ตำรวจขอหมายจับแก๊งฉกโคตรเพชรแอฟริกาเพิ่มอีกราย งงเจ้าของเพชรยังยื้อไม่ยอมให้ตรวจสอบมูลค่า ผบก.น.2 ยันผู้ต้องหาที่ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ผ่านทีวีเป็นสิทธิที่ทำได้ ย้ำหากบริสุทธิ์จริงมอบตัวสู้คดี
ความคืบหน้ากรณีคนร้ายวิ่งราวทรัพย์เพชรแอฟริกา น้ำหนัก 420 กรัม 2,100 กะรัต มูลค่าประมาณ 315 ล้านบาท ของนายจักพันธ์ ประมวลสุข อายุ 73 ปี เหตุเกิดที่บริษัทจัดหางาน ซาป้า อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์วิส จำกัด เลขที่ 161/414-411 ภายในซอยวิภาวดี 76 ถนนวิภาวดี แขวงสีกัน เขตดอนเมือง ในท้องที่ สน.ดอนเมือง
ล่าสุด วันนี้ (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. นายจักรพันธ์ ประมวลสุข เจ้าของเพชร ได้เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ พ.ต.ท.ณฐกร คุ้มทรัพย์ พนักงานสอบสวน สบ.3 สน.ดอนเมือง โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที ต่อมาพนักงานสอบสวนได้พาตัวนายจักรพันธ์ไปที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ย่านสีลม เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบมูลค่าที่แท้จริงของเพชรอีกหนึ่งเม็ด อย่างไรก็ดี นายจักรพันธ์ยังคงไม่ยอมให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเพชรดังกล่าว
พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้เพิ่มอีก 1 ราย เป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ตามคำให้การของพยานซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ดีตำรวจคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการตรวจสอบมูลค่าเพชรดังกล่าวอีกแล้ว หลังพยายามพาผู้เสียหายไปพบผู้เชี่ยวชาญตามร้านเพชร 3-4 แห่ง แต่ผู้เสียหายกลับปฏิเสธที่จำนำเพชรออกมาให้ตรวจสอบโดยอ้างว่าเกรงจะไม่ปลอดภัย แต่ในส่วนของคดีความก็ต้องว่ากันต่อไปเมื่อมีการแจ้งความร้องทุกข์ ตำรวจก็มีหน้าที่ต้องติดตามจับกุมคนร้ายและเพชรกลับคืนมา
ต่อมา เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิ์พร ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 ได้เดินทางมายัง สน.ดอนเมือง โดยได้ประชุมร่วมกับ ผกก.สน.ดอนเมือง และพนักงานสอบสวนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เพื่อเร่งรัดและวางแนวทางการสอบสวนโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ต.วรศักดิ์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ตนได้เดินทางมาร่วมประชุมเพื่อประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดและติดตามความคืบหน้าการสอบสวนคดี อีกทั้งยังได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนประสานขอข้อมูลจาก สน.ในเขตนครบาลที่เคยมีคดีในลักษณะเดียวกันเพื่อนำมาเป็นข้อมูลเพิ่มเติมในการติดตมตัวคนร้าย
พล.ต.ต.วรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในวันจันทร์ที่ 28 ก.ค.ก็จะออกหมายจับเพิ่มอีก 1คนเป็นคนร้ายที่ขับรถจักรยานยนต์พาผู้ต้องหาฉกเพชรหนี และยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามความเคลื่อนไหวของนางรินทร์ลภัส นายหน้าที่ติดต่อขายเพชร โดยไม่ให้ออกนอกพื้นที่กทม. เนื่องจากคดียังไม่เสร็จสิ้น ส่วนที่ นายพรหมมา จันทร์มะลิ อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับได้ออกมาแสดงตัวและยืนยันว่าไม่ใช่ผู้ก่อเหตุผ่านมทางสถานีโทรทัศน์ พล.ต.ต.วรศักดิ์ กล่าวว่าการที่ตำรวจจะขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจะต้องมีพยานหลักฐานที่เชื่อได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดีการที่ผู้ต้องหาออกมาชี้แจงก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ และหากมั่นใจว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดก็ขอให้เข้ามอบตัวและนำหลักฐานมาชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อต่อสู้คดีน่าจะดีกว่า
เจ้าของโคตรเพชร สงสัยร้านมีส่วนรู้เห็นกับโจร
ตร.สเกตช์ภาพคนร้ายฉกเพชร-เจ้าของร้านชี้ตัวโจรแสบ!
“แก๊งเนกไท” ฉกเพชรแอฟริกา 315 ล้าน ซิ่ง จยย.เผ่นลอยนวล
