ทนายรัฐบาลเร่ร่อนยื่นคัดค้านคำสั่งงดบังคับคดีไล่พันธมิตรฯ

ทนายความสำนักนายกฯ ส่งเสมียนทนาย ย่นคัดค้านคำสั่งบังคับทเลาคดีให้พันธมิตรฯออกจากทำเนียบฯ ระบุ ศาลให้งดบังคับคดีเป็นมิชอบ

วันนี้ 1 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.40 น. ที่ศาลแพ่ง นายนิคม บัวแก้ว เสมียนทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากนายเมธี ใจสมุทร ทนายความของ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นำคำร้องขอเพิกถอนกระบวนการพิจารณาที่ผิดระเบียบ และขอเพิกถอนคำสั่งงดการบังคับคดี ในคดีหมายเลขดำที่ 5213/2551 ที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ ฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กับพวกแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐาน ละเมิด และฟ้องขับไล่

คำร้องระบุว่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค.51 ศาลแพ่งมีคำสั่งงดการบังคับคดี จนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งหรือคำพิพากษา โดยก่อนหน้านั้นศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้จำเลยทั้งหกออกจากพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล รื้อเวทีปราศรัย และให้เปิดการจราจรบนถนนพิษณุโลก ถนนราชดำเนิน โดยให้มีผลในทันที แต่เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามศาลจึงมีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี โดยมีเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการ แต่ถูกขัดขวาง ต่อมาจำเลยทั้งหกได้ยื่นขออุทธรณ์และขอทุเลาคดี ซึ่งศาลมีคำสั่งเห็นควรงดการบังคับคดี เนื่องจากเกรงจะเกิดความเสียหายจากการที่ตำรวจทำร้ายประชาชน จึงให้รอจนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งหรือคำพิพากษา โจทก์เห็นว่าจำเลยทั้งหกจะขอทุเลาการบังคับคดีไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่จำเลยทั้งหกต้องปฏิบัติ ฉะนั้นการส่งให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาสั่งหรือพิพากษานั้น จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการพิจารณาที่ผิดระเบียบ โจทก์จึงขอให้ศาลเพิกถอนกระบวนพิจารณาดังกล่าว โดยให้ศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งที่ศาลรับคำร้องขอทุเลาบังคับคดี และคำร้องขอทุเลาการบังคับคดี โดยฉุกเฉินอย่างยิ่ง และมีคำสั่งไม่รับคำร้องทั้งสองฉบับดังกล่าว และให้มีการบังคับคดีต่อไป

คำร้องระบุต่อไปว่า โจทก์ได้ดำเนินการรื้อถอนเวทีที่สะพานมัฆวานรังสรรค์โดยชอบด้วยกฎหมาย ส่วนจำเลยทั้งหก และบริวาร ไม่ยอมออกไปจากทำเนียบรัฐบาล ทั้งยังไม่ได้รื้อเวทีปราศรัย รวมทั้งสิ่งกีดขวางออกจากบริเวณดังกล่าว โจทก์จึงแจ้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อรายงานต่อศาลให้มีคำสั่งจับกุมและกักขังจำเลยทั้งหก เมื่อวันที่ 29 ส.ค.51 ดังนั้นเมื่อการบังคับคดีเป็นไปโดยชอบแล้ว ศาลก็จำต้องพิจารณาและมีคำสั่งตามคำขอของเจ้าพนักงานบังคับคดี แต่ศาลกลับมีคำสั่งให้งดการบังคับคดี โจทก์จึงเห็นว่าเป็นการไม่ชอบ โจทก์จึงขอศาลได้โปรดมีคำสั่งตามคำขอของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่ขอให้ศาลมีคำสั่งจับกุมและกักขังจำเลยทั้งหก และให้โจทก์บังคับคดีต่อไป ซึ่งศาลรับคำร้องไว้พิจารณาก่อนจะมีคำสั่งต่อไป