“วิเชียร” ติวเข้มลูกน้อง รปภ.เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

รอง ผบ.ตร.ทบทวนผู้บังคับบัญชาลุยงานรักษาความปลอดภัยจุดปราศรัย สถานที่เลือกตั้ง พร้อมกำชับทุกระดับกวาดล้างอาชญากรรม-กลุ่มอิทธิพล-มือปืนรับจ้าง ที่จะมีผลกระทบเชื่อมโยงการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.อย่างเคร่งครัด และเน้นย้ำให้จนท.เป็นกลางไม่วอกแวก


วันนี้ (19 ก.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำ ตร.ปฏิบัติหน้าที่รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมประชุมสรุปรักษาความเรียบร้อยและตรวจความพร้อมของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต เที่ยงธรรม และมีประสิทธิภาพ

พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า สำหรับแนวทางในการรักษาความเรียบร้อยนั้น ให้ บก.น.1-9 ประสาน กกต.เขต ในแต่ละพื้นที่เพื่อรับทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความต้องการในการขอรับการสนับสนุนจากฝ่ายตำรวจ พร้อมทั้งจัดชุดสืบสวนหาข่าวและจัดกำลังรักษาความปลอดภัยสถานที่เลือกตั้ง จุดปราศรัยหาเสียงสถานที่นับคะแนน ตลอดจนชุดขนส่งบัตรเลือกตั้ง และการรักษาความปลอดภัยสถานที่เก็บรักษาบัตรเลือกตั้งในพื้นที่รับผิดชอบ นอกจากนี้ยังกำชับให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและอาวุธสงคราม หาข่าวความเคลื่อนไหวที่มีผลกระทบต่อการเลือกตั้ง รวมทั้งกำชับเรื่องการวางตัวเป็นกลางของข้าราชการตำรวจทุกนายในสังกัด โดยเน้นย้ำถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวต่อว่า ในกรณีที่มีการกระทำผิดตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น ผู้พบการกระทำความผิด สามารถแจ้งต่อพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง และหากพบผู้กระทำผิดการเลือกตั้งและมีหลักฐานให้ควบคุมส่งตัวพนักงานสอบสวนดำเนินการโดยให้ถือว่าเป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า และหากพนักงานสอบสวนรับแจ้งหรือพบเองว่ามีการกระทำผิดกฎหมายให้ดำเนินการสอบสวนทันทีโดยไม่ต้องมีผู้มาร้องทุกข์ กล่าวโทษ

พล.ต.อ.วิเชียร ยังกล่าวถึงการจัดกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความเรียบร้อยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จะมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้งทั้งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล นอกจากนี้ ยังมีการจัดชุดรักษาความปลอดภัยประจำศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง จัดชุดสืบสวนหาข่าว เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งที่อาจทำให้เกิดผลกระทบการเลือกตั้ง จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน่วยเลือกตั้งละ 2 นาย รวมกำลังพลที่ใช้ในการปฏิบัติงาน 14,876 นาย ดูแลหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 6,337 หน่วย

“วันที่ 5 ต.ค.ชาว กทม.ออกมาใช้สิทธิเลือกคนดี มีความรู้ ความสามารถเพื่อทำหน้าที่พัฒนากรุงเทพมหานครให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ตลอดจนแก้ไขปัญหาความดือดร้อนของประชาชน ดังนั้น หากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งทั้งการซื้อเสียง หรือการจัดเลี้ยง สามารถแจ้งความกับตำรวจ หรือ โรงพักในพื้นที่ที่พบเห็นการกระทำผิด ส่วนผู้ที่มีการรับเงินซื้อเสียง รวมถึงทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด และมาแจ้งตำรวจก่อน การเลือกตั้งจะถือว่าไม่มีความผิด“ พล.ต.อ.วิเชียร กล่าว

นอกจากนี้ พล.ต.อ.วิเชียร ได้เน้นย้ำเรื่องความเป็นกลางต่อข้าราชการตำรวจ ว่าจะต้องไม่ทำอะไรที่เป็นคุณเป็นโทษกับผู้สมัคร ไม่ช่วยเหลือผู้หนึ่งผู้ใด โดยไม่ถูกต้อง ไม่กีดกันกลั่นแกล้ง และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติทุกคนต้องปฏิบัติด้วยความเป็นกลาง รวมทั้งขอความร่วมมือข้าราชการตำรวจ บช.น.และครอบครัวปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีตามระบอบประชาธิปไตยโดยการไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในครั้งนี้ด้วย