ส.ส.จากพรรคพลังประชาชน เข้าแจ้งความให้ตำรวจจับกุม “อมร-สำราญ-ศิริชัย-สาวิทย์” ในข้อหา พาคนไปกักขังหน่วงเหนี่ยวและทำให้ตกใจ กรณีไปปิดล้อมรัฐสภา
วันนี้ (14 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ สน.ดุสิต นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี นายธเนศ เครือรัตน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พล.ท.มะ โพธิ์งาม ส.ส.กาญจนบุรี นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคพลังประชาชน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ธันยวัต ชวาฤทธิ์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ดุสิต เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับแกนนำพันธมิตรฯรุ่น 2 ที่พาประชาชนไปปิดล้อมรัฐสภา ใน 2 ข้อหา ประกอบด้วย หน่วงเหนี่ยวกักขัง ตามมาตรา 310 ผู้ใด หน่วงเหนี่ยวกักขังผูอื่น หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และให้ผู้อื่นนั้น กระทำการใด ให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และข้อหาข่มขู่ ทำให้เกิดคตวามกลัว ตามมาตรา 392 ผู้ใด ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ มีโทษปรับไม่เกิน 1 พันบาท โดยนำหลักฐานเป็นภาพถ่ายกล้องวงจรปิดรอบอาคารรัฐสภา ที่ถูกกลุ่มพันธมิตรฯใช้ผ้าดำคลุม ภาพรอยกระสุนที่กระจกชั้น 2 ของอาคาร 2 รัฐสภา มอบไว้ให้เป็นหลักฐานด้วย
นายสุชาติ กล่าวว่า ที่มาแจ้งความ เนื่องจากในวันเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่มีการประชุมสภา เพื่อแถลงนโยบายของรัฐบาล กลุ่มพันธมิตรฯได้ไปปิดล้อมอาคารรัฐสภาไว้ ทำให้ ส.ส.ไม่สามารถเข้าไปทำงานได้ และภายหลังเมื่อเข้าไปประชุมสภาได้แล้ว กลุ่มพันธมิตรฯก็ยังปิดล้อมอาคารรัฐสภาอยู่ นอกจากนี้ ยังมีการตะโกนข่มขู่ต่างๆ นานา จนกระทั่งประชุมสภาเสร็จ ก็ไม่สามารถกลับออกมาได้ ถูกปิดล้อมอยู่นาน จนช่วงเย็นในเวลา 16.00 น.จึงสามารถออกมาได้เพียงบางส่วน
“ทางกลุ่มผู้ชุมนุม พยายามจะพังรั้วเข้าไปข้างใน นอกจากนี้ ยังมีการตะโกนขู่ฆ่า ปลุกระดมให้กลุ่มผู้ชุมนุม ระบุให้เข้าไปฆ่ามัน ซึ่งหากพังรั้วเข้าไปได้ ไม่ทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้น เนื่องจากทางกลุ่มพันธมิตรฯ มีการเตรียมยางและน้ำมัน เหมือนจะเข้าไปเผา ส่วนรอยกระสุนเกิดขึ้นช่วงประมาณเวลา 17.30 น.ที่กลุ่มพันธมิตรฯพยายามจะบุกเข้าไป และกลุ่มพันธมิตรฯมีการใช้ปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ จึงมีรอยกระสุนอยู่ที่กระจกชั้น 2 ของอาคาร 2 รัฐสภา นอกจากนี้ ยังมีการนำผ้าดำไปปิดล้อมไว้หมดโดยรอบด้วย” นายสุชาติ กล่าว
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นได้แจ้งความให้ดำเนินคดีกับแกนนำทั้ง 4 คนก่อน ประกอบด้วย นายอมร อมรรัตนานนท์ นายศิริชัย ไม้งาม นายสำราญ รอดเพชร นายสาวิทย์ แก้วหวาน ซึ่งเบื้องต้นพบว่า มี 4 คนดังกล่าวที่เป็นแกนนำ และหลังจากนี้ หากตรวจสอบหลักฐานพบว่า มีแกนนำคนใดเพิ่มเติม ก็จะมาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมภายหลัง
ด้าน พ.ต.ต.ธันยวัต กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับแจ้งความไว้ จากนั้นจะสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด และจะรวบรวมคำให้การส่งให้คณะกรรมการของ บช.น.ซึ่งทำคดีเกี่ยวกับพันธมิตรฯอยู่แล้วดำเนินการต่อไป