ตร.นำตัว “หมอไพศาล” ถึงกรุงแล้ว หลังมีหลักฐานใหม่โยงใยบงการฆ่า “รวีวรรณ” เหยื่อเสริมความงาม นำหมายจับไปจับกุมได้ขณะทำศัลยกรรมลูกค้าในไบโอคลินิค สาขาพัทยากลาง แจ้ง 3 ข้อหาหนักเบื้องต้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว
วันนี้ (12 พ.ย.) เมื่อเวลา 19.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนนครบาล 4 (กก.สส.บก.น.4) นำโดย พ.ต.ท.เอกศิษฎ์ สุมานัส สว.กก.สส.บก.น.4 นำกำลังพร้อมหมายจับจากศาลอาญา เลขที่ 3101/51 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน เข้าจับกุม นพ.กวีวัธน์ เฮงสวัสดิ์ หรือ หมอไพศาล เจ้าของสถานเสริมความงามไบโอคลินิค ย่านดอนเมือง โดยสามารถจับกุมได้ที่สถานเสริมความงามไบโอคลินิค สาขาพัทยากลาง ริมถนนสุขุมวิท ต.หนองปลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
โดยตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหารวม 3 ข้อหา ประกอบด้วย ใช้จ้างวานให้ผู้อื่นกระทำความผิดในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนพกติดตัวโดยไม่มีเหตุอันสมควร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจับกุมครั้งนี้ศาลได้อนุมัติออกหมายจับ เนื่องจากพนักงานสอบสวนพบหลักฐานใหม่ ทั้งเอกสารและพยานบุคคลที่เชื่อมโยง ว่า หมอไพศาล เป็นผู้จ้างวานฆ่า นางรวีวรรณ เสตะรัต หรือ นางอาภัสนันท์ พิติโชติชัยปรีชา อายุ 53 ปี ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตในบ้านพักเลขที่ 295 หมู่บ้านฉัตรแก้ว ซอย 11 ถนนแฮปปี้แลนด์ สาย 1 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ โดย นางรวีวรรณ เหยื่อจากการทำศัลยกรรม และเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ฟ้องร้อง หมอไพศาล เจ้าของคลินิกดังกล่าว โดยชุดสอบสวนทราบว่าหมอไพศาลจะเข้าทำงานที่ไบโอคลินิค สาขาพัทยากลาง เฉพาะวันพุธ จากนั้นจึงวางแผนทำทีเป็นลูกค้าติดต่อขอใช้บริการจนสามารถจับกุมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเข้าจับกุม มีลูกค้าจำนวนมากเข้ามารอทำศัลยกรรมในคลินิก โดยต่างพากันตื่นตกใจที่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวเข้าจับกุม ซึ่ง หมอไพศาล มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก เนื่องจากไม่ทราบว่าศาลได้อนุมัติออกหมายจับในข้อหาจ้างวานฆ่า เพราะก่อนหน้านี้ ถูกแจ้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ยา ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับการนำตัวยาที่ผิดกฎหมายมาใช้ในการทำศัลยกรรมให้แก่ลูกค้า โดย หมอไพศาล ถูกจับขณะทำศัลยกรรมให้ลูกค้ารายหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หมอไพศาล ไม่ยอมให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ได้ร้องขอพบทนายความ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่สน.ลาดพร้าวพื้นที่เจ้าของคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทั่งเมื่อเวลา 22.20 น.ชุดจับกุมได้นำตัว หมอไพศาล มาถึงยังสน.ลาดพร้าว โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน และทันทีที่หมอไพศาลเดินทางมาถึงได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่ายังไม่ทราบว่าตนถูกจับกุมในข้อหาใด
สำหรับคดีคนร้าย 2 คน บุกยิง นางรวีวรรณ บริเวณหน้าบ้านพักดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ก.ย.2550 ต่อมาชุดสืบสวนกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รักษาการผู้บังคับการปราบปราม (รักษาการ ผบก.ป.) พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ ผกก.1 บก.ป.(ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) พร้อมพนักงานสอบสวนได้สอบสวนจนสามารถจับกุม นายจตุรงค์ เบ็ญกูล อายุ 25 ปี มือปืน ก่อนจะให้การรับสารภาพ พร้อมทั้งให้การซัดทอดกลุ่มผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน คือ นายประกอบ ศรีลาด หรือ กอบ อายุ 29 ปี และ นายศักดา เฮงสวัสดิ์ อายุ 32 ปี น้องชาย นพ.กวีวัธน์ โดยทั้งสองเกี่ยวข้องกับคดีนี้ในส่วนของผู้ใช้จ้างวานฆ่า
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับบุคคลทั้งสาม ต่อศาลอาญา และศาลได้อนุมัติหมายจับทั้ง 3 คน ได้แก่ นายจตุรงค์ นายประกอบ และ นายศักดา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พกพาอาวุธปืนในไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร กระทั่งพนักงานสอบสวนได้หลักฐานใหม่ที่เชื่อมโยงว่าหมอไพศาล อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของนางรวิวรรณ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2550 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.ได้เข้าแจ้งความเอาผิด หมอไพศาล ในความผิดผลิตยาโดยไม่ได้รับอนุญาต และผลิตยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา จากนั้นพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนคดีโดยมีความสั่งฟ้องไปแล้ว