วันนี้ (7 ต.ค.) เวลา 16.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาไม่ต่ำกว่า 20 ลูก เข้าใส่ฝูงชนบริเวณแยกสะพานซังฮี้ ถนนแยกการเรือน เพื่อเตรียมเปิดทางให้ ส.ส.ที่เข้าร่วมประชุมสภา ออกจากนอกบริเวณรัฐสภา ทางประตูพระที่นั่งวิมานเมฆ
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รัวระดมยิงแก๊สน้ำตา เพื่อผลักดันกลุ่มพันธมิตรฯให้ถอยไปเพื่อเป็นการเปิดทางให้กลุ่มส.ส.ที่ติดอยู่ในรัฐสภา หลังจากที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เปิดประชุมแถลงนโยบายรัฐบาล โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงยิงแก๊สน้ำตาอย่างต่อเนื่องนานเป็นเวลากว่า 30 นาทีแล้ว ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯได้หลบเลี่ยงแก๊สน้ำตาเดินถอยออกมา ทำให้ประตูด้านถนนอู่ทองใน ข้างพระที่นั่งวิมานเมฆสามารถเปิดออกได้ ส่งผลให้กลุ่มส.ส.ทยอยออกจากรัฐสภาได้ทั้งหมดแล้ว
ขณะเดียวกันรถพยาบาลก็ได้วิ่งเข้ามารับคนที่ได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งแม้ว่ารถพยาบาลวิ่งเข้ามารับคนบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ยอมหยุดยิงแก๊สน้ำตา ยังยิงไล่หลังรถพยาบาลที่เข้าไปรับผู้ที่ถูกแก๊สน้ำตาแถวบริเวณแยกถนนการเรือน
เมื่อเวลา 18.35 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ชุมนุมปิดล้อมรัฐสภา ได้ทยอยเดินทางถอยกลับมายังทำเนียบรัฐบาลบางส่วนแล้ว เพราะเห็นว่าเริ่มค่ำเกรงจะเกิดอันตรายมากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงรัวยิงแก๊สน้ำตาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ได้มีรถบัสขนาดใหญ่บรรทุกทหารเต็มคันรถจำนวน 10 คัน ได้วิ่งเข้าไปยังสนามเสือป่า แต่ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร
ต่อมาเวลา 18.45 น. ทหาร 2 นายแต่งชุดลายพรางได้นั่งรถกะบะสีดำ วิ่งฝ่าวงล้อมของพันธมิตรฯมุ่งหน้าไปยังบช.น. เมื่อพันธมิตรฯถามมาทำอะไร ทหารทั้งสองตอบว่ามาช่วยประชาชน พร้อมกับชูมือตบ
ในวันเดียวกัน ที่วชิระพยาบาบ ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 18.30 น. ขณะนี้ยอดผู้ได้รับบาดเจ็บจากแก๊สน้ำตาที่นำส่งรักษาพยาบาลยังวชิระพยาบาลเพิ่มขึ้นกว่า 100 คนแล้ว โดยทางโรงพยาบาลได้แจ้งว่า มีแพทย์ พยาบาล และเตียงนอนพอเพียงดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ตลอดทั้งคืน ซึ่งประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่จะผิวหนังไหม้ลงลึกถึงกระดูก อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10 นายได้รับบาดเจ็บเข้ารับการรักษาด้วย