ตำรวจโรงพักปลายบาง จับ รปภ.ห้างโลตัส ทำตัวเป็นโจรเสียเอง หลบซ่อนตัวภายในห้าง แล้วเข้าไปโจรกรรมโทรศัพท์ในร้านจำหน่าย เลือกเฉพาะ “โนเกีย” เท่านั้น รับเพิ่งทำเป็นครั้งแรก แต่ของกลางมีถึง 43 เครื่อง มูลค่ากว่า 5 แสนบาท
วันนี้ (8 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.พ.ต.อ.สถิตย์ ต้นสงวน รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.สราวุธ สวัสดิชัย สวญ. สภ.ปลายบาง อ.บางใหญ่ พ.ต.ต.โสฬส บุญเหลือ สว.สส.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายนพดล พันธุรัตน์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/1 หมู่ 6 ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมด้วยของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่นต่างๆ จำนวน 43 เครื่อง ราคา 500,649 บาท คีมตัดเหล็กยาว 2 ฟุต 1 อัน, คีมล็อก 1 ตัว กุญแจปากตาย, เหล็กตัดกระจก, ไขควงวัดไฟ กระเป๋าลายพรางทหาร โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้าหรือเข้าทางช่องทาง ซึ่งผู้เป็นใจเปิดให้ไว้
พ.ต.อ.สถิตย์กล่าวว่า ก่อนถูกจับกุมตัว นายนพดล ซึ่งทำงานเป็น รปภ.ประจำลานจอดรถห้างเทสโก้โลตัส สาขาบางใหญ่ ถ.กาญจนาภิเษก ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ได้ก่อเหตุลักทรัพย์หลังจากออกเวรเมื่อเวลา 23.00 น.ของวันที่ 6 ม.ค.2551 ซึ่งเป็นเวลาที่ห้างปิดทำการแล้ว ได้หลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้าง กระทั่งเวลา 01.00 น.ของวันที่ 7 ม.ค.2551 จึงได้เปิดฝ้าเพดานที่หลบซ่อนตัวอยู่ แล้วโรยตัวลงมาที่ร้าน “บลิสเทลช้อป” ขายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้นที่ 1 ก่อนใช้เครื่องมือคีมตัดเหล็ก ลักเอาโทรศัพท์ยี่ห้อโนเกียรุ่นต่างๆ ใส่กระเป๋าลายพรางแล้วหลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้างจนถึงเวลา 06.00 น.ของวันที่ 7 ม.ค.2551
พ.ต.อ.สถิตย์ กล่าวต่อว่า หลังจากปฏิบัติการฉกทรัพย์สินเรียบร้อยแล้ว นายนพดล ได้ออกอุบายด้วยการโทรศัพท์ไปที่ประตู รปภ.และแม่บ้าน ที่อยู่ประจำประตูทางเข้าออกพนักงานห้างว่า ฝ่ายบริหารเรียกประชุมด่วนเวลา 07.00 น.หลังจากที่ รปภ.และแม่บ้านเดินทางไปประชุมนายนพดลได้ทำการถอดสายกล้องทีวีวงจรปิดตรงจุดประตูทางเข้าออกของพนักงานห้าง แล้วนำทรัพย์สินที่โจรกรรมมาไปขายที่ศูนย์โทรศัพท์ท๊อปพลาซ่า ใกล้ศูนย์การค้าบางใหญ่ซิตี้ในราคาเครื่องละ 5,000 บาท จำนวน 3 เครื่อง จนทาง พ.ต.ต.โสฬส บุญเหลือ สว.สส.สภ.ปลายบาง สืบทราบจึงได้นำกำลังไปจับกุมตัวได้พร้อมทั้งติดตามไปนำของกลางส่วนที่เหลือจากบ้านพักของนายนพดลมาได้
เบื้องต้นผู้ต้องหาสารภาพว่า เพิ่งก่อเหตุเป็นครั้งแรก โดยจะเลือกเฉพาะยี่ห้อโนเกีย เพราะมีราคาแพงขายง่าย และที่ต้องทำลงไป เพราะต้องการจะหาเงินไปดาวน์รถแท็กซี่มาขับ ประกอบกับรถ จยย.ที่ใช้อยู่ก็ขาดส่งมาแล้วหลายเดือน ส่วนร้านโทรศัพท์แห่งนี้เคยถูกคนร้ายบุกลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียมาแล้ว จำนวน 30 เครื่อง เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่านายนพดลอาจเป็นคนร้ายในครั้งนั้นก็เป็นได้ เบื้องต้นจะได้สอบสวนขยายผลว่าก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งหรือไม่ต่อไป
วันนี้ (8 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.พ.ต.อ.สถิตย์ ต้นสงวน รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.สราวุธ สวัสดิชัย สวญ. สภ.ปลายบาง อ.บางใหญ่ พ.ต.ต.โสฬส บุญเหลือ สว.สส.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายนพดล พันธุรัตน์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/1 หมู่ 6 ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมด้วยของกลางโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่นต่างๆ จำนวน 43 เครื่อง ราคา 500,649 บาท คีมตัดเหล็กยาว 2 ฟุต 1 อัน, คีมล็อก 1 ตัว กุญแจปากตาย, เหล็กตัดกระจก, ไขควงวัดไฟ กระเป๋าลายพรางทหาร โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้าหรือเข้าทางช่องทาง ซึ่งผู้เป็นใจเปิดให้ไว้
พ.ต.อ.สถิตย์กล่าวว่า ก่อนถูกจับกุมตัว นายนพดล ซึ่งทำงานเป็น รปภ.ประจำลานจอดรถห้างเทสโก้โลตัส สาขาบางใหญ่ ถ.กาญจนาภิเษก ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ได้ก่อเหตุลักทรัพย์หลังจากออกเวรเมื่อเวลา 23.00 น.ของวันที่ 6 ม.ค.2551 ซึ่งเป็นเวลาที่ห้างปิดทำการแล้ว ได้หลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้าง กระทั่งเวลา 01.00 น.ของวันที่ 7 ม.ค.2551 จึงได้เปิดฝ้าเพดานที่หลบซ่อนตัวอยู่ แล้วโรยตัวลงมาที่ร้าน “บลิสเทลช้อป” ขายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้นที่ 1 ก่อนใช้เครื่องมือคีมตัดเหล็ก ลักเอาโทรศัพท์ยี่ห้อโนเกียรุ่นต่างๆ ใส่กระเป๋าลายพรางแล้วหลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้างจนถึงเวลา 06.00 น.ของวันที่ 7 ม.ค.2551
พ.ต.อ.สถิตย์ กล่าวต่อว่า หลังจากปฏิบัติการฉกทรัพย์สินเรียบร้อยแล้ว นายนพดล ได้ออกอุบายด้วยการโทรศัพท์ไปที่ประตู รปภ.และแม่บ้าน ที่อยู่ประจำประตูทางเข้าออกพนักงานห้างว่า ฝ่ายบริหารเรียกประชุมด่วนเวลา 07.00 น.หลังจากที่ รปภ.และแม่บ้านเดินทางไปประชุมนายนพดลได้ทำการถอดสายกล้องทีวีวงจรปิดตรงจุดประตูทางเข้าออกของพนักงานห้าง แล้วนำทรัพย์สินที่โจรกรรมมาไปขายที่ศูนย์โทรศัพท์ท๊อปพลาซ่า ใกล้ศูนย์การค้าบางใหญ่ซิตี้ในราคาเครื่องละ 5,000 บาท จำนวน 3 เครื่อง จนทาง พ.ต.ต.โสฬส บุญเหลือ สว.สส.สภ.ปลายบาง สืบทราบจึงได้นำกำลังไปจับกุมตัวได้พร้อมทั้งติดตามไปนำของกลางส่วนที่เหลือจากบ้านพักของนายนพดลมาได้
เบื้องต้นผู้ต้องหาสารภาพว่า เพิ่งก่อเหตุเป็นครั้งแรก โดยจะเลือกเฉพาะยี่ห้อโนเกีย เพราะมีราคาแพงขายง่าย และที่ต้องทำลงไป เพราะต้องการจะหาเงินไปดาวน์รถแท็กซี่มาขับ ประกอบกับรถ จยย.ที่ใช้อยู่ก็ขาดส่งมาแล้วหลายเดือน ส่วนร้านโทรศัพท์แห่งนี้เคยถูกคนร้ายบุกลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกียมาแล้ว จำนวน 30 เครื่อง เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่านายนพดลอาจเป็นคนร้ายในครั้งนั้นก็เป็นได้ เบื้องต้นจะได้สอบสวนขยายผลว่าก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งหรือไม่ต่อไป
