สาว 18 มงกุฎ แอบอ้างเจ้าของปั๊มให้มาเอาเงินซ่อมครัว หลอกเด็กปั๊มจนหัวปั่น ก่อนฉกเงินสดกว่า 5 หมื่นบาท ขึ้นแท็กซี่หนีลอยนวล ตำรวจเตรียมตรวจภาพวงจรปิดล่าตัว เตือนปั๊มน้ำมันอย่าหลงกล
วันนี้ (3 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.ต.สมนึก ห่านทองสุขศรี พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.ของ หจก.วีรา เลขที่ 5/4 ถนนกาญจนาภิเษก อยู่ฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าแม็คโคร สาขาบางบอน แขวงและเขตบางแค กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สักกฉัฐ กิตติขจร รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.อนุชา อ่วมเจริญ ผกก.สน.เพชรเกษม พ.ต.ท.นครินทร์ งามถ้อย สว.สส.สน.เพชรเกษม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.เพชรเกษม
ที่เกิดเหตุพบ น.ส.ปฏิญญา จันทร์ตูม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ม.8 ต.ท้อแท้ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก พนักงานเติมน้ำมันของปั๊ม ยืนรอให้การอยู่ด้วยอาการตื่นตกใจ โดย น.ส.ปฏิญญา กล่าวว่า ตนทำงานอยู่ที่ปั๊มแห่งนี้มา 10 ปีแล้ว ก่อนเกิดเหตุตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่ใกล้กับหัวจ่ายน้ำมันภายในปั๊ม ปรากฏว่า มีรถแท็กซี่โตโยต้า สีชมพู ทะเบียน ทร 6550 กทม.ขับเข้ามาจอด และมีคนร้ายเป็นหญิง อายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้า กางเกงยีนส์ และสวมหมวกแบบมีปีกลงมาจากรถก่อนตรงเข้ามาล็อกแขนตน พร้อมกับเรียกชื่อเล่นของตนแล้วพูดว่า “ส้ม เจ๊ให้มาเอาตังค์ไปทำครัว” ขณะนั้นไม่แน่ใจว่าหญิงคนดังกล่าวใช้อาวุธจี้ที่หลังตนด้วยหรือไม่ และไม่ได้เอะใจว่าเป็นคนร้าย ตนจึงหยิบเงินสดในกระเป๋าจำนวน 5 พันบาท ให้คนร้ายไป เนื่องจากคิดว่าเป็นคนที่เถ้าแก่ให้มาเอาเงินจริงๆ
น.ส.ปฏิญญา กล่าวต่อว่า หลังจากตนหยิบเงินให้ จากนั้นก็ยังเดินล็อกแขนตนไปหาเพื่อน ซึ่งเป็นพนักงานที่หัวจ่ายแก๊ส ชื่อ นายเก๋ อายุ 18 ปี แล้วบอก นายเก๋ ว่า “เจ๊ ให้มาเอาตังค์” ก่อนที่คนร้ายจะหยิบเงินในกระเป๋าสะพายของนายเก๋ ซึ่งวางไว้ที่หัวจ่ายแก๊ส จำนวนกว่า 5 หมื่นบาท แล้วรีบวิ่งขึ้นรถแท็กซี่คันดังกล่าวหลบหนีไป ตนเห็นผิดสังเกตจึงรีบโทรศัพท์ไปสอบถามเถ้าแก่จึงรู้ว่าโดนหลอกก็รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
ด้าน นางจิตนา ตรีวีรานุวัฒน์ อายุ 48 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมัน กล่าวว่า ครอบครัวของตนมีปั๊มน้ำมันอยู่ทั้งหมด 5 สาขา คือที่ สาขาตรงข้ามสำนักงานเขตบางบอน, พระราม 4, วุฒากาศ1 และ2 และกาญจนาภิเษก ที่เกิดเหตุ โดยขณะเกิดเหตุตนอยู่ที่บ้านพัก จากนั้นส้มก็โทรศัพท์มาถามว่าตนให้คนไปเอาเงินที่ปั๊มใช่หรือไม่ ซึ่งตนไมใด้ให้คนไปเอาเงินแต่อย่างใด จึงคิดว่าคงมีคนร้ายมาหลอกชิงเงิน จึงรีบขับรถออกมาที่ปั๊ม แต่ก็ได้รับโทรศัพท์เตือนจากสามีที่อยู่ที่ปั๊มน้ำมันสาขาบางบอนว่ามีคนร้ายเข้าไปอ้างชื่อเพื่อขอเงินจากพนักงานในปั๊ม แต่โชคดีที่พนักงานไหวตัวทัน ถามชื่อสามีตนซึ่งคนร้ายตอบไม่ได้จึงรีบขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไป แต่ก็มาก่อเหตุสำเร็จที่ปั๊มน้ำมันอีกสาขาจนได้
อย่างไรก็ดี ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ นายอุทร เสียแก้ว อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 ม.2 ต.บ้านขบ อ.สังขระ จ.สุรินทร์ คนขับรถแท็กซี่คันที่พาคนร้ายหลบหนีได้ขับย้อนกลับเข้ามาในปั๊ม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำ
จากการสอบสวน นายอุทร ให้การว่า ตนเองได้รับผู้โดยสารหญิงคนดังกล่าวมาจากปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาฝั่งตรงข้ามสำนักงานเขตบางบอน โดยหญิงคนดังกล่าวให้ขับรถไปส่งที่ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ถ.กาญจนาภิเษก แล้วบอกให้ตนจอดรอ จากนั้นได้ลงไปพูดคุยกับพนักงานเติมน้ำมันประมาณ 5 นาที ก่อนจะกลับขึ้นรถแล้วบอกให้ขับมาที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก โดยหญิงคนดังกล่าวได้ลงไปพูดคุยกับพนักงานอีกนานกว่า 10 นาที จากนั้นก็รีบมาขึ้นรถแล้วให้ตนรีบขับไปส่งภายในหมู่บ้านสุขสันต์ 5 ซอย 8 พร้อมกับจ่ายค่าโดยสาร 100 บาทก่อนบอกให้ตนจอดรถรออีก แต่เมื่อรอนานกว่า 30 นาที ไม่พบหญิงคนดังกล่าว ทำให้ตนรู้สึกผิดสังเกตจึงขับรถกลับมาสอบถามจากคนในปั๊มน้ำมัน จนรู้ในภายหลังว่าเป็นคนร้าย
ด้าน พ.ต.ต.สมนึก กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่าคนร้ายน่าจะมีการวางแผนและเตรียมการมาอย่างดี ถึงขนาดรู้ชื่อเล่นของพนักงานภายในปั๊ม แต่เชื่อว่า ไม่น่าจะมีคนในเกี่ยวข้องเพราะเจ้าของปั๊มยืนยันว่าไม่เคยไล่พนักงานคนใดออก นอกจากนี้ คนร้ายยังพยายามก่อเหตุมาแล้วในปั๊มน้ำมัน 2 แห่ง จนกระทั่งมาก่อเหตุสำเร็จในแห่งที่ 3 ส่วนคนขับรถแท็กซี่จากการสอบสวนคาดว่า ไม่น่าจะมีส่วนรู้เห็น เบื้องต้นตำรวจเตรียมตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อสืบสวนติดตามตัวคนร้าย นอกจากนี้ ยังอยากฝากเตือนไปยังพนักงานปั๊มน้ำมันต่างๆ ให้ระมัดระวัง เพราะคนร้ายรายนี้ไม่ได้มีพฤติการณ์ชิงทรัพย์ แต่ใช้วิธีแอบอ้างหลอกว่ารู้จักกับเจ้าของปั๊ม ซึ่งถือว่าเป็นการฉ้อโกง หากมีคนร้ายอ้างตัวว่ารู้จักกับเจ้าของปั๊มเข้าไปเก็บเงินอย่าหลงเชื่อ และหากพบว่ามีพิรุธสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที