นครบาลพร้อมดูแลความปลอดภัย “จอร์จ ดับเบิลยู บุช” ยันไม่กระทบการจราจรติดขัด งัดแผน “ปภ.15” คุมเข้มตลอดเส้นทาง-โรงแรมที่พัก-สถานที่หมายสำคัญ พร้อมตั้งกองบัญชาการส่วนหน้าตรึงกำลังตำรวจ 191 ปราบจลาจล สายสืบ ท้องที่ อรินทราช ดูแลเข้ม เชื่อ ภารกิจครั้งนี้จะผ่านไปได้ด้วยดี
วันนี้ (6 ส.ค.) พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.กล่าวถึงการดูแลความปลอดภัยประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช เดินทางเยือนประเทศไทย ว่า ตำรวจนครบาลพร้อมอารักขารักษาความปลอดภัยตามแผนปฏิบัติรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญอยู่แล้ว โดยได้รับมอบหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เป็นหน่วยงานหลักในการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยรอบนอกและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในระหว่างที่ บุช ปฏิบัติภารกิจ และพำนักอยู่ใน กทม.ส่วนการดูแลความปลอดภัยรอบในนั้นเป็นหน้าที่ของฝ่ายอารักขารักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดีเอง ที่เดินทางมาจากต่างประเทศที่ผ่านการฝึกมาอย่างดีมีการดูแลอารักขาอย่างแน่นหนา
ผบช.น.กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ตำรวจนครบาลมีผลงานในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยบุคคลสำคัญผ่านพ้นไปได้ด้วยดีมาโดยตลอด ซึ่งครั้งนี้เชื่อว่าจะดำเนินไปด้วยดีไม่มีปัญหาอะไรเพราะตำรวจมีแผนปฏิบัติที่ชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนการจัดการจราจรที่จะมีการเดินทางไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ นั้น มอบหมายให้ พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานด้านการจราจร ทำหน้าที่อำนวยการสั่งการจราจรปิดเปิดถนนเส้นทางขบวนพาดผ่านคงใช้เวลาไม่นานแต่ละภารกิจการเดินทางที่มีการปิดการจราจรประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้นคงไม่กระทบต่อผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างแน่นอน และเชื่อว่า คนไทยทุกคนเข้าใจดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภารกิจสำคัญครั้งนี้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.ในฐานะหัวเรือใหญ่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องใช้มาตรการรักษาความปลอดภัย โดยใช้แผนรักษาความปลอดภัย 15 หรือนามเรียกขาน “แผน ปภ.15” มีการวางแผนแบบรัดกุม มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ณ โรงแรม โฟร์ ซีซั่นส์ เป็นศูนย์อำนวยการควบคุมการสั่งการดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอารักขารักษาความปลอดภัย ใช้กำลังตำรวจหน่วยปราบจลาจล ตำรวจ 191 ตำรวจท้องที่ บก.น.5 และหน่วยอรินทราช 26 ดูแลจุดสูงข่ม ขณะเดียวกัน มีการเตรียมกำลังตำรวจหน่วยอรินทราช 26 อีก 1 กองร้อย 150 นาย เตรียมการ ณ ที่ตั้งพร้อมปฏิบัติการได้ทันทีภายใน 30 นาที เมื่อรับคำสั่ง จากผู้บังคับบัญชา จนกว่า ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บูช จะเดินทางกลับออกจากประเทศไทย
นอกจากนี้ ผบช.น.ยังสั่งการไปยังศูนย์สืบสวนนครบาล กองกำกับการสืบสวนพื้นที่ บก.น. 5 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนท้องที่รับผิดชอบสืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหว ป้องกันมือที่ 3 ก่อความไม่สงบเรียบร้อยแทรกแซงสถานการณ์ ตั้งจุดตรวจพาหนะ รถยนต์ ประชาชนที่ผ่านเข้าออก อย่างเคร่งครัดและจัดกำลังตำรวจดูแลด้านการจราจร ใช้กำลังเจ้าหน้าที่หน่วยปราบจลาจล ตำรวจ 191 และหน่วยอรินทราช 26 เข้าเสริมจุดตรวจท้องที่ ขณะเดียวกันมีการตั้งกองรักษาการณ์ ณ จุดต่างๆ โดยรอบบริเวณที่พักและบริเวณที่เป็นสถานที่เป้าหมายที่ประธานาธิบดีและคณะจะเดินทางไปตามหมายกำหนดการ พร้อมสั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่สืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่อาจมีผลกระทบต่อความปลอดภัย โดยประสานการปฏิบัติหน้าที่และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับสำนักข่าวกรอง เจ้าหน้าที่สันติบาล อย่างใกล้ชิด
ส่วนการเดินทางจากท่าอากาศยานกองบัญชาการกองทัพอากาศ มายังโรงแรมที่พักเวลาประมาณ 18.30 น.วันนี้นั้น กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้จัดรถนำขบวนอารักขารักษาความปลอดภัยตลอดการเดินทางทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ โดยมีรถไซเรนประกบหน้าหลัง ซ้ายขวา จำนวน 32 คัน ใช้เส้นทางดอนเมืองโทลล์เวย์ ต่อเนื่องด่วนดินแดง ลงแยกเพลินจิต เข้าสู่โรงแรมที่พัก คาดว่า ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 20 นาที นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเข้มในการตรวจตรารักษาความปลอดภัยยานพาหนะในเส้นทาง และสถานที่ที่ประธานาธิบดี มีกำหนดเดินทางไป ตั้งแต่ก่อนที่จะไปจนกว่าจะเดินทางกลับ และวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรายทางในการรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทาง ปิดการจราจร
ขณะเดียวกัน มีการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองฝั่งถนน สลับเป็นฟันปลาตลอดเส้นทาง และประสานงานกับหน่วยที่เกี่ยวข้องอยู่ตลอดเวลา เตรียมการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินโดยประสานกับสถานพยาบาล เมื่อมีเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ กำหนดเส้นทางหลัก เส้นทางสำรอง และพื้นที่ปลอดภัย โดยมีการชี้แจงซักซ้อมการปฏิบัติร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตลอดเชื่อว่าภารกิจครั้งนี้จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
