ตร.ปส.นำกำลังกว่า 100 นายลุยเกาะสมุยกวาดล้างพื้นที่เป้าหมาย 13 แห่ง จับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ชาวอิหร่านที่ลักลอบนำโคเคน ยาอี มาจากชาวไนจีเรียและชาวกานา เข้ามาขายให้กับนักท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะสมุยและเกาะพนัง อีกทั้งยังเป็นผู้ต้องหาที่ทางการสหรัฐต้องการตัว พร้อมยึดธนบัตรสกุลต่างๆ และทรัพย์สินของมีค่า เพื่อตรวจสอบและจะเสนอให้ ปปง.ทำการยึดทรัพย์ต่อไป
วันนี้ (2 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อุดม รักศิลธรรม พล.ต.ต.ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส. และเจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) สำนักงาน ป.ป.ส. กองทัพอากาศ กรมทรัพยากรธรณี และสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย (DEA) ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในเกาะสมุย จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นายริชชี่ หรือรามิน อามานี หรือ ชาริอา ซากัมซาติ อายุ 38 ปี สัญชาติอิหร่าน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ จ.93/2551 ลงวันที่ 11 ก.ค.51 ในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
น.ส.บุษริน ภูมิเขต อายุ 30 ปี สัญชาติไทย ซึ่งอยู่ระหว่างตั้งครรภ์ได้ประมาณ 7 เดือน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ จ.96/2551 ลงวันที่ 11 ก.ค.51 ในความผิดฐานให้การสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด นายลี แคมเบล บีมตี้ อายุ 34 ปี สัญชาติอังกฤษ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ จ.94/2551 ลงวันที่ 11 ก.ค.51 พร้อมของกลางโคเคน จำนวน 1 ถุงเล็กปิดผนึก นายโดแดน เซียมาค หรือ นายราเฟต โฮริโอครุ หรือ นายรีโอ พร้อมของกลางกัญชา จำนวน 1 ถุงเล็ก นายสมศักดิ์ หรือ เข็ม นิลรัตน์ อายุ 36 ปี สัญชาติไทย พร้อมของกลางโคเคน จำนวน 4 ถุงเล็ก น้ำหนักประมาณ 2.5 กรัม อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนขนาดเดียวกัน จำนวน 48 นัด ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.ท.วุฒิ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากทาง บช.ปส.ได้ทำการสนธิกำลังกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เข้าปิดล้อมตรวจค้นตามจุดเป้าหมายในพื้นที่เกาะสมุย จำนวน 13 แห่ง ที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นแหล่งซุกซ่อนยาเสพติด และตรวจค้นสถานบริการที่กลุ่มผู้ต้องหาเช่าไว้เป็นแหล่งจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าซึ่งเป็นนักท่องเที่ยว โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย จนสามารถจับกุมนายริชชี่ ผู้ต้องหาเครือข่ายค้าโคเคนรายใหญ่ในพื้นที่เกาะสมุยได้ หลังจากได้รับการประสานงานจาก สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย (DEA)
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับนายริชชี่ ถือว่าเป็นตัวการสำคัญจากการสืบสวนพบว่า ได้ลักลอบนำ โคเคน ยาอี และยาเสพติดอื่นๆ มาจากชาวไนจีเรียและชาวกาน่า เข้ามาขายให้กับนักท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะสมุยและเกาะพนัง จนมีฐานะร่ำรวย มีทรัพย์สินเป็นเรือยอร์ช รถยนต์ และกิจการสถานบริการ ร้านค้าของที่ระลึกหลายแห่งในเกาะสมุย อีกทั้งยังเป็นผู้ต้องหาที่ทางการประเทศสหรัฐได้มีหนังสือขอความร่วมมือให้ทางกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สืบสวนพฤติการณ์ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการลักลอบค้ายาเสพติดระหว่างทวีปอเมริกา กับเอเชียมาเป็นเวลานาน
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดธนบัตรสกุลต่างๆ และทรัพย์สินของมีค่า สมุดบัญชีเงินฝากของผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบและจะเสนอให้ ปปง.ทำการยึดทรัพย์ต่อไป หลังจากนี้ไปทางตำรวจจะต้องเข้าไปดูแลกวดขันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำลังรณรงค์ให้พื้นที่เกาะสมุยเป็นแหล่งท่องเที่ยวปลอดยาเสพติด
วันนี้ (2 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อุดม รักศิลธรรม พล.ต.ต.ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส. และเจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) สำนักงาน ป.ป.ส. กองทัพอากาศ กรมทรัพยากรธรณี และสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย (DEA) ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในเกาะสมุย จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นายริชชี่ หรือรามิน อามานี หรือ ชาริอา ซากัมซาติ อายุ 38 ปี สัญชาติอิหร่าน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ จ.93/2551 ลงวันที่ 11 ก.ค.51 ในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
น.ส.บุษริน ภูมิเขต อายุ 30 ปี สัญชาติไทย ซึ่งอยู่ระหว่างตั้งครรภ์ได้ประมาณ 7 เดือน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ จ.96/2551 ลงวันที่ 11 ก.ค.51 ในความผิดฐานให้การสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด นายลี แคมเบล บีมตี้ อายุ 34 ปี สัญชาติอังกฤษ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ จ.94/2551 ลงวันที่ 11 ก.ค.51 พร้อมของกลางโคเคน จำนวน 1 ถุงเล็กปิดผนึก นายโดแดน เซียมาค หรือ นายราเฟต โฮริโอครุ หรือ นายรีโอ พร้อมของกลางกัญชา จำนวน 1 ถุงเล็ก นายสมศักดิ์ หรือ เข็ม นิลรัตน์ อายุ 36 ปี สัญชาติไทย พร้อมของกลางโคเคน จำนวน 4 ถุงเล็ก น้ำหนักประมาณ 2.5 กรัม อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนขนาดเดียวกัน จำนวน 48 นัด ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.ท.วุฒิ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากทาง บช.ปส.ได้ทำการสนธิกำลังกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เข้าปิดล้อมตรวจค้นตามจุดเป้าหมายในพื้นที่เกาะสมุย จำนวน 13 แห่ง ที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นแหล่งซุกซ่อนยาเสพติด และตรวจค้นสถานบริการที่กลุ่มผู้ต้องหาเช่าไว้เป็นแหล่งจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าซึ่งเป็นนักท่องเที่ยว โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย จนสามารถจับกุมนายริชชี่ ผู้ต้องหาเครือข่ายค้าโคเคนรายใหญ่ในพื้นที่เกาะสมุยได้ หลังจากได้รับการประสานงานจาก สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย (DEA)
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับนายริชชี่ ถือว่าเป็นตัวการสำคัญจากการสืบสวนพบว่า ได้ลักลอบนำ โคเคน ยาอี และยาเสพติดอื่นๆ มาจากชาวไนจีเรียและชาวกาน่า เข้ามาขายให้กับนักท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะสมุยและเกาะพนัง จนมีฐานะร่ำรวย มีทรัพย์สินเป็นเรือยอร์ช รถยนต์ และกิจการสถานบริการ ร้านค้าของที่ระลึกหลายแห่งในเกาะสมุย อีกทั้งยังเป็นผู้ต้องหาที่ทางการประเทศสหรัฐได้มีหนังสือขอความร่วมมือให้ทางกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สืบสวนพฤติการณ์ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการลักลอบค้ายาเสพติดระหว่างทวีปอเมริกา กับเอเชียมาเป็นเวลานาน
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังตรวจยึดธนบัตรสกุลต่างๆ และทรัพย์สินของมีค่า สมุดบัญชีเงินฝากของผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบและจะเสนอให้ ปปง.ทำการยึดทรัพย์ต่อไป หลังจากนี้ไปทางตำรวจจะต้องเข้าไปดูแลกวดขันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำลังรณรงค์ให้พื้นที่เกาะสมุยเป็นแหล่งท่องเที่ยวปลอดยาเสพติด