ตร.ทำเหมือนเดิม “ล้อมคอก” สั่งเพิ่มกำลังดูแลรอบทำเนียบ ตั้งด่านตรวจเพิ่มเน้นตรวจรถ จยย. หลังเกิดเหตุสัตว์นรกลอบกัดปาระเบิดใส่พันธมิตรฯ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 6 ราย ส่วนเหตุหนุ่มวัย 46 ถูกยิงเสียชีวิต ตร.พบเมาซ่าตะโกน “ลุยแม่งเลย” ฝ่าแนวกั้น ตร.ก่อนถูกยิงเสียชีวิต รอตรวจดูภาพวงจรปิดจับภาพคนร้ายได้หรือไม่
วันนี้ (30 ต.ค.) เมื่อเวลา 06.30 น. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สิงห์ไกร สารวัตรเวร สน.ดุสิต ได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณริมฟุตปาธด้านข้างที่ทำการสำนักนายกรัฐมนตรี แยกมิสกวัน ตัดแยกวังแดง แขวงและเขตดุสิต กทม. จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.1 แพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกำลังฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ในที่เกิดเหตุพบ นายสังเวียน รุจิโมละ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 701/51 ถนนสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อโปโลสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ ใส่รองเท้าแตะสีแดง จากการตรวจสอบตามร่างกายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าที่ตาขวาทะลุท้ายทอย 1 นัด นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนขนาดเดียวกันตกอยู่เกลื่อนพื้นถนนอีกจำนวนหลายปลอก และพบใบเสร็จชำระค่าเหล้าตกอยู่ใกล้ศพผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมเอาไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมา นางรัตนา สุขล้ำเลิศ อายุ 50 ปี พี่สาวของผู้ตายได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเปิดร้านขายเครื่องเสียงอยู่แถวบ้านหม้อ โดยน้องชายก็ทำงานอยู่ที่ร้าน และพักอยู่ที่บ้านเช่าย่านสวนจิตรลดากับพ่อ ก่อนเกิดเหตุคาดว่าน้องชายน่าจะไปกินเหล้ากับเพื่อน และกำลังจะเดินทางกลับบ้าน แต่ไม่รู้ว่าทำไมจึงมาเกิดเหตุเช่นนี้ซึ่งตนก็ยังไม่รู้อีกว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ตอนนี้ก็ยังไม่กล้าโทรศัพท์ไปบอกพ่อ ไม่เข้าใจว่าทำไมคนร้ายต้องลงมือทำกับคนเมาขนาดนี้ด้วย
ด้าน พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายได้เดินผ่านกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่เวรรักษาการเข้ามาทางแยกวังแดง ในลักษณะคล้ายคนเมาสุรา พร้อมส่งเสียงตะโกนว่า “ลุยแม่งเลย” หลังจากนั้นก็ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ยินเสียงคล้ายอาวุธปืนดังขึ้นเป็นระยะๆ ประมาณ 4-5 นัดซึ่งในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรอยรูกระสุนที่บริเวณป้ายหยุดรถประจำทาง จำนวน 1 นัด ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้ยังไม่มีความชัดเจน ต้องรอการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์ รวมทั้งการสอบพยานและญาติของผู้ตาย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้จะนำเข้าที่ประชุมเพื่อหารือและกำหนดแนวทางในด้านการรักษาความปลอดภัยต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.1 แถลงถึงกรณีมีชายฉกรรจ์ใช้ระเบิดปาเข้าใส่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ จนมีผู้บาดเจ็บ จำนวน 6 ราย และพบผู้เสียชีวิตบริเวณแยกมิสกวัน ว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นระเบิดสังหารแบบเอ็ม 26 ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นมีพยานเห็นว่าเป็นชายขี่ 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์จากแยก จปร. มาทางสะพานมัฆวานก่อนที่จะปาระเบิดเข้าใส่ ก่อนขี่หลบหนีไป ส่วนสาเหตุนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากฝ่ายใดหรือสาเหตุใด ต้องรอการสอบสวนอย่างละเอียดจากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิตนั้นทราบชื่อคือ นายสังเวียน รุจิโมระ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 701/151 ซ.สุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่คิ้วขวา ทะลุท้ายทอย จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายพักอาศัยอยู่กับพ่อย่านถนนสุโขทัย น่าจะอยู่ในอาการเมาสุราและฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้าไปกระทั่งถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว
“นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ตำรวจเพิ่มกำลังในการดูแลรอบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล และให้ตั้งด่านตรวจเพิ่มเติมเน้นการตรวจค้นรถจักรยานยนต์ พร้อมสั่งการให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่าสามารถจับภาพคนร้ายที่ก่อเหตุได้หรือไม่” พล.ต.ต.อนันต์ กล่าว
วันนี้ (30 ต.ค.) เมื่อเวลา 06.30 น. พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สิงห์ไกร สารวัตรเวร สน.ดุสิต ได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณริมฟุตปาธด้านข้างที่ทำการสำนักนายกรัฐมนตรี แยกมิสกวัน ตัดแยกวังแดง แขวงและเขตดุสิต กทม. จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.1 แพทย์นิติเวช รพ.รามาธิบดี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกำลังฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ในที่เกิดเหตุพบ นายสังเวียน รุจิโมละ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 701/51 ถนนสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อโปโลสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ ใส่รองเท้าแตะสีแดง จากการตรวจสอบตามร่างกายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าที่ตาขวาทะลุท้ายทอย 1 นัด นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนขนาดเดียวกันตกอยู่เกลื่อนพื้นถนนอีกจำนวนหลายปลอก และพบใบเสร็จชำระค่าเหล้าตกอยู่ใกล้ศพผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมเอาไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมา นางรัตนา สุขล้ำเลิศ อายุ 50 ปี พี่สาวของผู้ตายได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเปิดร้านขายเครื่องเสียงอยู่แถวบ้านหม้อ โดยน้องชายก็ทำงานอยู่ที่ร้าน และพักอยู่ที่บ้านเช่าย่านสวนจิตรลดากับพ่อ ก่อนเกิดเหตุคาดว่าน้องชายน่าจะไปกินเหล้ากับเพื่อน และกำลังจะเดินทางกลับบ้าน แต่ไม่รู้ว่าทำไมจึงมาเกิดเหตุเช่นนี้ซึ่งตนก็ยังไม่รู้อีกว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ตอนนี้ก็ยังไม่กล้าโทรศัพท์ไปบอกพ่อ ไม่เข้าใจว่าทำไมคนร้ายต้องลงมือทำกับคนเมาขนาดนี้ด้วย
ด้าน พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายได้เดินผ่านกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่เวรรักษาการเข้ามาทางแยกวังแดง ในลักษณะคล้ายคนเมาสุรา พร้อมส่งเสียงตะโกนว่า “ลุยแม่งเลย” หลังจากนั้นก็ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ยินเสียงคล้ายอาวุธปืนดังขึ้นเป็นระยะๆ ประมาณ 4-5 นัดซึ่งในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรอยรูกระสุนที่บริเวณป้ายหยุดรถประจำทาง จำนวน 1 นัด ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้ยังไม่มีความชัดเจน ต้องรอการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์ รวมทั้งการสอบพยานและญาติของผู้ตาย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้จะนำเข้าที่ประชุมเพื่อหารือและกำหนดแนวทางในด้านการรักษาความปลอดภัยต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.1 แถลงถึงกรณีมีชายฉกรรจ์ใช้ระเบิดปาเข้าใส่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ จนมีผู้บาดเจ็บ จำนวน 6 ราย และพบผู้เสียชีวิตบริเวณแยกมิสกวัน ว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นระเบิดสังหารแบบเอ็ม 26 ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นมีพยานเห็นว่าเป็นชายขี่ 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์จากแยก จปร. มาทางสะพานมัฆวานก่อนที่จะปาระเบิดเข้าใส่ ก่อนขี่หลบหนีไป ส่วนสาเหตุนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากฝ่ายใดหรือสาเหตุใด ต้องรอการสอบสวนอย่างละเอียดจากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิตนั้นทราบชื่อคือ นายสังเวียน รุจิโมระ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 701/151 ซ.สุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่คิ้วขวา ทะลุท้ายทอย จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายพักอาศัยอยู่กับพ่อย่านถนนสุโขทัย น่าจะอยู่ในอาการเมาสุราและฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้าไปกระทั่งถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว
“นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ตำรวจเพิ่มกำลังในการดูแลรอบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล และให้ตั้งด่านตรวจเพิ่มเติมเน้นการตรวจค้นรถจักรยานยนต์ พร้อมสั่งการให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่าสามารถจับภาพคนร้ายที่ก่อเหตุได้หรือไม่” พล.ต.ต.อนันต์ กล่าว
