ปส.รวบชาวลาว “ท้าวแก้วสีนวล” คาห้องพักโรงแรมนครพนม ยึดของกลางมีทั้งยาบ้า-กัญชาอัดแท่งอื้อ มูลค่าเกือบครึ่งล้าน เจ้าตัวสารภาพขนยาจากลาว เจาะขายกลุ่มลูกค้าทางใต้ ส่วนอีกรายหนุ่มไทยหวังรวยทางลัด ตร.จับได้ขณะลำเลียงยานรกจากทางเหนือขายเมืองกรุง
วันนี้ (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.แสงสูรย์ กรรณสูต ผบก.ปส.2 และ พ.ต.อ.มนต์สัณฑ์ ไกลแกล้ว รอง ผบก.ปส.2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปส.2 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม ท้าวแก้วสีนวล แสนทวีสุข อายุ 64 สัญชาติลาว อยู่บ้านยางงาม เมืองท่าแขก แขวงคำม่วง ประเทศลาว ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด พร้อมของกลาง กัญชาอัดแท่ง 99 แท่ง น้ำหนักรวม 99 กิโลกรัม มูลค่า 495,000 บาท ยาบ้า จำนวน 301 เม็ด โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง และหนังสือเดินทางสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จำนวน 1 เล่ม โดยสามารถเข้าจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งภายในห้องเลขที่ A04 อ.เมือง จ.นครพนม
พล.ต.ต.แสงสูรย์ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่านายน้อย และท้าวสีนวล ชาวลาวลักลอบนำยาบ้าและกัญชามาจำหน่ายให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่จึงทำการติดต่อล่อซื้อยาบ้าจำนวน 301 เม็ด และกัญชาจำนวน 99 กก.เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งท้าวสีนวลได้นัดส่งของที่บริเวณริมถนนชยางกูร ระหว่างหลัก กม.ที่ 265/268 บ้านดงหมู หมู่ 10 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม และจ่ายเงินค่ายาเสพติดที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.นครพนม
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้นำเงินส่งมอบให้ที่โรงแรมแล้ว ท้าวสีนวลจึงสั่งให้ลูกน้องส่งมอบยาเสพติดที่ริมถนนชยางกูร ซึ่งระหว่างที่ส่งมอบยาเสพติดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม แต่กลุ่มของลูกน้องของผู้ต้องหาไหวตัวทันและสามารถหลบหนีไปได้ จึงสามารถจับกุมท้าวสีนวลผู้ต้องหาเอาไว้ได้พร้อมกับเงินล่อซื้อ ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่านำยาเสพติดเข้ามาจากฝั่งลาว เพื่อขายให้กับกลุ่มลูกค้าทางภาคใต้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.สส.บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.แสงสูรย์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ยังได้ร่วมมือกับ บช.ภ.5 จับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดได้อีก 1 ราย คือ นายอภินิวัฒน์ เล็กไพจิตร อายุ 37 ปี และน.ส.วิภาสินี รอดพิรุณ พร้อมของกลางยาบ้า 30 มัด จำนวน 60,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 450,000 บาท รถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ตถ7401 กทม. การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตั้งด่านตรวจตลอดเส้นทางในพื้นที่ภาคเหนือถึง กทม. จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น.ได้พบรถยนต์ต้องสงสัยจึงเข้าทำการตรวจค้น พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่จำนวน 30 มัด จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่านำยาบ้ามาจากทางจังหวัดเชียงราย และขับหลบเลี่ยงด่านมาตลอดเส้นทาง จนกระทั่งมาถูกจับกุมในที่สุด
วันนี้ (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.ณัฐพิชย์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.แสงสูรย์ กรรณสูต ผบก.ปส.2 และ พ.ต.อ.มนต์สัณฑ์ ไกลแกล้ว รอง ผบก.ปส.2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปส.2 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม ท้าวแก้วสีนวล แสนทวีสุข อายุ 64 สัญชาติลาว อยู่บ้านยางงาม เมืองท่าแขก แขวงคำม่วง ประเทศลาว ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด พร้อมของกลาง กัญชาอัดแท่ง 99 แท่ง น้ำหนักรวม 99 กิโลกรัม มูลค่า 495,000 บาท ยาบ้า จำนวน 301 เม็ด โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง และหนังสือเดินทางสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จำนวน 1 เล่ม โดยสามารถเข้าจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งภายในห้องเลขที่ A04 อ.เมือง จ.นครพนม
พล.ต.ต.แสงสูรย์ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่านายน้อย และท้าวสีนวล ชาวลาวลักลอบนำยาบ้าและกัญชามาจำหน่ายให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่จึงทำการติดต่อล่อซื้อยาบ้าจำนวน 301 เม็ด และกัญชาจำนวน 99 กก.เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งท้าวสีนวลได้นัดส่งของที่บริเวณริมถนนชยางกูร ระหว่างหลัก กม.ที่ 265/268 บ้านดงหมู หมู่ 10 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม และจ่ายเงินค่ายาเสพติดที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.นครพนม
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้นำเงินส่งมอบให้ที่โรงแรมแล้ว ท้าวสีนวลจึงสั่งให้ลูกน้องส่งมอบยาเสพติดที่ริมถนนชยางกูร ซึ่งระหว่างที่ส่งมอบยาเสพติดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม แต่กลุ่มของลูกน้องของผู้ต้องหาไหวตัวทันและสามารถหลบหนีไปได้ จึงสามารถจับกุมท้าวสีนวลผู้ต้องหาเอาไว้ได้พร้อมกับเงินล่อซื้อ ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่านำยาเสพติดเข้ามาจากฝั่งลาว เพื่อขายให้กับกลุ่มลูกค้าทางภาคใต้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.สส.บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.แสงสูรย์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ยังได้ร่วมมือกับ บช.ภ.5 จับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดได้อีก 1 ราย คือ นายอภินิวัฒน์ เล็กไพจิตร อายุ 37 ปี และน.ส.วิภาสินี รอดพิรุณ พร้อมของกลางยาบ้า 30 มัด จำนวน 60,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 450,000 บาท รถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ตถ7401 กทม. การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตั้งด่านตรวจตลอดเส้นทางในพื้นที่ภาคเหนือถึง กทม. จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น.ได้พบรถยนต์ต้องสงสัยจึงเข้าทำการตรวจค้น พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่จำนวน 30 มัด จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่านำยาบ้ามาจากทางจังหวัดเชียงราย และขับหลบเลี่ยงด่านมาตลอดเส้นทาง จนกระทั่งมาถูกจับกุมในที่สุด