อัยการศึกษาข้อ กม.รอเอกสารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนขอส่งตัว “แม้ว-อ้อ” ผู้ร้ายข้ามแดน

“อธิบดีอัยการต่างประเทศ” เผยยังไม่ชัดเจนเรื่องยื่นขอส่งตัว “แม้ว-หญิงอ้อ” เป็นผู้ร้ายข้ามแดน เดินหน้าศึกษากฎหมาย-รอเอกสารจากหน่วยงานที่จะร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน ระบุระยะเวลายื่นขอส่งตัวอิงตามอายุความคดีนั้น ด้าน “อธิบดีอัยการคดีพิเศษ” รอฟังคำสั่งศาลฎีกานักการเมืองคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ อีกครั้งนัดไต่สวนพยานจำเลย 15 ส.ค.นี้ ส่วนนัดสั่งคดีเอสซีแอสเสท 16 ก.ย.นี้ ส่อเค้าสั่งปรับประกันแม้ว-หญิงอ้อ คนละล้านหากเบี้ยวนัด ขณะที่คณะทำงานอัยการเชื่อศาลจะไต่สวนพยานจำเลยจนจบ ไม่พักพิจารณาคดี

วันนี้ (13 ส.ค.) นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวถึงกระบวนการส่ง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ซึ่งหลบหนีคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาภิเษกอยู่ในประเทศอังกฤษเป็นผู้ร้ายข้ามแดนว่า กำลังพิจารณาข้อกฎหมายทั้งหมดซึ่งไทยเองก็มีประกาศใช้ พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้าแดน พ.ศ.2551 แทน พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2472 ฉบับเก่า ขณะที่การจะร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน ต้องรอเอกสารอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องการจะให้นำ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานมาดำเนินคดี เช่น ศาล หรืออัยการผู้ทำสำนวนคดีนี้ โดยคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก แม้ศาลจะสั่งออกหมายจับ แต่เอกสารหมายจับอัยการฝ่ายต่างประเทศยังไม่ได้รับมา เพื่อที่จะใช้ประกอบการยื่นคำร้องหากจะขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ยังตกเป็นผู้ต้องหาคดีที่กำลังรอการสั่งคดีในชั้นอัยการ คดีทุจริตปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นเอสซีแอสเสท จำกัด (มหาชน) ดังนั้น การจะขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน คงต้องรอความชัดเจนด้วยว่า จะมีส่วนใดบ้างที่ต้องการร้องขอ ดังนั้นเวลานี้จึงยังไม่ชัดแจ้งว่าจะดำเนินการยื่นคำขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนเมื่อใด โดยระหว่างนี้อัยการฝ่ายต่างประเทศจะใช้เวลาศึกษาข้อกฎหมายของอังกฤษ และไทยในส่วนขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนต่อไปจนกว่าจะได้รับเอกสารอย่างเป็นทางการในการร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน ทั้งนี้เกี่ยวกับระยะเวลาการยื่นคำขอก็ต้องพิจารณาจากอายุความของคดีนั้นๆ

ส่วนเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะขอลี้ภัยทางการเมืองนั้น นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า การลี้ภัยเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ สำนักข้างหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ด้วย ซึ่งเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์การขอลี้ภัยและประเภทบุคคลที่จะขอลี้ภัยได้ เช่น นักโทษการเมืองจะไม่ส่งตัวกัน ซึ่งเรื่องการลี้ภัยเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศ อย่างไรก็ดีหากกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนของไทย เข้าหลักเกณฑ์ในการขอส่งตัวเป็นผู้ร่ายข้ามแดนได้ก็สามารถดำเนินได้โดยไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้นจึงต้องพิจารณาและตรวจดูข้อกฎหมายโดยละเอียด

ด้าน นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ หัวหน้าคณะทำงานอัยการรับผิดชอบคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก กล่าวว่า ในฐานะที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีดังกล่าวยังไม่ได้รับคำสั่งจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในการให้ติดตามตัวจำเลยทั้งสองกลับมา ดังนั้น ในนัดไต่สวนพยานจำเลยคดีนี้ที่จะมีขึ้นวันที่ 15 ส.ค. อัยการจะรอฟังว่าศาลจะมีคำสั่งอะไร อย่างใดบ้าง เหมือนครั้งที่ศาลเคยมีคำสั่งออกหมายจับจำเลยทั้งสองในครั้งแรก ซึ่งศาลมีคำสั่งให้อัยการในฐานะโจทก์ดำเนินการตามตัวจำเลยทั้งสองกลับมาดำเนินกระบวนพิจารณาคดี ส่วนของการประสานงานกับอัยการฝ่ายต่างประเทศที่จะดำเนินกระบวนการยื่นคำร้องส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนนั้น ตนในฐานะหัวหน้าคณะทำงานอัยการรับผิดชอบสำนวนคดี ยังไม่ได้ประสานหรือส่งเอกสารใดๆ เกี่ยวกับคดีให้แต่อย่างใด โดยจะรอฟังคำสั่งศาลฎีกาฯ ในวันที่ 15 ส.ค.นี้

อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ยังกล่าวถึงการนัดสั่งคดีเอสซีแอสเสทที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานตกเป็นผู้ต้องหาด้วยว่า หากถึงกำหนดสั่งคดีในวันที่ 16 ก.ย.นี้ ทั้งสองไม่เดินทางมารายงานตัวเพื่อฟังคำสั่ง ซึ่งขณะนี้ปรากฏว่าทั้งสองอยู่ประเทศอังกฤษ ตนก็จะต้องทำรายงานเสนอนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุดพิจารณาว่าจะดำเนินอย่างไร มีความจำเป็นต้องพิจารณาปรับสัญญาประกันทั้งสองมูลค่าคนละ 1 ล้านบาท เหมือนที่ศาลฎีกาฯ สั่งดำเนินได้หรือไม่

ด้าน นายนันทศักดิ์ พูนสุข อธิบดีอัยการฝ่ายคดีศาลสูงเขต 8 หนึ่งในคณะทำงานอัยการรับผิดชอบคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาฯ กล่าวถึงการพิจารณาในชั้นศาลว่า เนื่องจากคดีนี้ศาลเคยมีคำสั่งอนุญาตให้สืบพยานลับหลังจำเลยทั้งสองอยู่แล้ว ขณะที่ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกแถลงการณ์ชัดเจนที่จะยังไม่กลับมา ประกอบกับอัยการได้สืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นครบทุกปากแล้ว ดังนั้น เพื่อให้คดีดำเนินไปด้วยความรวดเร็ว ไม่หยุดชะงัก จึงเชื่อว่าศาลจะดำเนินกระบวนการไต่สวนพยานจำเลยจนเสร็จสิ้น ตามที่กำหนดนัดไว้ล่วงหน้าที่ให้มีการไต่สวนพยานจำเลยเสร็จสิ้นในวันที่ 22 ส.ค.นี้ และนัดฟังคำพิพากษาโดยไม่พักการพิจารณาคดี ซึ่งหากศาลกำหนดวันนัดตัดสินคดีแล้วจำเลยทั้งสองไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลก็อาจจะอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย แต่ทั้งนี้หากทนายความจำเลย ต้องการจะไต่สวนจำเลยทั้งสอง แต่ตัวยังอยู่ประเทศอังกฤษไม่ยอมกลับเข้ามา และจะขออนุญาตศาล ส่งคำให้การเป็นเอสาร ก็เป็นดุลพินิจของศาลว่าจะอนุญาตหรือไม่