ตำรวจบุกตรวจโรงน้ำแข็งย่านมีนบุรี พบน้ำมันเถื่อนจำนวนมากรวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท เผยลักลอบส่งขายลาว ถังละ 3,000 บาท และรถบรรทุกในไทย
วานนี้ (5 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.อ.จิรเดช เกรียงศักดิ์พิชิต หน.ชป.1-4 ปนม.ตร.พ.ต.อ.จักษ์ จิตตธรรม ผกก.สน.มีนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ ปนม.ตร.จำนวนหนึ่ง นำหมายค้นศาลจังหวัดมีนบุรี เลขที่ 1136/2551 ลงวันที่ 5 ก.ย.51 เข้าตรวจค้นภายในบ้านไม่มีเลขที่ หน้า หจก.โรงน้ำแข็ง บุญโพธิ์อภิชาติ เลขที่ 62/1 ถนนสีหบูรานุกิจ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม.หลังสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวลักลอบขายน้ำมันหล่อลื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหลังเดี่ยวสูง 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ มีรั้วรอบขอบชิด ปลูกอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 200 ตร.ว.โดยมี น.ส.ณัฐธนัญ บุตโรบล อายุ 32 ปี รับเป็นเจ้าของบ้านเจ้าหน้าที่พบน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้แล้ว บรรจุถัง 200 ลิตร จำนวน 322 ถัง ปริมาณ 64,400 ลิตร น้ำมันหล่อลื่นใช้แล้ว บรรจุถัง 12,000 ลิตร จำนวน 5 ถัง ปริมาณ 25,400 ลิตร น้ำมันไฮโดรลิค บรรจุถัง 200 ลิตร จำนวน 48 ถัง ปริมาณ 9,600 ลิตร สารเพิ่มความหนืด บรรจุถัง 200 ลิตร จำนวน 7 ถัง สารละลายไฮโดรคาร์บอน บรรจุถัง 200 ลิตร จำนวน 11 ถัง ปริมาณ 2,200 ลิตร แกลลอนน้ำมันเปล่ายี่ห้อ SP TRADE ขนาด 5 ลิตร แกลลอนน้ำมันเปล่ายี่ห้อ PROTROL ขนาด 1 ลิตร และสติกเกอร์ยี่ห้อ PROTROL มีเครื่องหมายทะเบียน ธพ.007105.08/2547 จำนวนมาก รวมมูลค่าประมาณ 2,100,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดทั้งหมดเป็นของกลางไว้ไปตรวจสอบ
พ.ต.อ.จิรเดช กล่าวว่า การตรวจยึดจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า บ้านหลังดังกล่าวลักลอบผลิตและขายน้ำมันเถื่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่หาข่าว พร้อมกับรวบรวมหลักฐานเพื่อเตรียมขอหมายค้น หลังจากนั้นจึงได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวก็พบของกลางจำนวนมากจึงได้ตรวจยึดไว้ ซึ่งจากการสอบสวน น.ส.ณัฐธนัญ ให้การรับสารภาพว่า เจ้าของน้ำมันดังกล่าวเป็นชาวลาว ซึ่งได้ซื้อน้ำมันเก่าที่ใช้แล้วในราคา 1,500 บาท-2,000 บาท ต่อ 1 ถัง 200 ลิตร นำมาผ่านกระบวนการเพื่อผลิตใช้เป็นน้ำมันใหม่ จะส่งขายในราคา 3,000 บาท ต่อ 1 ถัง 200 ลิตร ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นฝั่งประเทศลาว จะมาซื้อเดือนละประมาณ 2-3 ตัน บางส่วนก็ส่งขายในประเทศให้กับรถบรรทุก 10 ล้อ และรถบรรทุก 6 ล้อ จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 สถานที่เก็บน้ำมันเชื้อเพลิงไวไฟน้อย (หล่อลื่น) โดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประเภทสะสมผลิตภัณฑ์ปิโตรเลี่ยม เพื่อจำหน่ายดดยไม่ได้รับอนุญาต ปลอมและใช้เอกสารปลอม (ธพ.007105.08/2547) เป็นผู้ผลิตสินค้าเพื่อขาย (น้ำมันหล่อลื่นหรือน้ำมันเครื่อง) โดยไม่มีฉลาก หรือมีฉลากแต่ไม่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.และขาย หรือมีไว้เพื่อขาย ซึ่งสินค้าสารละลายไฮโดรคาร์บอน โดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่ไม่เสียภาษี หรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีต่อไป
วานนี้ (5 ก.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.อ.จิรเดช เกรียงศักดิ์พิชิต หน.ชป.1-4 ปนม.ตร.พ.ต.อ.จักษ์ จิตตธรรม ผกก.สน.มีนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ ปนม.ตร.จำนวนหนึ่ง นำหมายค้นศาลจังหวัดมีนบุรี เลขที่ 1136/2551 ลงวันที่ 5 ก.ย.51 เข้าตรวจค้นภายในบ้านไม่มีเลขที่ หน้า หจก.โรงน้ำแข็ง บุญโพธิ์อภิชาติ เลขที่ 62/1 ถนนสีหบูรานุกิจ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม.หลังสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวลักลอบขายน้ำมันหล่อลื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหลังเดี่ยวสูง 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ มีรั้วรอบขอบชิด ปลูกอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 200 ตร.ว.โดยมี น.ส.ณัฐธนัญ บุตโรบล อายุ 32 ปี รับเป็นเจ้าของบ้านเจ้าหน้าที่พบน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้แล้ว บรรจุถัง 200 ลิตร จำนวน 322 ถัง ปริมาณ 64,400 ลิตร น้ำมันหล่อลื่นใช้แล้ว บรรจุถัง 12,000 ลิตร จำนวน 5 ถัง ปริมาณ 25,400 ลิตร น้ำมันไฮโดรลิค บรรจุถัง 200 ลิตร จำนวน 48 ถัง ปริมาณ 9,600 ลิตร สารเพิ่มความหนืด บรรจุถัง 200 ลิตร จำนวน 7 ถัง สารละลายไฮโดรคาร์บอน บรรจุถัง 200 ลิตร จำนวน 11 ถัง ปริมาณ 2,200 ลิตร แกลลอนน้ำมันเปล่ายี่ห้อ SP TRADE ขนาด 5 ลิตร แกลลอนน้ำมันเปล่ายี่ห้อ PROTROL ขนาด 1 ลิตร และสติกเกอร์ยี่ห้อ PROTROL มีเครื่องหมายทะเบียน ธพ.007105.08/2547 จำนวนมาก รวมมูลค่าประมาณ 2,100,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดทั้งหมดเป็นของกลางไว้ไปตรวจสอบ
พ.ต.อ.จิรเดช กล่าวว่า การตรวจยึดจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า บ้านหลังดังกล่าวลักลอบผลิตและขายน้ำมันเถื่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่หาข่าว พร้อมกับรวบรวมหลักฐานเพื่อเตรียมขอหมายค้น หลังจากนั้นจึงได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวก็พบของกลางจำนวนมากจึงได้ตรวจยึดไว้ ซึ่งจากการสอบสวน น.ส.ณัฐธนัญ ให้การรับสารภาพว่า เจ้าของน้ำมันดังกล่าวเป็นชาวลาว ซึ่งได้ซื้อน้ำมันเก่าที่ใช้แล้วในราคา 1,500 บาท-2,000 บาท ต่อ 1 ถัง 200 ลิตร นำมาผ่านกระบวนการเพื่อผลิตใช้เป็นน้ำมันใหม่ จะส่งขายในราคา 3,000 บาท ต่อ 1 ถัง 200 ลิตร ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นฝั่งประเทศลาว จะมาซื้อเดือนละประมาณ 2-3 ตัน บางส่วนก็ส่งขายในประเทศให้กับรถบรรทุก 10 ล้อ และรถบรรทุก 6 ล้อ จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 สถานที่เก็บน้ำมันเชื้อเพลิงไวไฟน้อย (หล่อลื่น) โดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ประเภทสะสมผลิตภัณฑ์ปิโตรเลี่ยม เพื่อจำหน่ายดดยไม่ได้รับอนุญาต ปลอมและใช้เอกสารปลอม (ธพ.007105.08/2547) เป็นผู้ผลิตสินค้าเพื่อขาย (น้ำมันหล่อลื่นหรือน้ำมันเครื่อง) โดยไม่มีฉลาก หรือมีฉลากแต่ไม่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.และขาย หรือมีไว้เพื่อขาย ซึ่งสินค้าสารละลายไฮโดรคาร์บอน โดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่ไม่เสียภาษี หรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีต่อไป
