุรงค์ หรือตึ๋ง เบ็ญกูล , นายประกอบ หรือกอบ ศรีนาค และ นายชัยภรณ์ หรือเต้ย กสิกร ผู้ต้องหาที่ 1- 4 คดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น ฯ ใช้อาวุธปืนยิง นางอภัสนันท์ หรือ รวิวรรณ ธิติโชติชัยปรีชาหรือเสตะรัตน์ เสียชีวิต เหตุเกิดที่หน้าบ้านเลขที่ 295 หมู่บ้านฉัตรแก้ว ซอย 11 ถนนแฮปปี้แลนด์ สาย1 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ โดยก่อนเกิดเหตุคดีนี้ผู้ต้องหา เปิดกิจการคลินิกศัลยกรรมชื่อ “ไบโอคลินิก” โดยนางอภัสนันท์ หรือ รวิวรรณ ผู้ตาย เข้าไปใช้บริการแล้วเกิดความผิดพลาดจนทำให้ใบหน้าเสียโฉมจนไม่สามารถเยียวยาได้ ซึ่งผู้ตาย ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลและร้องเรียนแพทยสภา ซึ่งส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานผู้ต้องหามาโดยตลอด
ต่อมาปลายเดือน ส.ค.50 เวลาประมาณ 23.00 น. ที่หน้าไบโอคลินิค ถ.วิภาวดีรังสิต ใกล้กองบัญชาการกองทัพอากาศ ผู้ต้องหาได้สั่งให้นายศักดา น้องชาย ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งไม่เคยรู้จักหรือมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตายมาก่อน จัดหามือปืนและอาวุธปืนวางแผนเตรียมการฆ่าผู้ตาย กระทั่งวันเกิดเหตุ นายจตุรงค์ ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้ลงมือใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจนเสียชีวิต โดยผู้ต้องหาอื่นๆ ได้ร่วมกันกระทำผิดโดยแบ่งหน้าที่กันและใช้ยานพาหนะแยกย้ายกันหลบหนี ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติต่อศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ 1-3 และจับกุมผู้ต้อหาที่ 2-3 ได้ ส่วนนายชัยภรณ์ ผู้ต้องหาที่ 4 พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาในเรือนจำ ขณะถูกควบคุมตัวในคดีอื่น ซึ่งภายหลังรวบรวมพยานหลักฐานแล้วพนักงานสอบสวนได้มีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาและขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล โดยเมื่อพนักงานสอบสวน ได้สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ประกอบกับผู้ต้องหาที่ 1-4 ซึ่งได้ร่วมกันฆ่าผู้ตาย ไม่มีนิติสัมพันธ์กับผู้ตายมาก่อน อีกทั้งไม่เคยรู้จักไม่มีเหตุโกรธเคืองมาก่อน รวมทั้งพยานบุคคล ยืนยันว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากการใช้จ้างวานของผู้ต้องหา พนักงานสอบสวน จึงขออนุมัติออกหมายจับต่อศาลอาญา และจับกุมผู้ต้องหาได้ที่สถาบันเสริมความงาม “ไบโอคลินิก” สาขาพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งการกระทำของผู้ต้องหา เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 84 , 288 , 89 ( 4 ) และ 371 ประกอบ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ ซึ่งในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ด้านนายพิชญธร รอดบำรุง ทนายความของ นพ.ไพศาล กล่าวว่า ญาติของหมอไพศาล ได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินราคาประเมิน 2 ล้านบาทไว้เพื่อยื่นขอประกันตัวต่อศาล ซึ่งจากการพูดคุยกับหมอไพศาลมีสีหน้าปกติดี เชื่อมั่นและพร้อมที่จะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนสน.ลาดพร้าว เคยติดต่อหมอไพศาลไปให้การเป็นพยานในคดีที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหารายอื่นในคดีที่เกี่ยวเนื่องกัน และขณะนี้หมอไพศาลไม่ขอให้การเพิ่มเติมใดๆ และขอให้การในชั้นศาล ส่วนกรณีหมายจับนั้นทราบว่าพนักงานสอบสวนก็ไม่ได้มีพยานหลักฐานใหม่
ภายหลังพนักงานสอบสวน ยื่นคำร้องฝากขัง นพ.ไพศาล แล้ว ต่อมา ภรรยา นพ.ไพศาล ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน ย่านบางเขน เนื้อที่ 2 งาน 29 ตร.ว. ราคาประเมิน 5,839 ,000 บาท ขอประกัน โดยศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้ว อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา โดยตีราคาประกัน 3 ล้านบาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามไม่ให้ผู้ต้องหาเดินทางออกนอกประเทศ และไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานหากปรากฏว่าผู้ต้องหาไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานหรือมีพฤติกรรมข่มขู่พยานจะพิจารณาสั่งถอนประกันทันที
ขณะที่พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รอง ผบช.น.กล่าวว่า จากการสอบสวน นพ.กวีวัธน์ ยังให้การปฏิเสธและขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งคดีนี้ต้องรอผลการสอบสวนจากพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทั้ง สภ.หนองแค จ.สระบุรี และสน.บางซื่อ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องและรายละเอียดใดเพิ่มเติมอีกหรือไม่ โดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้กำชับว่าให้ทำงานอย่างรอบคอบ เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งหลังจากนำตัวไปฝากขังแล้วจะคัดค้านการขอประกันตัว ส่วนนายศักดา เฮงสวัสดิ์ อายุ 32 ปี น้องชายของนพ.กวีวัธน์ ที่กำลังหลบหนีอยู่นั้น ทางสตช.ตั้งชุดสืบสวนขึ้นเพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีแล้ว
สำหรับคดีนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจับกุมครั้งนี้ศาลได้อนุมัติออกหมายจับ เนื่องจากพนักงานสอบสวนพบหลักฐานใหม่ ทั้งเอกสารและพยานบุคคลที่เชื่อมโยงว่าหมอไพศาลเป็นผู้จ้างวานฆ่านางรวีวรรณ เสตะรัต หรือนางอาภัสนันท์ พิติโชติชัยปรีชา อายุ 53 ปี ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตในบ้านพักเลขที่ 295 หมู่บ้านฉัตรแก้ว ซอย 11 ถนนแฮปปี้แลนด์ สาย 1 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ โดยนางรวีวรรณเหยื่อจากการทำศัลยกรรมและเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ฟ้องร้องหมอไพศาล เจ้าของคลินิกดังกล่าว โดยชุดสอบสวนทราบว่าหมอไพศาลจะเข้าทำงานที่ไบโอคลินิก สาขาพัทยากลาง เฉพาะวันพุธ จากนั้นจึงวางแผนทำทีเป็นลูกค้าติดต่อขอใช้บริการจนสามารถจับกุมได้
“หมอไพศาล” ถึงกรุงแล้ว ตร.แจ้ง 3 ข้อหาหนักไม่ให้ประกัน
วันนี้ (13 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พ.ต.ท.อานพ วินัยโรจน์ พนักงานสอบสวนสน.ลาดพร้าว ควบคุมตัว นพ. ไกรวิชญ์ หรือ กวีวัธน์ หรือไพศาล เฮงสวัสดิ์ อายุ 43 ปี เจ้าของสถานเสริมความงาม “ไบโอคลินิก” ย่านดอนเมือง ผู้ต้องหาคดี ใช้ จ้างวาน ให้ฆ่า นางอภัสนันท์ หรือ รวิวรรณ เสตะรัตน์ ผู้เสียโฉมจากการเข้ารับบริการศัลยกรรม โดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ฯ พ.ศ.2490 มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 – 24 พ.ย. นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 7 ปาก และรอผลตรวจสอบประวัติ ลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา จากกองทะเบียนประวัติอาชญากร และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดี โดยพนักงานสอบสวนยังได้ขอคัดค้านการประกันตัวด้วย เนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีอุฉกรรจ์ และเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไป ซึ่งหากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ทั้งนี้ ตามคำร้องฝากขัง ระบุว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย.51 เวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวน บก.น.4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัทยา ได้ร่วมกันจับกุมตัว ผู้ต้องหาได้ตามหมายจับศาลอาญาที่ 3101/2551 ลงวันที่ 11 พ.ย. 51 ที่ใช้จ้างวานให้นายศักดา เฮงสวัสดิ์ น้องชาย , นายจตุรงค์ หรือตึ๋ง เบ็ญกูล , นายประกอบ หรือกอบ ศรีนาค และ นายชัยภรณ์ หรือเต้ย กสิกร ผู้ต้องหาที่ 1- 4 คดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น ฯ ใช้อาวุธปืนยิง นางอภัสนันท์ หรือ รวิวรรณ ธิติโชติชัยปรีชาหรือเสตะรัตน์ เสียชีวิต เหตุเกิดที่หน้าบ้านเลขที่ 295 หมู่บ้านฉัตรแก้ว ซอย 11 ถนนแฮปปี้แลนด์ สาย1 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ โดยก่อนเกิดเหตุคดีนี้ผู้ต้องหา เปิดกิจการคลินิกศัลยกรรมชื่อ “ไบโอคลินิก” โดยนางอภัสนันท์ หรือ รวิวรรณ ผู้ตาย เข้าไปใช้บริการแล้วเกิดความผิดพลาดจนทำให้ใบหน้าเสียโฉมจนไม่สามารถเยียวยาได้ ซึ่งผู้ตาย ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลและร้องเรียนแพทยสภา ซึ่งส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานผู้ต้องหามาโดยตลอด
ต่อมาปลายเดือน ส.ค.50 เวลาประมาณ 23.00 น. ที่หน้าไบโอคลินิค ถ.วิภาวดีรังสิต ใกล้กองบัญชาการกองทัพอากาศ ผู้ต้องหาได้สั่งให้นายศักดา น้องชาย ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งไม่เคยรู้จักหรือมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตายมาก่อน จัดหามือปืนและอาวุธปืนวางแผนเตรียมการฆ่าผู้ตาย กระทั่งวันเกิดเหตุ นายจตุรงค์ ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้ลงมือใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจนเสียชีวิต โดยผู้ต้องหาอื่นๆ ได้ร่วมกันกระทำผิดโดยแบ่งหน้าที่กันและใช้ยานพาหนะแยกย้ายกันหลบหนี ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติต่อศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ 1-3 และจับกุมผู้ต้อหาที่ 2-3 ได้ ส่วนนายชัยภรณ์ ผู้ต้องหาที่ 4 พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาในเรือนจำ ขณะถูกควบคุมตัวในคดีอื่น ซึ่งภายหลังรวบรวมพยานหลักฐานแล้วพนักงานสอบสวนได้มีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาและขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล โดยเมื่อพนักงานสอบสวน ได้สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ประกอบกับผู้ต้องหาที่ 1-4 ซึ่งได้ร่วมกันฆ่าผู้ตาย ไม่มีนิติสัมพันธ์กับผู้ตายมาก่อน อีกทั้งไม่เคยรู้จักไม่มีเหตุโกรธเคืองมาก่อน รวมทั้งพยานบุคคล ยืนยันว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากการใช้จ้างวานของผู้ต้องหา พนักงานสอบสวน จึงขออนุมัติออกหมายจับต่อศาลอาญา และจับกุมผู้ต้องหาได้ที่สถาบันเสริมความงาม “ไบโอคลินิก” สาขาพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งการกระทำของผู้ต้องหา เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 84 , 288 , 89 ( 4 ) และ 371 ประกอบ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ ซึ่งในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ด้านนายพิชญธร รอดบำรุง ทนายความของ นพ.ไพศาล กล่าวว่า ญาติของหมอไพศาล ได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินราคาประเมิน 2 ล้านบาทไว้เพื่อยื่นขอประกันตัวต่อศาล ซึ่งจากการพูดคุยกับหมอไพศาลมีสีหน้าปกติดี เชื่อมั่นและพร้อมที่จะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนสน.ลาดพร้าว เคยติดต่อหมอไพศาลไปให้การเป็นพยานในคดีที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหารายอื่นในคดีที่เกี่ยวเนื่องกัน และขณะนี้หมอไพศาลไม่ขอให้การเพิ่มเติมใดๆ และขอให้การในชั้นศาล ส่วนกรณีหมายจับนั้นทราบว่าพนักงานสอบสวนก็ไม่ได้มีพยานหลักฐานใหม่
ภายหลังพนักงานสอบสวน ยื่นคำร้องฝากขัง นพ.ไพศาล แล้ว ต่อมา ภรรยา นพ.ไพศาล ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน ย่านบางเขน เนื้อที่ 2 งาน 29 ตร.ว. ราคาประเมิน 5,839 ,000 บาท ขอประกัน โดยศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้ว อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา โดยตีราคาประกัน 3 ล้านบาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามไม่ให้ผู้ต้องหาเดินทางออกนอกประเทศ และไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานหากปรากฏว่าผู้ต้องหาไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานหรือมีพฤติกรรมข่มขู่พยานจะพิจารณาสั่งถอนประกันทันที
ขณะที่พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รอง ผบช.น.กล่าวว่า จากการสอบสวน นพ.กวีวัธน์ ยังให้การปฏิเสธและขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งคดีนี้ต้องรอผลการสอบสวนจากพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทั้ง สภ.หนองแค จ.สระบุรี และสน.บางซื่อ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องและรายละเอียดใดเพิ่มเติมอีกหรือไม่ โดย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้กำชับว่าให้ทำงานอย่างรอบคอบ เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งหลังจากนำตัวไปฝากขังแล้วจะคัดค้านการขอประกันตัว ส่วนนายศักดา เฮงสวัสดิ์ อายุ 32 ปี น้องชายของนพ.กวีวัธน์ ที่กำลังหลบหนีอยู่นั้น ทางสตช.ตั้งชุดสืบสวนขึ้นเพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีแล้ว
สำหรับคดีนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจับกุมครั้งนี้ศาลได้อนุมัติออกหมายจับ เนื่องจากพนักงานสอบสวนพบหลักฐานใหม่ ทั้งเอกสารและพยานบุคคลที่เชื่อมโยงว่าหมอไพศาลเป็นผู้จ้างวานฆ่านางรวีวรรณ เสตะรัต หรือนางอาภัสนันท์ พิติโชติชัยปรีชา อายุ 53 ปี ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตในบ้านพักเลขที่ 295 หมู่บ้านฉัตรแก้ว ซอย 11 ถนนแฮปปี้แลนด์ สาย 1 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ โดยนางรวีวรรณเหยื่อจากการทำศัลยกรรมและเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ฟ้องร้องหมอไพศาล เจ้าของคลินิกดังกล่าว โดยชุดสอบสวนทราบว่าหมอไพศาลจะเข้าทำงานที่ไบโอคลินิก สาขาพัทยากลาง เฉพาะวันพุธ จากนั้นจึงวางแผนทำทีเป็นลูกค้าติดต่อขอใช้บริการจนสามารถจับกุมได้
“หมอไพศาล” ถึงกรุงแล้ว ตร.แจ้ง 3 ข้อหาหนักไม่ให้ประกัน
