“จงรัก” จอแก้ว! ร่วมโชว์บุกทลายโกดังปั๊มดีวีดีเถื่อน

“จงรัก” จูงมือ 191 บุกทลายโกดังผลิตแผ่นดีวีดีเถื่อน มูลค่าเสียหาย 200 ล้าน ที่ชาวมาเลเซียอยู่เบื้องหลังเช่าโกดังร้างภายในเก็บซากรถเก่าบังหน้าปั๊มระบายขายลูกค้าในไทย และประเทศใกล้เคียง ตรวจยึดได้เพียงของกลางเพียบและผู้ต้องหาต่างด้าว 3 ราย ส่วนผู้บงการรายใหญ่เผ่นหนีทันท่วงที เพราะมีกล้องวงจรปิดติดรอบโรงงานจึงรู้ตำรวจบุกจับ

วันนี้ (24 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น.พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบช.น.พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบก.ตปพ.พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่น รอง ผบก.ตปพ. พ.ต.อ.สุมิตร คุณานุคุณ ผกก.1 บก.ตปพ. พ.ต.ต.สุทิน สวนดอกไม้ สว.งาน 2 บก.ตปพ. พ.ต.ต.อรรฆพงศ์ สุนทรวิภาค สว.งานธุระการ กก.1 บก.ตปพ. พร้อมเจ้าหน้าที่ บก.ตปพ.นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 290/2551 ลงวันที่ 24 ก.ย.2551 เข้าตรวจค้นภายในโกดังไม่มีเลขที่ ติดกับอาคารทีเอส โฮม เลขที่ 803/8 ตรงข้ามร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซอยพระรามสาม 41 ถนนพระรามสาม แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม.หลังสืบทราบได้ว่าโกดังดังกล่าวลักลอบผลิตแผ่นดีวีดีเถื่อน

ที่เกิดเหตุเป็นโกดังร้างภายในเป็นที่เก็บซากรถเก่า จากการตรวจสอบด้านในสุดของโกดังเจ้าหน้าที่พบโรงงานผลิตแผ่นดีวีดีเถื่อน ส่วนคนงานภายในโรงงานนั้นเมื่อรู้ว่าเจ้าหน้าทีเข้ามาจึงได้พากันวิ่งหลบหนีไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่พบเพียงเครื่องปั๊มแผ่นดีวีดีเถื่อน 1 เครื่อง เครื่องฉีดแผ่น 2 หัวฉีด เครื่องพิมพ์สี 1 เครื่อง เม็ดพลาสติก 3 ถุง ถุงละ 800 กก.และแผ่นดีวีดีที่ปั๊มเสร็จแล้วและกำลังอยู่ในขั้นตอนผลิตอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง พร้อมเก็บรายละเอียดที่พบในที่เกิดเหตุไปตรวจสอบ

ด้าน พ.ต.ต.อรรฆพงศ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายรับว่า โกดังดังกล่าวลักลอบผลิตแผ่นดีวีดีเถื่อนขาย โดยมีนายทุนใหญ่จากมาเลเซียเป็นผู้ลงทุน ซึ่งได้ลักลอบผลิตมาประมาณ 6 เดือน และได้นำวัสดุเข้ามาผลิตในประเทศไทย ก่อนส่งขายรายย่อยให้กับลูกค้าในประเทศไทย และละแวกใกล้เคียง นอกจากนี้ ยังส่งกลับไปประเทศมาเลเซีย ก่อนย้อนกลับเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังมาเฝ้าดูอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์ จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน สท 7879 กทม.ขับออกมาจากโรงงาน โดยมี นายธนวันต์ ถูรัตน์ชัชวาลย์ อายุ 36 ปี สัญชาติไทย เป็นผู้ขับขี่ และมี นายหว่อง อายุ 25 ปี กับ นายยง อายุ 21 ทั้ง 2 เป็นชาวมาเลเซีย นั่งอยู่ภายในรถคันดังกล่าว

พ.ต.ต.อรรฆพงศ์ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปจนกระทั่งถึงบริเวณหน้าวัดด่าน แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม.จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นภายในรถคันดังกล่าวก็พบ แผ่นดีวีดีบรรจุกล่องจำนวน 14,000 แผ่น เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไว้ พร้อมกับทำการสอบสวนได้ความว่าทั้ง 2 รายได้รับการว่าจ้างให้นำแผ่นดีวีดีไปส่งให้ลูกค้าแถวพระรามห้า โดยได้ค่าจ้าง 6,000 บาท โดยไม่รู้ว่าโรงงานดังกล่าวเป็นของใคร ซึ่งจากการตรวจสอบในโรงงานอย่างละเอียดพบว่ามีกล้องวงจรปิด เพื่อคอยดูเจ้าหน้าที่หรือคนที่เข้าออก จึงทำให้คนในโรงงานสามารถหลบหนีเจ้าหน้าที่ได้ทันก่อนเข้าจับกุม นอกจากนี้ ภายในโกดังจนถึงตัวโรงงานก็มีประตูปิดทึบหนาแน่นใส่กุญแจล็อกเป็นอย่างดี

“สำหรับมูลค่าความเสียหายในครั้งนี้ ประมาณ 200 ล้านบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันผลิตวัสดุ เทปวัสดุ แผ่นดีวีดี ละเมิดลิขสิทธิ์ นำเข้าเครื่องจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ได้แจ้งการผลิต และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมให้กับ นายหว่อง กับ นายยง ว่า เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้เร่งติดตามจับกุมผู้ที่อยู่เบื้องหลังและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้ พงส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” พ.ต.ต.อรรฆพงศ์ กล่าว