อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง เดินทางตามหาความจริง มอบทนายความ ส่งหลักฐานใบแสดงผลการเรียน ให้ ผบ.ตร.เพื่อประกอบการพิจารณาคดี “สันติ พร้อมพัฒน์” ปลอมแปลงเอกสาร
วันนี้ (19 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายโลมนิรันดร์ บุตรจันทร์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจของ ผศ.วิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้เดินทางขอส่งหลักฐานเพิ่มเติมและติดตามผลคดีของ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม กับนายรังสรรค์ แสงสุข อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยให้ดำเนินคดีอาญาเพิ่มในข้อหาหมิ่นเบื้องสูงและหลอกลวงประชาชน โดยยื่นหลักฐานเพิ่มเติม เกี่ยวกับใบแสดงผลการเรียนของนายสันติ
นายโลมิรันดร์ กล่าวว่า ตามที่ได้ยื่นเรื่องให้ดำเนินคดีนายสันติ และนายรังสรรค์ ในข้อหาประพฤติชิมอบตามมาตรา 157 ด้วยการปลอมแปลงเอกสารทางราชการมาใช้ในการสอบ และยังได้กล่าวอ้างเบื้องสูงว่ามีการล้างมลทินจึงกลับเข้ามาศึกษาใหม่ได้ ซึ่งเป็นความผิดในคดีอาญา มิสามารถยอมความได้ คดีนี้มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ที่ สน.อุดมสุข แต่เรื่องกลับเงียบเฉยมิได้มีการดำเนินคดีผู้กระทำความผิดแต่อย่างใด เพื่อเป็นการปกป้องกระบวนการยุติธรรมให้ทรงศักดิ์สิทธิ์ จึงขอให้ดำเนินการในเรื่องนี้โดยด่วน
นายโลมิรันดร์ กล่าวอีกว่า คดีนี้ได้ล่วงเลยเวลามาถึง 83 วันแล้ว จึงอยากถามความคืบหน้าของคดีว่าได้ดำเนินการอย่างไร เพราะเป็นคดีที่ประชาชนทั้งประเทศให้ความสนใจ รวมทั้งนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบัน 6 แสนคนที่ต้องการรักษาชื่อเสียง และปกป้องเกียติภูมิของสถาบัน โดยมีการติดตามคดีนี้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับเอกสารหลักฐานใบแสดงผลการเรียน ที่ได้ยื่นเพิ่มเติมในครั้งนี้ เป็นผลการสอบ วิชา EN 101, EN 102, HI 103, SO 103 ของปี 1998 ซึ่งผลการสอบไม่ผ่าน แต่เมื่อโอนมาเรียนใหม่ กลับพบว่าผลการสอบวิชาดังกล่าวข้างต้นกลับผ่าน ซึ่งเข้าข่ายทำเอกสารเท็จ หรือ ปลอมแปลงเอกสาร ทั้งนี้ นายโลมิรันดร์ กล่าวว่า หากครบ 90 วันแล้วยังไม่ดำเนินการใดๆ ถือว่าตำรวจอาจเข้าข่ายละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
วันนี้ (19 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายโลมนิรันดร์ บุตรจันทร์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจของ ผศ.วิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้เดินทางขอส่งหลักฐานเพิ่มเติมและติดตามผลคดีของ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม กับนายรังสรรค์ แสงสุข อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยให้ดำเนินคดีอาญาเพิ่มในข้อหาหมิ่นเบื้องสูงและหลอกลวงประชาชน โดยยื่นหลักฐานเพิ่มเติม เกี่ยวกับใบแสดงผลการเรียนของนายสันติ
นายโลมิรันดร์ กล่าวว่า ตามที่ได้ยื่นเรื่องให้ดำเนินคดีนายสันติ และนายรังสรรค์ ในข้อหาประพฤติชิมอบตามมาตรา 157 ด้วยการปลอมแปลงเอกสารทางราชการมาใช้ในการสอบ และยังได้กล่าวอ้างเบื้องสูงว่ามีการล้างมลทินจึงกลับเข้ามาศึกษาใหม่ได้ ซึ่งเป็นความผิดในคดีอาญา มิสามารถยอมความได้ คดีนี้มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ที่ สน.อุดมสุข แต่เรื่องกลับเงียบเฉยมิได้มีการดำเนินคดีผู้กระทำความผิดแต่อย่างใด เพื่อเป็นการปกป้องกระบวนการยุติธรรมให้ทรงศักดิ์สิทธิ์ จึงขอให้ดำเนินการในเรื่องนี้โดยด่วน
นายโลมิรันดร์ กล่าวอีกว่า คดีนี้ได้ล่วงเลยเวลามาถึง 83 วันแล้ว จึงอยากถามความคืบหน้าของคดีว่าได้ดำเนินการอย่างไร เพราะเป็นคดีที่ประชาชนทั้งประเทศให้ความสนใจ รวมทั้งนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบัน 6 แสนคนที่ต้องการรักษาชื่อเสียง และปกป้องเกียติภูมิของสถาบัน โดยมีการติดตามคดีนี้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับเอกสารหลักฐานใบแสดงผลการเรียน ที่ได้ยื่นเพิ่มเติมในครั้งนี้ เป็นผลการสอบ วิชา EN 101, EN 102, HI 103, SO 103 ของปี 1998 ซึ่งผลการสอบไม่ผ่าน แต่เมื่อโอนมาเรียนใหม่ กลับพบว่าผลการสอบวิชาดังกล่าวข้างต้นกลับผ่าน ซึ่งเข้าข่ายทำเอกสารเท็จ หรือ ปลอมแปลงเอกสาร ทั้งนี้ นายโลมิรันดร์ กล่าวว่า หากครบ 90 วันแล้วยังไม่ดำเนินการใดๆ ถือว่าตำรวจอาจเข้าข่ายละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
