2 วัยรุ่นเพิ่งพ้นโทษข้อหายาเสพติดเพียงวันเดียว ถูกตำรวจสายตรวจเรียกตรวจร้อนตัว ทิ้งรถวิ่งหนีเห็นจวนตัวคว้าปืนยิงตำรวจที่วิ่งตามสาหัส ต้องนำกำลังปิดล้อมจับได้ 1 คน ส่วนเพื่อนหนีไปได้ ค้นตัวพบปืน .38 พร้อมกระสุนอื้อ ซีดีลามกและยาเสพติด
วันนี้ (18 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ขณะที่ ด.ต.อดิชัย จันทร์ปุ่ม และ จ.ส.ต.พันธ์ศักดิ์ เคหะบาล เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.สายไหม กำลังออกปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจพื้นที่ผ่านมาบริเวณซอยสายไหม 67 ก็สังเกตเห็นชายวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีส้มขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับมาด้วยความเร็วสูงและท่าทางมีพิรุธ จึงได้เรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น
แต่ขณะที่วัยรุ่นคนขี่กำลังจะจอดรถจักรยานยนต์นั้นวัยรุ่นคนซ้อนท้ายก็รีบวิ่งหลบหนีเข้าไปในซอยดังกล่าว ก่อนจะพยายามปีนกำแพงหลบหนี จ.ส.ต.พันธ์ศักดิ์ จึงรีบวิ่งตามไปทันที เมื่อคนร้ายเห็นจวนตัวจึงชักปืนยิงใส่ จ.ส.ต.พันธ์ศักดิ์ จำนวน 4 นัด จนล้มลง กระสุนถูกเข้าที่บริเวณคอ และแข้งขาซ้าย จำนวน 2 นัด จากนั้น จ.ส.ต.พันศักดิ์ ได้ยิงปืนสวนไป 1 นัด แต่คนร้ายวิ่งปืนข้ามกำแพงหลบหนีไปได้ ระหว่างนั้นเองคนร้ายอีกคนก็ได้อาศัยจังหวะที่ ด.ต.อดิชัย กำลังจะเข้าไปช่วย จ.ส.ต.พันธ์ศักดิ์ เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ด.ต.อดิชัย จึงได้แจ้งวิทยุเรียกกำลังเสริมเพื่อช่วยกันสกัดจับคนร้ายทันที
ต่อมา พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ ผกก.สน.สายไหม ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม พร้อมประสานขอกำลังสุนัขตำรวจเข้าตั้งแถวเรียงหน้ากระดานปิดล้อมตรวจค้นภายในป่าหญ้าซึ่งมีพื้นที่กว้างกว่า 10 ไร่ จนกระทั่งเวลบาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็พบกางเกงยีนส์ถูกถอดทิ้งไว้ที่ขอบบ่อปลาใกล้กับที่เกิดเหตุ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นก็ทำการค้นหาต่อจนกระทั่งพบคนร้ายทราบชื่อต่อมาคือ นายมีชัย หันคำ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 11 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี นั่งซ่อนตัวอยู่ภายในป่ากกในสภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีแดง มีรอยสักเต็มตัว จึงเข้าจับกุมเอาไว้ได้พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และปลอกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 4 ปลอก ก่อนนำตัวมาสอบปากคำ
จากการสอบสวนนายมีชัย ให้การรับสารภาพว่า เพิ่งพ้นโทษจากคดียาเสพติดมาเมื่อวานนี้ (17ต.ค.) โดยมีเพื่อนชื่อเอก ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริงมารับ จนช่วงเช้าวันนี้ตนกับนายเอกก็เข้าไปเสพยากันภายในชุมชนคลองหก จากนั้นก็ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกมาจนกระทั่งมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนจึงรีบวิ่งหลบหนีเนื่องจากตนพกอาวุธปืนมาด้วย เมื่อตำรวจวิ่งตามมาจวนจะถึงตัวแล้ว ตนจึงยิงใส่ไป 4 นัด ก่อนจะถอดเสื้อผ้าแล้วหนีเข้าไปแอบในป่ากกจนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้นบริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ พบกระเป๋าสะพายสีส้มของนายมีชัยตกอยู่ โดยจากการตรวจค้นภายในพบกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 25 นัด เครื่องเล่นซีดี 1 เครื่อง วีซีดีลามากจำนวนกว่า 100 แผ่น และอุปกรณ์การเสพยาบ้าอีก 1 ชุด จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง ร.ต.อ.กิตติ์ ยังมี พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.สายไหม ดำเนินคดีในข้อหาขัดขืนการจับกุม และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ ผกก.สน.สายไหม กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของ ผู้ต้องหาพบว่า เคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์และเสพยาในพื้นที่ สน.บางชัน มาแล้ว 3 ครั้ง ส่วนนายเอก เพื่อนของผู้ต้องหาที่หลบหนีไปนั้น ขณะนี้ทราบชื่อแล้ว คือ นายเอกลักษณ์ ทองอินทร์ อายุ 24 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับอาการของ จ.ส.ต.พันธ์ศักดิ์ ขณะแพทย์ได้ทำการรักษาจนอาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว
วันนี้ (18 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ขณะที่ ด.ต.อดิชัย จันทร์ปุ่ม และ จ.ส.ต.พันธ์ศักดิ์ เคหะบาล เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.สายไหม กำลังออกปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจพื้นที่ผ่านมาบริเวณซอยสายไหม 67 ก็สังเกตเห็นชายวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีส้มขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับมาด้วยความเร็วสูงและท่าทางมีพิรุธ จึงได้เรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น
แต่ขณะที่วัยรุ่นคนขี่กำลังจะจอดรถจักรยานยนต์นั้นวัยรุ่นคนซ้อนท้ายก็รีบวิ่งหลบหนีเข้าไปในซอยดังกล่าว ก่อนจะพยายามปีนกำแพงหลบหนี จ.ส.ต.พันธ์ศักดิ์ จึงรีบวิ่งตามไปทันที เมื่อคนร้ายเห็นจวนตัวจึงชักปืนยิงใส่ จ.ส.ต.พันธ์ศักดิ์ จำนวน 4 นัด จนล้มลง กระสุนถูกเข้าที่บริเวณคอ และแข้งขาซ้าย จำนวน 2 นัด จากนั้น จ.ส.ต.พันศักดิ์ ได้ยิงปืนสวนไป 1 นัด แต่คนร้ายวิ่งปืนข้ามกำแพงหลบหนีไปได้ ระหว่างนั้นเองคนร้ายอีกคนก็ได้อาศัยจังหวะที่ ด.ต.อดิชัย กำลังจะเข้าไปช่วย จ.ส.ต.พันธ์ศักดิ์ เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ด.ต.อดิชัย จึงได้แจ้งวิทยุเรียกกำลังเสริมเพื่อช่วยกันสกัดจับคนร้ายทันที
ต่อมา พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ ผกก.สน.สายไหม ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม พร้อมประสานขอกำลังสุนัขตำรวจเข้าตั้งแถวเรียงหน้ากระดานปิดล้อมตรวจค้นภายในป่าหญ้าซึ่งมีพื้นที่กว้างกว่า 10 ไร่ จนกระทั่งเวลบาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็พบกางเกงยีนส์ถูกถอดทิ้งไว้ที่ขอบบ่อปลาใกล้กับที่เกิดเหตุ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นก็ทำการค้นหาต่อจนกระทั่งพบคนร้ายทราบชื่อต่อมาคือ นายมีชัย หันคำ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 11 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี นั่งซ่อนตัวอยู่ภายในป่ากกในสภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีแดง มีรอยสักเต็มตัว จึงเข้าจับกุมเอาไว้ได้พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และปลอกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 4 ปลอก ก่อนนำตัวมาสอบปากคำ
จากการสอบสวนนายมีชัย ให้การรับสารภาพว่า เพิ่งพ้นโทษจากคดียาเสพติดมาเมื่อวานนี้ (17ต.ค.) โดยมีเพื่อนชื่อเอก ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริงมารับ จนช่วงเช้าวันนี้ตนกับนายเอกก็เข้าไปเสพยากันภายในชุมชนคลองหก จากนั้นก็ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกมาจนกระทั่งมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนจึงรีบวิ่งหลบหนีเนื่องจากตนพกอาวุธปืนมาด้วย เมื่อตำรวจวิ่งตามมาจวนจะถึงตัวแล้ว ตนจึงยิงใส่ไป 4 นัด ก่อนจะถอดเสื้อผ้าแล้วหนีเข้าไปแอบในป่ากกจนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้นบริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ พบกระเป๋าสะพายสีส้มของนายมีชัยตกอยู่ โดยจากการตรวจค้นภายในพบกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 25 นัด เครื่องเล่นซีดี 1 เครื่อง วีซีดีลามากจำนวนกว่า 100 แผ่น และอุปกรณ์การเสพยาบ้าอีก 1 ชุด จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง ร.ต.อ.กิตติ์ ยังมี พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.สายไหม ดำเนินคดีในข้อหาขัดขืนการจับกุม และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ ผกก.สน.สายไหม กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของ ผู้ต้องหาพบว่า เคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์และเสพยาในพื้นที่ สน.บางชัน มาแล้ว 3 ครั้ง ส่วนนายเอก เพื่อนของผู้ต้องหาที่หลบหนีไปนั้น ขณะนี้ทราบชื่อแล้ว คือ นายเอกลักษณ์ ทองอินทร์ อายุ 24 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับอาการของ จ.ส.ต.พันธ์ศักดิ์ ขณะแพทย์ได้ทำการรักษาจนอาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว