แกร์รี คุก ประธานบริหาร แมนเชสเตอร์ ซิตี ปฏิเสธว่า สโมสรกำลังเดินทางไปสู่จุดจบ หลัง พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ตกเป็นผู้ต้องหาคดีทุจริตหลายกระทง พร้อมทั้งเปิดเผยว่า เจ้าของทีมชาวไทยมีโครงการสร้างทีมในระยะยาวถึง 10 ปีข้างหน้า
อดีตผู้นำประเทศไทยกำลังลี้ภัยทางการเมืองอย่างหัวซุกหัวซุนอยู่ในประเทศอังกฤษ หลังจากเลี่ยงคำสั่งไม่มารายงานตัวต่อศาลฎีกาฯ เพื่อฟังคำพิจารณาคดีอาญาหลีกเลี่ยงภาษี คอร์รัปชัน และประพฤติมิชอบที่ติดตัวอยู่หลายคดี จนทำให้หลายฝ่ายมองว่าอนาคตของ “เรือใบสีฟ้า” กำลังคืบคลานเข้าสู่ภาวะวิกฤต
เมื่อรวมกับกระแสข่าวที่ว่า “แม้ว” ขัดสนถึงกับต้องขอยืมเงินจาก จอห์น วอร์เดิล อดีตประธานสโมสร เพื่อมาจ่ายค่าเหนื่อยสตาฟฟ์โค้ช จนถูกนำไปเชื่อมโยงกับประเด็นที่ทีมพยายามขาย เวดราน ชอร์ลูกา และ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ สองดาวเตะตัวหลักโดยไม่ปรึกษากุนซือ มาร์ก ฮิวจ์ส ที่ไม่พอใจจนอาจจะลาออกจากทีม ยิ่งตอกย้ำถึงหายนะที่กำลังเข้ามาสู่ทีมในไม่ช้านี้
อย่างไรก็ตาม คุก ออกมาโต้แย้งผ่านทาง แมนเชสเตอร์ อีฟนิง นิวส์ สื่อท้องถิ่นว่า “อนาคตของ ซิตี ยังไม่เข้าสู่ความดำมืด ในระยะสั้นการดำเนินธุรกิจของสโมสรจะยังดำเนินต่อไปตามปกติ และเราก็ไม่ได้พึ่งพาเงินของ ดร.ทักษิณ เพียงอย่างเดียวด้วย”
“เมื่อใดก็ตามที่ มาร์ก ฮิวจ์ส ตัดสินใจเกี่ยวกับการทำทีม เราก็ทำตามกระบวนการปกติ ทั้งในส่วนของธุรกรรมทางธนาคาร, การเงิน และอื่นๆ เช่นเดียวกับที่สโมสรทั่วไปทำกัน”
นอกจากนั้น ซีอีโอแมนฯ ซิตี ยังเปิดเผยอีกว่า “ดร.ทักษิณ พร้อมทำในสิ่งที่จะผลักดันให้ ซิตี ก้าวขึ้นไปเป็นทีมชั้นนำ เขาคือคนที่รักซิตีอย่างแท้จริง ผมได้รายงานความคืบหน้าของสโมสรให้เขาทราบในระหว่างอยู่ที่ปักกิ่ง และเราก็ได้พูดคุยเกี่ยวกับการเสาะหาผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมทีมด้วย”
“ในระหว่างรับประทานอาหารค่ำมื้อหนึ่ง เขายังพูดถึงเหตุผลว่าทำไมจึงซื้อสโมสรแห่งนี้ พร้อมทั้งเป้าหมายในระยะยาว และนั่นก็บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี ไปอีก 10 ปีข้างหน้า เพื่อสร้างทีมให้เป็นอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ และยังปฏิเสธเขาว่าไม่ได้เข้ามาลงทุนกับทีมเพียงช่วงสั้นๆ เสร็จแล้วก็จากไปอย่างที่ถูกกล่าวหา”
อดีตผู้นำประเทศไทยกำลังลี้ภัยทางการเมืองอย่างหัวซุกหัวซุนอยู่ในประเทศอังกฤษ หลังจากเลี่ยงคำสั่งไม่มารายงานตัวต่อศาลฎีกาฯ เพื่อฟังคำพิจารณาคดีอาญาหลีกเลี่ยงภาษี คอร์รัปชัน และประพฤติมิชอบที่ติดตัวอยู่หลายคดี จนทำให้หลายฝ่ายมองว่าอนาคตของ “เรือใบสีฟ้า” กำลังคืบคลานเข้าสู่ภาวะวิกฤต
เมื่อรวมกับกระแสข่าวที่ว่า “แม้ว” ขัดสนถึงกับต้องขอยืมเงินจาก จอห์น วอร์เดิล อดีตประธานสโมสร เพื่อมาจ่ายค่าเหนื่อยสตาฟฟ์โค้ช จนถูกนำไปเชื่อมโยงกับประเด็นที่ทีมพยายามขาย เวดราน ชอร์ลูกา และ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ สองดาวเตะตัวหลักโดยไม่ปรึกษากุนซือ มาร์ก ฮิวจ์ส ที่ไม่พอใจจนอาจจะลาออกจากทีม ยิ่งตอกย้ำถึงหายนะที่กำลังเข้ามาสู่ทีมในไม่ช้านี้
อย่างไรก็ตาม คุก ออกมาโต้แย้งผ่านทาง แมนเชสเตอร์ อีฟนิง นิวส์ สื่อท้องถิ่นว่า “อนาคตของ ซิตี ยังไม่เข้าสู่ความดำมืด ในระยะสั้นการดำเนินธุรกิจของสโมสรจะยังดำเนินต่อไปตามปกติ และเราก็ไม่ได้พึ่งพาเงินของ ดร.ทักษิณ เพียงอย่างเดียวด้วย”
“เมื่อใดก็ตามที่ มาร์ก ฮิวจ์ส ตัดสินใจเกี่ยวกับการทำทีม เราก็ทำตามกระบวนการปกติ ทั้งในส่วนของธุรกรรมทางธนาคาร, การเงิน และอื่นๆ เช่นเดียวกับที่สโมสรทั่วไปทำกัน”
นอกจากนั้น ซีอีโอแมนฯ ซิตี ยังเปิดเผยอีกว่า “ดร.ทักษิณ พร้อมทำในสิ่งที่จะผลักดันให้ ซิตี ก้าวขึ้นไปเป็นทีมชั้นนำ เขาคือคนที่รักซิตีอย่างแท้จริง ผมได้รายงานความคืบหน้าของสโมสรให้เขาทราบในระหว่างอยู่ที่ปักกิ่ง และเราก็ได้พูดคุยเกี่ยวกับการเสาะหาผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมทีมด้วย”
“ในระหว่างรับประทานอาหารค่ำมื้อหนึ่ง เขายังพูดถึงเหตุผลว่าทำไมจึงซื้อสโมสรแห่งนี้ พร้อมทั้งเป้าหมายในระยะยาว และนั่นก็บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี ไปอีก 10 ปีข้างหน้า เพื่อสร้างทีมให้เป็นอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ และยังปฏิเสธเขาว่าไม่ได้เข้ามาลงทุนกับทีมเพียงช่วงสั้นๆ เสร็จแล้วก็จากไปอย่างที่ถูกกล่าวหา”