ตำรวจรอสอบพยานคดี "จักรภพ" หมิ่นพระบรมเดชานุภาพเพิ่มอีก 18 ปาก บอกจำเป็นต้องสอบตามคำขอของกฎหมาย อ้างเป็นสิทธิของผู้ต้องหาร้องขอให้ทำได้ คาดสำนวนเสร็จภายในสัปดาห์หน้าก่อนส่งตัวและสำนวนให้อัยการสั่งฟ้องต่อไป
วันนี้( 17 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีผู้ต้องหาหมิ่นพระบรมราชานุภาพ หลังจากมีการร้องให้สอบพยานเพิ่มอีก 18 ปาก ก่อนส่งสำนวนให้อัยการว่า เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่สามารถร้องให้มีการสอบพยานเพิ่มได้ เมื่อมีการร้องมาพนักงานสอบสวนก็ต้องทำการสอบสวนเพิ่มเติมตามที่ผู้ต้องหาร้องมา เพราะเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย ทำให้ต้องชะลอการส่งสำนวนและส่งตัวผู้ต้องหาให้อัยการ
อย่างไรก็ตามได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า เมื่อสอบพยานทั้ง 18 ปากตามที่ผู้ต้องหาร้องมาเสร็จสิ้นก็สามารถส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนให้อัยการได้
ทั้งนี้ นายจักรภพ เพ็ญแข ถูก พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.บางมด ช่วยราชการ สน.พหลโยธิน แจ้งความจับเมื่อวันที่ 24 มี.ค. โดย พ.ต.ท.วัฒนศักดิ์เข้าพบ พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล พนักงานสอบสวน (สบ.2) กลุ่มงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีต่อนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีที่ นายจักรภพแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (เอฟทีทีซี) เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2550 โดยมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง มีการกล่าวถึงระบบราชาธิปไตยเปรียบเทียบกับประชาธิปไตยระบบอุปถัมภ์กับสังคมไทย โดยนำแผ่นดีวีดีบันทึกการแถลงข่าวพร้อมกับเอกสารคำแปลภาษาจากอังกฤษเป็นภาษาไทยตามเนื้อหาในแผ่นดีวีดีดังกล่าวมอบให้แก่พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นมีผู้เชี่ยวชาญภาษาหลายฝ่ายได้แปลคำปราศรัยของนายจักรภพ ซึ่งส่วนใหญ่มีเนื้อหาไปในทิศทางเดียวกัน ยกเว้นคำแปลของตัวนายจักรภพเอง
นอกจากนี้ ที่ผ่านมานายจักรภพ พยายามประวิงเวลาการสอบสวนมาโดยตลอด โดยได้ขอให้ทางพนักงานสอบสวนรอคำแปลในส่วนของตนเองฉบับจริง อีกทั้งได้ขอให้รอสอบพยานเพิ่มเติมอีก 4 - 5 ปาก ดำเนินการให้เรื่องล่าช้าอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการระดับตร.ได้พิจารณาเห็นชอบตามความเห็นของคณะกรรมการระดับ บช.ก. เห็นตรงกันส่งสำนวนของพนักงานสอบสวนพร้อมส่งให้อัยการสั่งฟ้อง แต่ล่าสุดนายจักรภพก็ได้ร้องขอตำรวจให้สอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 18 ปาก