ศาลพิพากษายกฟ้อง อดีตพระแรมโบ้ ที่เคยควงอาก้าบุกสภา ฐานฆ่าผู้อื่นตาย โดยเชื่อว่า จำเลยป้องกันตัวจริง จึงยกฟ้อง
วันนี้ (6 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 714 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลมีคำพิพากษาในคดีความผิดต่อชีวิตหมายเลขดำที่ อ.2838/2550 ที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ฟ้อง นายสายันต์ เสาเวียง หรืออดีตพระมหาสายันต์ จิรสุโภ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 1 ต.คาละแมะ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เป็นจำเลย ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่น,พกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควร
ตามโจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 3 ส.ค.2550 สรุปว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 50 เวลากลางคืน จำเลยได้ใช้อาวุธมีดแทง นายแสงมณี แวงวรรณ อายุ 21 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง อยู่บ้านเลขที่ 237/1 ซอยบ้านหนองบัว ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จนถึงแก่ความตายสมดังเจตนา เหตุเกิดที่ซอยอุปมากร แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 371 จำเลยให้การปฏิเสธ อ้างว่า เป็นการป้องกันตัว
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จากคำเบิกความของพยานโจทก์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ จำเลยมีปากเสียงกับ นางหนูจันทร์ แสงน้ำเที่ยง มารดาผู้ตาย เมื่อเหตุการณ์ยุติลง แต่ผู้ตายยังโกรธแค้นที่จำเลยจะทำร้ายมารดา ผู้ตาย และพยานเตรียมจะเข้าไปเอาเรื่องจำเลย เมื่อจำเลยเห็นผู้ตาย ปรี่เข้ามาจึงคว้ามีดไว้ป้องกันตัว ผู้ตายจึงวิ่งกลับไปที่พักแล้วนำมีดมาไล่ทำร้ายจำเลย จึงทราบข้อเท็จจริงว่า ขณะผู้ตายกำลังง้างมีดไล่ฟัน แต่ถูกจำเลยแทงสวนเพื่อป้องกันตัว ประกอบกับผลการตรวจบาดแผลพบรอยฟกช้ำที่ศีรษะจำเลย ยิ่งทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจำเลยป้องกันตัวเองโดยชอบด้วยกฎหมาย
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ฐานพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ ปรับ 100 บาท ส่วนความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ยกฟ้อง
หลังฟังคำพิพากษา นายสายันต์ เดินออกจากห้องพิจารณาคดี พร้อมกับชูมือด้วยความดีใจ ก่อนให้สัมภาษณ์ ว่า ขอบคุณศาลที่ให้ความยุติธรรม ที่ตนกระทำไป เพราะต้องป้องกันตัว ส่วนคดีอื่นๆ นั้นขณะนี้ถือว่าจบหมดแล้ว ปัจจุบันนี้ตนยังไม่มีงานทำ แต่ไม่คิดจะกลับไปบวชอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อครั้ง นายสายันต์ บวชเป็นพระภิกษุ อยู่ที่วัดนาสนาดก์ จ.จันทบุรี ซึ่งเคยก่อคดีดังบุกอาคารรัฐสภา และใช้ปืนกลมืออาก้าเอเค 47 ชนิดพับฐาน ยิงขู่เจ้าหน้าที่รัฐสภา พร้อมจับตัวประกัน เพื่อเข้าร้องเรียนต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ว่าถูกตำรวจแกล้งจับข้อหาบุกรุกป่าสงวน
วันนี้ (6 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 714 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลมีคำพิพากษาในคดีความผิดต่อชีวิตหมายเลขดำที่ อ.2838/2550 ที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ฟ้อง นายสายันต์ เสาเวียง หรืออดีตพระมหาสายันต์ จิรสุโภ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 1 ต.คาละแมะ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เป็นจำเลย ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่น,พกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควร
ตามโจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 3 ส.ค.2550 สรุปว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 50 เวลากลางคืน จำเลยได้ใช้อาวุธมีดแทง นายแสงมณี แวงวรรณ อายุ 21 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง อยู่บ้านเลขที่ 237/1 ซอยบ้านหนองบัว ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จนถึงแก่ความตายสมดังเจตนา เหตุเกิดที่ซอยอุปมากร แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 371 จำเลยให้การปฏิเสธ อ้างว่า เป็นการป้องกันตัว
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จากคำเบิกความของพยานโจทก์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ จำเลยมีปากเสียงกับ นางหนูจันทร์ แสงน้ำเที่ยง มารดาผู้ตาย เมื่อเหตุการณ์ยุติลง แต่ผู้ตายยังโกรธแค้นที่จำเลยจะทำร้ายมารดา ผู้ตาย และพยานเตรียมจะเข้าไปเอาเรื่องจำเลย เมื่อจำเลยเห็นผู้ตาย ปรี่เข้ามาจึงคว้ามีดไว้ป้องกันตัว ผู้ตายจึงวิ่งกลับไปที่พักแล้วนำมีดมาไล่ทำร้ายจำเลย จึงทราบข้อเท็จจริงว่า ขณะผู้ตายกำลังง้างมีดไล่ฟัน แต่ถูกจำเลยแทงสวนเพื่อป้องกันตัว ประกอบกับผลการตรวจบาดแผลพบรอยฟกช้ำที่ศีรษะจำเลย ยิ่งทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจำเลยป้องกันตัวเองโดยชอบด้วยกฎหมาย
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ฐานพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ ปรับ 100 บาท ส่วนความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ยกฟ้อง
หลังฟังคำพิพากษา นายสายันต์ เดินออกจากห้องพิจารณาคดี พร้อมกับชูมือด้วยความดีใจ ก่อนให้สัมภาษณ์ ว่า ขอบคุณศาลที่ให้ความยุติธรรม ที่ตนกระทำไป เพราะต้องป้องกันตัว ส่วนคดีอื่นๆ นั้นขณะนี้ถือว่าจบหมดแล้ว ปัจจุบันนี้ตนยังไม่มีงานทำ แต่ไม่คิดจะกลับไปบวชอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อครั้ง นายสายันต์ บวชเป็นพระภิกษุ อยู่ที่วัดนาสนาดก์ จ.จันทบุรี ซึ่งเคยก่อคดีดังบุกอาคารรัฐสภา และใช้ปืนกลมืออาก้าเอเค 47 ชนิดพับฐาน ยิงขู่เจ้าหน้าที่รัฐสภา พร้อมจับตัวประกัน เพื่อเข้าร้องเรียนต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ว่าถูกตำรวจแกล้งจับข้อหาบุกรุกป่าสงวน
