xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มใหญ่พกอาวุธเต็มอัตราศึก! ซิ่งรถชนรั้วพันธมิตรฯ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้าควบคุมตัวนายสโรชคริษฐ์ พรหมอักษร อายุ 56 ปี ที่ขับรถพุ่งเข้าชนรั้วกั้นทางเข้า - ออก ด้านหลังเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน
หนุ่มใหญ่เจ้าของร้านอาหารเมาปลิ้น ขับรถชนรั้วทางเข้าออกด้านหลังเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินล้มระเนระนาด แถมพกอาวุธปืนใส่เสื้อเกราะกันกระสุนพร้อมรบ สารภาพอ้างดื่มหนักแต่อยากขับรถมาสักการะพระบรมรูปทรงม้า ปัดไม่เห็นสัญญาณไฟ หรือป้ายบอกทาง จึงได้ขับรถพุ่งชน ด้าน ตร.แจ้งพกพาอาวุธ ขับรถโดยประมาทขณะมึนเมา

วันนี้ (30 ก.ค.) เมื่อเวลา 03.10 น. พ.ต.ท.เฉลิมชัย วงศ์เจียม พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.นางเลิ้ง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า มีชายขับรถพุ่งชนแผงเหล็กกั้นทางเข้าออกด้านหลังเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน แขวงและเขตดุสิต กทม.จึงรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ทางเข้าด้านหลังเวทีพันธมิตรฯ พบรถยนต์ยี่ห้อ แลนด์โรเวอร์ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน พว 2243 กทม. จอดอยู่สภาพด้านหน้ามีรอยถลอกเล็กน้อย สปอตไลต์ด้านหน้าถ่างออกเล็กน้อย ขณะเดียวกันมีแผงเหล็กกั้นทางเข้าล้มระเนระนาด ขณะเดียวกันพบว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กำลังควบคุมตัวคนขับรถคันดังกล่าวไว้ ทราบชื่อ คือ นายสโรชคริษฐ์ พรหมอักษร อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 8 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. อยู่ในสภาพมึนเมาพูดจาไม่รู้เรื่อง

นอกจากนี้ จากการค้นในตัวนายสโรชคริษฐ์ พบว่าสวมใส่เสื้อเกราะ พกอาวุธปืนขนาด .357 และขนาด 11 มม.อยู่ 2 กระบอก ขณะเดียวกัน จากการตรวจค้นภายในรถพบอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ด้วยกัน 4 กระบอก ประกอบด้วย ปืนพกสั้นขนาด 9 มม., ขนาด .32, 11 มม., .38 และปืนลูกซองยาว อย่างละ 1 กระบอก และยังพบเครื่องกระสุนจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ในรถยังพบเสื้อแจ็กเกตของพรรคชาติไทย นามบัตรระบุชื่อนายสโรชคริษฐ์ อาชีพทนายความ และเป็นเจ้าของร้านอาหารเรือนคำหยาด บัตรสมาชิกพรรคชาติไทย บัตรประจำตัวชุดปฏิบัติการพิเศษ บก.สส. ทั้งนี้ จากการตรวจสอบหน้ารถพบสติกเกอร์ผ่านเข้าออกกองทัพเรือ ติดอยู่ด้วย

ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายสโรชคริษฐ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลุ่มพันธมิตรฯ ไปทำการสอบปากคำที่ สน.นางเลิ้ง โดยมี พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.วิบูลย์ยุทธ สันทัดเวช ผกก.สน.นางเลิ้ง ร่วมสอบปากคำ

จากการสอบสวน นายธนา แสงรังสรรค์ อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่รปภ.ของกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตน และเพื่อนปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยการชุมนุมอยู่บริเวณ ด้านหลังเวทีปราศรัย บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ได้เห็นรถคันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็วสูงบนถนนราชดำเนิน ผ่านแยก จ.ป.ร.มุ่งหน้ามายังแยกมัฆวานฯ โดยรถขับมาด้วยความเร็วสูงไม่มีการเหยียบเบรก หรือชะลอความเร็วแต่อย่างใด ก่อนพุ่งชนแผงเหล็กซึ่งกั้นเป็นสองชั้น มีรปภ.ได้รับบาดเจ็บ 3 คน พวกตนจึงได้ทำการปิดล้อมรถ และเชิญคนขับลงมาจากรถ ปรากฏว่า คนขับอยู่ในอาหารเมาสุรา พูดจาไม่รู้เรื่อง ขณะเดียวกันพบว่านายสโรชคริษฐ์ พกอาวุธปืนในตัวจำนวนมาก จึงได้แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

ด้าน นายสโรชคริษฐ์ กล่าวว่า ตนเป็นเจ้าของร้านอาหารเรือนคำหยาดย่านบางแค และเคยเป็นครูสอนยิงปืนตำรวจ ก่อนเกิดเหตุได้ดื่มสุราที่ร้าน ซึ่งตนก็ดื่มเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว หลังจากเมาได้ที่ได้นึกครึ้มใจอยากมาสักการะพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 จึงได้ขับรถมา เมื่อถึงจุดเกิดเหตุพบว่าเป็นที่มืดมองไม่เห็น ประกอบกับไม่มีสัญญาณไฟหรือป้ายบอกทางใดๆ จึงได้พุ่งชนแผงเหล็กดังกล่าว ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนไม่ได้ตั้งใจ เพราะหากตั้งใจจะชนมากกว่านี้อีก

ส่วนที่พกปืนจำนวนมากนั้น นายสโรชคริษฐ์ กล่าวว่า เป็นคนชอบเล่นปืน ซึ่งที่บ้านยังมีอาวุธปืนเก็บอยู่อีกกว่า 50 กระบอก ส่วนที่มีอาวุธปืนอยู่ในรถจำนวนหลายกระบอกนั้น เพราะชอบสะสม ไม่ได้ตั้งใจจะไปยิงใครแต่มีติดรถไว้เท่านั้น ซึ่งปืนทุกกระบอกมีทะเบียนถูกต้อง ตนเป็นประชาชนจะพกปืนไม่ได้หรืออย่างไร ขนาดโจรยังพกปืนได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้เกลียดกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ไม่ชอบที่มาชุมนุมกีดขวางทางจราจร ซึ่งโดยส่วนตัวตนเป็นคนที่เบื่อและไม่สนใจเรื่องการเมืองอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นที่จะมาทำร้ายใคร

พ.ต.อ.วิบูลย์ยุทธ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหายังอยู่ในอาการมึนเมา ซึ่งจากการตรวจวัดปริมาณแฮลกอฮอล์ในเลือดพบว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 120 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาขับรถขณะมึนเมาสุรา ยุทธภัณฑ์ทางทหารไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร และขับรถโดยประมาท

ต่อมาเมื่อเวลา 05.00 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯได้เดินทางมาที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อติดตามผลการสอบสวน โดย พล.ต.จำลอง ได้ตรวจดูสภาพรถของผู้ต้องหา ก่อนกล่าวว่าไม่ได้มาร่วมสอบปากคำปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งกรณีนี้ผู้ต้องหาจงใจมาสร้างวุ่นวายกลุ่มพันธมิตรฯหรือไม่ ตนไม่ทราบ ต้องรอการสอบสวนของตำรวจ แต่เรามาดูว่าทุกอย่างมันเป็นไปตามที่เราคาดว่าฝ่ายตรงข้าม ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล หรือพรรคร่วมรัฐบาล กำลังทำร้ายพวกเราโดยใช้ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งยืนยันว่าตนไม่กลัว กลุ่มผู้ชุมนุมเองหลังเกิดเหตุตนได้ขึ้นชี้แจงบนเวทีทุกคนก็ไม่กลัว และมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยของกลุ่ม พันธมิตรฯ

พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ในเรื่องการรักษาความปลอดภัย พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ในฐานะประธานคณะกรรมการพลังแผ่นดิน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ติดต่อกับผู้ใหญ่กับกองทัพไว้เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากสถานการณ์กลุ่มพันธมิตรฯ อาจจะได้รับความรุนแรงมากขึ้น มีการใช้อันธพาลมารุมทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งผู้ใหญ่ในกองทัพได้ตกลงด้วยวาจาเรียบร้อยแล้วว่าจะส่งทหารมาช่วยดูแล ซึ่งวันนี้จะได้ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรโดยขอให้มีสารวัตรทหารในเครื่องแบบมายืนดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย ซึ่งอาจจะมีจำนวนไม่มากนักก็ได้ อย่างไรก็ตามกำลังหลักในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมยังเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหมือนเดิม ซึ่งได้มีความพร้อมรับมือสถานการณ์ต่างๆ ได้
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้าตรวจค้นตัว นายสโรชคริษฐ์ พรหมอักษร อายุ 56 ปี

รถยนต์ยี่ห้อ แลนด์โรเวอร์ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน พว 2243 กทม. จอดอยู่สภาพด้านหน้ามีรอยถลอกเล็กน้อย สปอตไลท์ด้านหน้าถ่างออกเล็กน้อย ขณะเดียวกันมีแผงเหล็กกั้นทางเข้าล้มระเนระนาด
นายสโรชคริษฐ์ พรหมอักษร อายุ 56 ปี อยู่ในสภาพมึนเมาพูดจาไม่รู้เรื่อง
จากการตรวจค้นภายในรถพบอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ด้วยกัน 4 กระบอก ประกอบด้วย ปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ขนาด.32 มม. .380 และปืนลูกซองยาว อย่างละ 1 กระบอก และยังพบเครื่องกระสุนจำนวนมาก ขณะเดียวกันในรถยังพบเสื้อแจ็กเก็ตของพรรคชาติไทย
พล.ต.จำลอง เดินทางมาติดตามการสอบสวนที่ สน.นางเลิ้ง
พล.ต.จำลอง ดูเสื้อแจ็กเก็ตของพรรคชาติไทย ซึ่งพบในรถผู้ต้องหา
กำลังโหลดความคิดเห็น