ตำรวจบ้าเลือด ยิงแก๊สน้ำตาใส่ฝูงชนบริเวณลานพระบรมรูป อีกชุดใหญ่ 50 นัด มีผู้บาดเจ็บขาขาดเพิ่มอีก 2 ราย
วันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลา 18.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯได้ไปรวมตัวกันบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้ากันจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นคนนั้น ทำให้ตำรวจที่เข้าประจำการอยู่บริเวณหน้า บช.น. ได้ตัดสินใจใช้แก๊สน้ำตายิงเข้าใส่ฝูงชนเป็นระยะๆ โดยยิงใส่ในเบื้องต้นราว 10 นัด จากนั้นระดมยิงอีกชุดใหญ่ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 50 นัด จนกลุ่มผู้ชุมนุม ต้องถอยร่นไปจนถึงบริเวณหน้าวัดเบญจมบพิตร ขณะเดียวกัน รถพยาบาลจำนวนมากวิ่งเข้าไปในที่เกิดเหตุและนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว
ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมยิงลูกไฟขนาดใหญ่ใส่พันธมิตรฯ ทำให้บางส่วนต้องถอยร่นไปจนถึงรั้วสนามเสือป่า และได้เริ่มทยอยเดินกลับทำเนียบบ้าง ซึ่งมีประชาชนได้รับบาดเจ็บไฟลวกร่างกายเป็นส่วนๆ จากนั้นในระลอก 2 ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตามีควันสีขาวขับไล่พันธมิตรฯอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด เวลา 19.05 น.ที่ผ่านมา มีผู้ได้บาดเจ็บขาขาดแล้ว 2 คนในที่เกิดเหตุ รวมทั้งตำรวจได้เข้าทุบทำลายรถเครื่องเสียงของพันธมิตรฯ ด้วย
เวลา 19.13 น.มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกระเบิดจนมือขาและใบหน้าเละไปทั้งแถบ อาการเป็นตายเท่ากัน
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงในสายทหาร เปิดเผยว่า ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นจะยุติภายในคืนนี้ โดยขณะนี้ มีการเตรียมกำลังทหารไว้พร้อมแล้ว และเหตุการณ์ทั้งหมดรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ ซึ่งสอดคล้องกับทหารที่เดินทางมาและได้ตอบคำถามประชาชนขณะที่ชุมนุมอยู่ว่า ทหารจะมาช่วยประชาชน
เวลา 19.26 น. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.กล่าวปฏิเสธถึงเหตุการณ์ที่ตำรวจยิงอาวุธใส่ประชาชนจนทำให้ขาขาด ใบหน้าเละว่า ขอยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ใช้ระเบิดหรืออาวุธ แต่ไม่รู้ใครเป็นคนทำ ตำรวจใช้เพียงแก๊สน้ำตาเท่านั้น
“ขณะนี้ม็อบได้มาปิดล้อมเฉพาะที่ บช.น.เท่านั้น หากที่นี่แตก ม็อบจะทำอะไรก็ได้ เพราะที่ บช.น.เป็นศูนย์กลางออกคำสั่งตำรวจ และตำรวจจะทำการป้องกัน บช.น.อย่างสุดความสามารถ ตำรวจไม่มีนโยบายทำร้ายประชาชน ไม่มีนโยบายสลายม็อบ แต่จะใช้กำลังเพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น รวมทั้งขณะนี้ ยังไม่ได้รับคำสั่งอะไรจากรัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรี” พล.ต.ท.สุชาติ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุการณ์ยิงระเบิดเข้าใส่ผู้ชุมนุมจนทำให้มีผู้บาดเจ็บขาขาด พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า ยังไม่ทราบว่ามีคนขาขาด ขณะนี้สถานการณ์แรงมาก
วันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลา 18.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯได้ไปรวมตัวกันบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้ากันจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นคนนั้น ทำให้ตำรวจที่เข้าประจำการอยู่บริเวณหน้า บช.น. ได้ตัดสินใจใช้แก๊สน้ำตายิงเข้าใส่ฝูงชนเป็นระยะๆ โดยยิงใส่ในเบื้องต้นราว 10 นัด จากนั้นระดมยิงอีกชุดใหญ่ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 50 นัด จนกลุ่มผู้ชุมนุม ต้องถอยร่นไปจนถึงบริเวณหน้าวัดเบญจมบพิตร ขณะเดียวกัน รถพยาบาลจำนวนมากวิ่งเข้าไปในที่เกิดเหตุและนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว
ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมยิงลูกไฟขนาดใหญ่ใส่พันธมิตรฯ ทำให้บางส่วนต้องถอยร่นไปจนถึงรั้วสนามเสือป่า และได้เริ่มทยอยเดินกลับทำเนียบบ้าง ซึ่งมีประชาชนได้รับบาดเจ็บไฟลวกร่างกายเป็นส่วนๆ จากนั้นในระลอก 2 ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตามีควันสีขาวขับไล่พันธมิตรฯอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด เวลา 19.05 น.ที่ผ่านมา มีผู้ได้บาดเจ็บขาขาดแล้ว 2 คนในที่เกิดเหตุ รวมทั้งตำรวจได้เข้าทุบทำลายรถเครื่องเสียงของพันธมิตรฯ ด้วย
เวลา 19.13 น.มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกระเบิดจนมือขาและใบหน้าเละไปทั้งแถบ อาการเป็นตายเท่ากัน
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงในสายทหาร เปิดเผยว่า ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นจะยุติภายในคืนนี้ โดยขณะนี้ มีการเตรียมกำลังทหารไว้พร้อมแล้ว และเหตุการณ์ทั้งหมดรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ ซึ่งสอดคล้องกับทหารที่เดินทางมาและได้ตอบคำถามประชาชนขณะที่ชุมนุมอยู่ว่า ทหารจะมาช่วยประชาชน
เวลา 19.26 น. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.กล่าวปฏิเสธถึงเหตุการณ์ที่ตำรวจยิงอาวุธใส่ประชาชนจนทำให้ขาขาด ใบหน้าเละว่า ขอยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ใช้ระเบิดหรืออาวุธ แต่ไม่รู้ใครเป็นคนทำ ตำรวจใช้เพียงแก๊สน้ำตาเท่านั้น
“ขณะนี้ม็อบได้มาปิดล้อมเฉพาะที่ บช.น.เท่านั้น หากที่นี่แตก ม็อบจะทำอะไรก็ได้ เพราะที่ บช.น.เป็นศูนย์กลางออกคำสั่งตำรวจ และตำรวจจะทำการป้องกัน บช.น.อย่างสุดความสามารถ ตำรวจไม่มีนโยบายทำร้ายประชาชน ไม่มีนโยบายสลายม็อบ แต่จะใช้กำลังเพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น รวมทั้งขณะนี้ ยังไม่ได้รับคำสั่งอะไรจากรัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรี” พล.ต.ท.สุชาติ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุการณ์ยิงระเบิดเข้าใส่ผู้ชุมนุมจนทำให้มีผู้บาดเจ็บขาขาด พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า ยังไม่ทราบว่ามีคนขาขาด ขณะนี้สถานการณ์แรงมาก