“สนธิ” แฉรัฐบาล “หอกหัก” ส่งคนแทรกซึมลอบสังหารในทำเนียบ หลังความพยายามสลายชุมนุมไม่ได้ผล เตือนจะถูกตอบโต้อย่างสาสม ระบุวิกฤตการเมืองทุกวันนี้ล้วนมาจาก กกต.ชั่วบางคนไม่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ปล่อยนักการเมืองชั่วเข้าสภาจัดตั้งรัฐบาล ภูมิใจนักศึกษา ลูกหลานคนหนุ่มสาวได้ลุกขึ้นมาร่วมสู้แล้ว เย้ย “หมัก” โดนถอนหงอก ถ้ายังเป็นคนจะเอาหน้าแทรกไว้ไหน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
วันนี้ (6 ก.ย.) เวลาประมาณ 22.10 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีหน้าทำเนียบรัฐบาล โดนตอนหนึ่งได้เล่าเหตุการณ์ผิดปกติให้ฟังว่าในวันนี้ได้มีบุคคลที่เป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คนที่พกอาวุธปืนได้เข้ามาประชิดตัวขณะที่ตนกำลังหลบอยู่ในมุมแห่งหนึ่ง แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ถูกหน่วยรักษาความปลอดภัยของพันธมิตรฯ ได้ขัดขวางและนำตัวออกไป ซึ่งเวลานี้ฝ่ายรัฐบาลไม่กล้าใช้กำลังสลายการชุมนุม เนื่องจากไม่มีความชอบธรรม และเขาสู้เราไมได้เรื่องคุณธรรมจริยธรรม ดังนั้นจึงต้องเปลี่ยนมาใช้วิธีทำร้ายผู้นำ
นายสนธิ กล่าวต่อว่า พวกเขา(รัฐบาล)ไปไหนก็มีแต่คนสาปแช่ง และวันนี้จึงมีนักศึกษา เด็กๆ เข้ามาเดินขบวนนับหมื่นคน นับวันก็มีแต่คนมาไล่ และเมื่อสักครู่นี้ก็มีเด็กมาขึ้นเวทีถอนหงอกผู้ใหญ่ เด็กผู้หญิงจากขอนแก่นขึ้นมาพูดจาชนิดที่ถ้าคนอย่างสมัครมีความเป็นมนุษย์จะไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปแทรกไว้ที่ไหน
หลังจากนั้น นายสนธิ กล่าวว่า ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่เคยมีพระราชดำรัสผิดพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อย่าให้คนไม่ดีมาปกครองบ้านเมือง แต่ก่อนหน้านั้นได้ทรงตรัสว่าใครมีหน้าที่อะไรก็ให้ทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด
นายสนธิ ได้ยกตัวอย่างเรื่องการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถ้าทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตั้งแต่ต้นก็จะไม่มีสัตว์นรกเหล่านี้เข้ามาเป็นรัฐบาลให้พวกเราต้องเหนื่อยออกมาไล่ เช่นถ้ามีการให้ใบแดงกับ นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนที่โกงการเลือกตั้งก่อนวันที่ 23 ธ.ค.2459 จากนั้นเสนอให้มีการยุบพรรคพลังประชาชน และเชื่อว่าตามกระบวนการจะต้องมีการยุบพรรคพลังประชาชนภายในวันที่ 23 ก.พ.51 แต่เป็นเพราะมี กกต.ชั่วเพียง 2 คน สมรู้ร่วมคิดกับพรรคพลังประชาชนจนทำให้เกิดเหตุการณ์ในทุกวันนี้ขึ้นมา ดังนั้นวิกฤตการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นเป็น กกต. และตำรวจชั่วๆ พวกนี้ร่วมกันก่อขึ้นมา
นายสนธิ ได้กล่าวยกย่องพี่น้องประชาชนที่เข้าร่วมการชุมนุมว่ามีจิตใจแข็งแกร่งดั่งเพชร ทำให้ฝ่ายรัฐบาลรู้สึกกลัวมากๆ เพราะเป็นการต่อสู้ที่เหมือนกับแม่ที่ปกป้องลูกที่ยอมตาย เหมือนกับการปกป้องชาติในทุกวันนี้
“เวลานี้บรรดาแกนนำพันธมิตรฯ ทั้งหมดล้วนอายุมาก ทุกคนล้วนอายุเกินกว่า 60 หรือน้อยกว่า 60 ปีเพียงคนเดียว คนในวัยนี้น่าจะเป็นช่วงที่อยู่กับลูกหลาน อยู่อย่างสงบ แต่ก็ต้องลุกขึ้นมาสู้เหมือนกับพี่น้อง อย่างไรก็ดีวันนี้ที่น่าภูมิใจก็คือมีลูกหลานอายุ 20 กว่า ได้ออกมาสู้ไม่ถอยทำให้ภูมิใจ และเป็นการต่อสู้ที่ไม่เสียหาย” นายสนธิ ระบุ ในตอนท้ายได้เตือนหน่วยล่าสังหารของรัฐบาลว่าถ้าผลีผลามเข้ามาจะต้องโดนสวนกลับแน่