“อัศวิน” ไม่ท้อถูกปรับออกจากตำแหน่ง “ผบช.น.”

ตำรวจจับมือกรมบังคับคดี นำหมายศาลบังคับม็อบพันธมิตร พ้นพื้นที่ทำเนียบ “อัศวิน” ปัดตำรวจโดนกักตัว แต่สั่งการให้อยู่ รปภ.ทำเนียบ ส่วนที่ถูกปรับขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร.บอกไม่น้อยใจแต่กลับดีใจที่ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

วันนี้ (28 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.กล่าวว่า หลังจากศาลมีคำสั่งกรมบังคับคดีได้ส่งเจ้าหน้าที่ประสานงานกับตำรวจโดยตนได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รอง ผบช.น.ควบคุมดูแลการดำเนินการนำหมายบังคับคดีไปที่ทำเนียบรัฐบาล โดยในวันที่ 29 ส.ค.นี้ เวลา 08.00 น.เป็นเวลานัดหมายที่เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีกับทางตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) จะเดินทางไปที่ศาลแพ่ง หลังจากนั้นก็จะนำหมายของศาลไปติดประกาศให้กลุ่มพันธมิตรฯ รับทราบ เพื่อให้มีการรื้อถอนเวที เต็นท์ ตามคำสั่งของศาล

ผบช.น.กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าทางกลุ่มพันธมิตรฯ จะรื้อถอนเวที เต็นท์หรือไม่ ทางตำรวจกับเจ้าหน้าที่บังคับคดีจะดำเนินการตามคำสั่งของศาล ที่ผ่านมาตนไม่ได้พูดคุยกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ แต่อย่างใด แต่คิดว่าเราเป็นคนไทยด้วยกันน่าจะพูดกันรู้เรื่อง

พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวถึงกรณีกำลังจำนวน 8 กองร้อย รวม 1,200 นาย ที่อยู่ภายในทำเนียบฯ ที่มีกระแสข่าวว่าถูกกักตัวอยู่นั้น จริงแล้วไม่ได้ถูกกักตัวแต่เป็นการมอบหมายภารกิจให้ดูแลความเรียบร้อยด้านอาคารสถานที่ภายในทำเนียบฯ รวมทั้งดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมไปด้วย ทั้งนี้ ตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับตำรวจเพื่อให้เกิดขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อเราเลือกที่จะเป็นตำรวจแล้วก็ต้องเสียสละ คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร และตนเป็นผู้สั่งการเองไม่ใช่กลุ่มพันธมิตรฯ กักตัวไว้ไม่ให้ออกมา ส่วนเรื่องเสบียงอาหารก็มีส่งไปครบทุกมื้อ ไม่ได้อดอย่างที่มีข่าวออกมาแต่อย่างใด

พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวถึงกรณีที่ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร.ว่า ไม่ได้รู้สึกน้อยใจหรือท้อใจในการทำงานแต่อย่างใดกลับรู้สึกดีใจที่มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานเพราะถือเป็นการเลื่อนตำแหน่งขึ้นไป ตนเคยดำรงตำแหน่งเป็น ผบก.ที่ใหญ่ที่สุดมาแล้ว รวมทั้งยังได้ดำรงตำแหน่ง ผบช.น.ซึ่งถือเป็นกองบัญชาการที่ใหญ่ที่สุดก็ได้เป็นมาแล้ว ตนจะหยุดทำงานก็ต่อเมื่อเกษียณอายุราชการ หรือไม่ก็ถูกไล่ออกเท่านั้น