รมว.ยุติธรรม เตรียมเปิดกรุแผนเก่าทำสงครามกับยาเสพติด ตั้งเป้ากวาดล้างให้หมดสิ้นภายใน 90 วัน พร้อมกำชับกรมราชทัณฑ์แยกขังนักค้ายารายสำคัญไม่ให้ปะปนกับนักโทษอื่น เพื่อควบคุมอย่างเข้มงวด
วันนี้ (1 ต.ค.)ที่กรมราชทัณฑ์ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมามอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติราชการ แก่นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บริหารและข้าราชการกรมราชทัณฑ์ โดยนายนัทธี ได้นำเสนอปัญหาและอุปสรรคในการทำงานของกรมราชทัณฑ์ว่า ขณะนี้มีผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำทั่วประเทศ 185,000 คน ทำให้สัดส่วนการดูแลนักโทษของเจ้าหน้าที่อยู่ที่ 1:17 สูงกว่ามาตรฐานสากลจะกำหนดไว้ที่อัตรา 1: 5
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2551 กรมราชทัณฑ์ได้รับงบประมาณทั้งสิ้น 8,666,628,500 บาท ส่วนใหญ่เป็นงบประมาณในการดูแลผู้ต้องขังประมาณ 150,000 คน แต่ในปีนี้มีผู้ต้องโทษถูกส่งตัวมาคุมขังมากถึง 185,000 คน จึงจำเป็นต้องของบประมาณกลางมาใช้ในการดูแลผู้ต้องขังที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ นายนัทธียังได้นำเสนอแนวทางการควบคุมผู้ต้องขังด้วยระบบอิเลคทรอนิกส์ในเรือนจำความมั่นคงสูงเพื่อตัดวงจรการลักลอบสั่งซื้อขายยาเสพติดจากในเรือนจำ
ด้าน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอให้กรมราชทัณฑ์เร่งระบายนักโทษต่างชาติ โดยทำข้อตกลงการแลกเปลี่ยนและโอนตัวนักโทษต่างชาติกลับประเทศ เพื่อลดภาระการดูแลผู้ต้องขัง สำหรับนโยบายการปราบปรามยาเสพติดในเรือนจำ หลังจากนี้จะนำนโยบายเดิมมาปรับปรุง โดยจะนำจุดเด่นของการทำสงครามกับยาเสพติดมาปรับใช้ และภายหลังรัฐบาลแถลงนโยบายจะมีการประกาศทำสงครามกับยาเสพติดให้หมดสิ้นภายใน 90 วัน ซึ่งจะต้องปรับปรุงข้อมูลใหม่ทั้งหมดรวมถึงบัญชีรายชื่อผู้ค้ายาเสพติด เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ยาเสพติดในปัจจุบันมากที่สุด อีกทั้ง ยังยืนยันให้แยกนักโทษคดีค้ายาเสพติด และนักโทษรายสำคัญไม่ให้ปะปนกับนักโทษรายอื่น เพื่อควบคุมตัวอย่างเข้มงวด
จากนั้น นายสมศักดิ์ได้เดินทางไปยังเรือนจำกลางบางขวาง เพื่อตรวจเยี่ยมแดน 5 ซึ่งเป็นเรือนนอนของนักโทษประหาร ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ปรับปรุงแดน 5 ใหม่ ใช้สำหรับเป็นเรือนนอนและที่คุมขังนักโทษประหารชีวิต โดยนายสมศักดิ์ได้ตรงเข้าไปดูเรือนนอน ซึ่งสภาพภายในแม้จะปรับปรุงใหม่แต่ก็ยังคงแออัด เนื่องจากผู้ต้องโทษประหารมีจำนวนกว่า 500 คน โดยทั้งหมดต้องประหารชีวิตที่ต้องใช้ชีวิตในเรือนจำมายาวนาน ทำให้แต่ละคนมีของใช้ส่วนตัวจำนวนมาก จึงทำให้สภาพเรือนนอนที่คับแคบอยู่แล้วมีสภาพแออัดมากขึ้น โดยนายสมศักดิ์ได้แวะพูดคุยกับนายวิศิษฐ์ พึ่งรัศมี อดีตเจ้าหน้าที่ป่าไม้ระดับ 5 มาเฟียตลาดไนท์บาซาร์ ตลาดวโรรส และตลาดอื่นๆ ในจังหวัดเชียงใหม่
วันนี้ (1 ต.ค.)ที่กรมราชทัณฑ์ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมามอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติราชการ แก่นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บริหารและข้าราชการกรมราชทัณฑ์ โดยนายนัทธี ได้นำเสนอปัญหาและอุปสรรคในการทำงานของกรมราชทัณฑ์ว่า ขณะนี้มีผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำทั่วประเทศ 185,000 คน ทำให้สัดส่วนการดูแลนักโทษของเจ้าหน้าที่อยู่ที่ 1:17 สูงกว่ามาตรฐานสากลจะกำหนดไว้ที่อัตรา 1: 5
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2551 กรมราชทัณฑ์ได้รับงบประมาณทั้งสิ้น 8,666,628,500 บาท ส่วนใหญ่เป็นงบประมาณในการดูแลผู้ต้องขังประมาณ 150,000 คน แต่ในปีนี้มีผู้ต้องโทษถูกส่งตัวมาคุมขังมากถึง 185,000 คน จึงจำเป็นต้องของบประมาณกลางมาใช้ในการดูแลผู้ต้องขังที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ นายนัทธียังได้นำเสนอแนวทางการควบคุมผู้ต้องขังด้วยระบบอิเลคทรอนิกส์ในเรือนจำความมั่นคงสูงเพื่อตัดวงจรการลักลอบสั่งซื้อขายยาเสพติดจากในเรือนจำ
ด้าน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอให้กรมราชทัณฑ์เร่งระบายนักโทษต่างชาติ โดยทำข้อตกลงการแลกเปลี่ยนและโอนตัวนักโทษต่างชาติกลับประเทศ เพื่อลดภาระการดูแลผู้ต้องขัง สำหรับนโยบายการปราบปรามยาเสพติดในเรือนจำ หลังจากนี้จะนำนโยบายเดิมมาปรับปรุง โดยจะนำจุดเด่นของการทำสงครามกับยาเสพติดมาปรับใช้ และภายหลังรัฐบาลแถลงนโยบายจะมีการประกาศทำสงครามกับยาเสพติดให้หมดสิ้นภายใน 90 วัน ซึ่งจะต้องปรับปรุงข้อมูลใหม่ทั้งหมดรวมถึงบัญชีรายชื่อผู้ค้ายาเสพติด เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ยาเสพติดในปัจจุบันมากที่สุด อีกทั้ง ยังยืนยันให้แยกนักโทษคดีค้ายาเสพติด และนักโทษรายสำคัญไม่ให้ปะปนกับนักโทษรายอื่น เพื่อควบคุมตัวอย่างเข้มงวด
จากนั้น นายสมศักดิ์ได้เดินทางไปยังเรือนจำกลางบางขวาง เพื่อตรวจเยี่ยมแดน 5 ซึ่งเป็นเรือนนอนของนักโทษประหาร ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ปรับปรุงแดน 5 ใหม่ ใช้สำหรับเป็นเรือนนอนและที่คุมขังนักโทษประหารชีวิต โดยนายสมศักดิ์ได้ตรงเข้าไปดูเรือนนอน ซึ่งสภาพภายในแม้จะปรับปรุงใหม่แต่ก็ยังคงแออัด เนื่องจากผู้ต้องโทษประหารมีจำนวนกว่า 500 คน โดยทั้งหมดต้องประหารชีวิตที่ต้องใช้ชีวิตในเรือนจำมายาวนาน ทำให้แต่ละคนมีของใช้ส่วนตัวจำนวนมาก จึงทำให้สภาพเรือนนอนที่คับแคบอยู่แล้วมีสภาพแออัดมากขึ้น โดยนายสมศักดิ์ได้แวะพูดคุยกับนายวิศิษฐ์ พึ่งรัศมี อดีตเจ้าหน้าที่ป่าไม้ระดับ 5 มาเฟียตลาดไนท์บาซาร์ ตลาดวโรรส และตลาดอื่นๆ ในจังหวัดเชียงใหม่