โถ...ทนายความ “ทักษิณ” กางปีกป้องนายเข้าแจ้งความกับกองปราบให้เอาผิด “วีระ สมความคิด” ข้อหาแจ้งความเท็จ อ้าง สตช.-ตำรวจสันติบาลตรวจสอบโฟนอินและออกแถลงการณ์หมิ่นสถาบัน-ศาล สรุปไม่ผิด แต่ “วีระ” ยังกลั่นแกล้งให้นายต้องรับโทษ ขณะเดียวกัน ปฎิเสธไม่รู้ “ทักษิณ-เมีย” ซุกหัวอยู่ไหน ต้องตรวจสอบถูกเมืองผู้ดีถอนวีซ่าหรือไม่
วันนี้ (8 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. นายอุดม โปร่งฟ้า ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีต ผบช.น.และ ส.ส.จังหวัดอ่างทอง 3 สมัย พรรคชาติไทย ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจโดยตรงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีฯ และผู้ต้องหาคดีที่ดินรัชดาฯเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.บุญเลิศ กัลยาณมิตร พนักงานสอบสวน (สบ 2) กก.1 บก.ป. เพื่อให้ดำเนินคดีต่อนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ในข้อหาแจ้งความเท็จและความผิดต่อเจ้าพนักงานยุติธรรม ตาม ป.อาญา มาตรา 12
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา นายวีระได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่กองปราบปรามให้ดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ในข้อหาตามความผิด ตามกฎหมาย ปอ.มาตรา 112 ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ปอ.มาตรา 198 ดูหมิ่นศาล หรือผู้พิพากษา ในการพิจารณา หรือพิพากษาคดี หลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ออกแถลงการจากลอนดอนประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 22 ต.ค.และโฟนอินในวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งสองเหตุการณ์มีความเชื่อมโยงกัน
โดยนายอุดมได้นำเอกสารหลักฐานหนังสือมอบอำนาจ พล.ต.ท.วิโรจน์ ซึ่งได้รับมอบอำนาจโดยตรงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึงหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ ที่มีการลงข่าวว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ลงมติว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เข้าข่ายความผิดใดๆมาเป็นหลักฐานมอบให้กับพนักงานสอบสวน
นายอุดม กล่าวว่า ที่เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ในครั้งนี้เนื่องจากนายวีระเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่โฟนอินเข้ามาเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ทั้งที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีมติเห็นว่าการกระทำดังกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เข้าข่ายความผิด ดังนั้น การมาแจ้งความของนายวีระเสมือนกับเป็นการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน และตนอยากฝากเตือนไปถึงกลุ่มคน หรือบุคคลใดที่จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณเสียหายทั้งทางแพ่ง ทางอาญา ไม่ว่าจะเป็นการดูหมิ่นกล่าวโทษ ใส่ร้ายป้ายสีให้เสียหาย ทางทีมทนายความจะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเอาผิด ทั้งทางแพ่งและอาญา ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการฟ้องร้องไปแล้วกว่า 80 คดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้าแจ้งความของนายอุดมครั้งนี้ได้มี นายวรัญชัย โชคชนะ แกนนำกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ เดินทางมาให้กำลังใจพร้อมถือป้ายด่านายวีระ และนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ด้วย นอกจากนี้เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา พล.ต.ท.วิโรจน์ ผู้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มอบหมายให้ นายปรัชญา เกษมเสนาะ แจ้งความ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี ให้ดำเนินคดีกับ ผู้บริหารและพนักงานของบริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไทยเดย์ด็อทคอม จำกัด และศิลปินกู้ชาติ ในความผิดร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หรือกระทำโดยการกระจายเสียง หรือกระจายภาพ หรือกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่นใด โดยน่าจะทำให้ได้รับความเสียหาย
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำและรวบรวมหลักฐานเอาไว้ก่อนนำเสนอเรื่องต่อผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป
ทางด้าน นายวัชระ แสงประทุม ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณพำนักอยู่ที่ในประเทศใด และอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ถูกประเทศอังกฤษถอนวีซ่าจริงหรือไม่
วันนี้ (8 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. นายอุดม โปร่งฟ้า ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีต ผบช.น.และ ส.ส.จังหวัดอ่างทอง 3 สมัย พรรคชาติไทย ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจโดยตรงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีฯ และผู้ต้องหาคดีที่ดินรัชดาฯเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.บุญเลิศ กัลยาณมิตร พนักงานสอบสวน (สบ 2) กก.1 บก.ป. เพื่อให้ดำเนินคดีต่อนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ในข้อหาแจ้งความเท็จและความผิดต่อเจ้าพนักงานยุติธรรม ตาม ป.อาญา มาตรา 12
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา นายวีระได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่กองปราบปรามให้ดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ในข้อหาตามความผิด ตามกฎหมาย ปอ.มาตรา 112 ดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ปอ.มาตรา 198 ดูหมิ่นศาล หรือผู้พิพากษา ในการพิจารณา หรือพิพากษาคดี หลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ออกแถลงการจากลอนดอนประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 22 ต.ค.และโฟนอินในวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งสองเหตุการณ์มีความเชื่อมโยงกัน
โดยนายอุดมได้นำเอกสารหลักฐานหนังสือมอบอำนาจ พล.ต.ท.วิโรจน์ ซึ่งได้รับมอบอำนาจโดยตรงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึงหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ ที่มีการลงข่าวว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ลงมติว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เข้าข่ายความผิดใดๆมาเป็นหลักฐานมอบให้กับพนักงานสอบสวน
นายอุดม กล่าวว่า ที่เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ในครั้งนี้เนื่องจากนายวีระเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่โฟนอินเข้ามาเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ทั้งที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีมติเห็นว่าการกระทำดังกล่าวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เข้าข่ายความผิด ดังนั้น การมาแจ้งความของนายวีระเสมือนกับเป็นการแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน และตนอยากฝากเตือนไปถึงกลุ่มคน หรือบุคคลใดที่จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณเสียหายทั้งทางแพ่ง ทางอาญา ไม่ว่าจะเป็นการดูหมิ่นกล่าวโทษ ใส่ร้ายป้ายสีให้เสียหาย ทางทีมทนายความจะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเอาผิด ทั้งทางแพ่งและอาญา ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการฟ้องร้องไปแล้วกว่า 80 คดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้าแจ้งความของนายอุดมครั้งนี้ได้มี นายวรัญชัย โชคชนะ แกนนำกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ เดินทางมาให้กำลังใจพร้อมถือป้ายด่านายวีระ และนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ด้วย นอกจากนี้เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา พล.ต.ท.วิโรจน์ ผู้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มอบหมายให้ นายปรัชญา เกษมเสนาะ แจ้งความ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี ให้ดำเนินคดีกับ ผู้บริหารและพนักงานของบริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไทยเดย์ด็อทคอม จำกัด และศิลปินกู้ชาติ ในความผิดร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หรือกระทำโดยการกระจายเสียง หรือกระจายภาพ หรือกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่นใด โดยน่าจะทำให้ได้รับความเสียหาย
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำและรวบรวมหลักฐานเอาไว้ก่อนนำเสนอเรื่องต่อผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป
ทางด้าน นายวัชระ แสงประทุม ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบว่าขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณพำนักอยู่ที่ในประเทศใด และอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ถูกประเทศอังกฤษถอนวีซ่าจริงหรือไม่