ศาลจำคุกตลอดชีวิต 3 พ่อค้ายาบ้ากว่า 2 หมื่นเม็ด หลังตำรวจปราบปรามยาเสพติดล่อซื้อได้กลางห้างดังย่านปทุมธานี จำเลยที่ 1 รับสารภาพลดโทษเหลือ 25 ปี ปรับ 2 ล้าน ส่วนอีก 2 รายปากแข็ง คงจำคุกตลอดชีวิต ปรับคนละ 4 ล้าน
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วานนี้ (15 ก.ค.) ศาลมีคำพิพากษาคดียาเสพติดที่พนักงายอัยการฝ่ายคดียาเสพติดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวิชัย แซ่ลิ้ว อายุ 51 ปี, นายยศกร แซ่เลี้ยว อายุ 24 ปี และ นายสมาน เมืองมูล อายุ 44 ปี ทั้งหมดเป็นชาว จ.เชียงราย ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 50 ระบุพฤติการณ์จำเลยสรุปว่า
เมื่อวันที่ 8-10 ก.ค.50 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน จำเลยทั้ง 3 คนได้ร่วมกันมียาบ้าชนิดสีส้ม ห่อด้วยกระดาษจำนวน24,000 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไมได้รับอนุญาต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.รับแจ้งจากสายลับว่า จำเลยที่ 2 โทรศัพท์แจ้งมาต้องการขายยาบ้าให้ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมนำกำลังเข้าล่อซื้อจับกุม กระทั่งมีการนัดหมายส่งมอบยากันที่ห้างเทสโก้โลตัส สาขา นวนคร ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยจำเลยที่ 2 และ จำเลยที่ 1 รอสายลับอยู่ภายในร้านเคเอฟซีของห้าง จากนั้นได้โทรศัพท์ให้จำเลยที่ 3 นำกระเป๋าสะพายใส่ยาบ้าของกลางไปส่งที่รถของเจ้าหน้าที่ตำรวจในลานจอดรถ แต่ปรากฏว่าจำเลยที่ 3 ไม่ทราบว่ารถจอดอยู่ที่ไหนจึงนำยาบ้ากลับมาให้จำเลยที่ 1 นำไปส่งเอง เมื่อจำเลยที่ 1 ไปส่งยาถึงรถแล้วเจ้าหน้าที่ จึงแสดงตัวจับกุมจำเลยทั้งหมดดำเนินคดี
โดยจำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพทั้งในจับกุมและชั้นสอบสวน แต่ในชั้นพิจารณา จำเลยที่ 2 และ 3 ให้การปฏิเสธอ้างว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาบ้าดังกล่าวที่ยอมรับเพราะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกายบังคับให้ยอมรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานที่ทั้งสองฝ่ายนำสืบแล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์นำสืบให้เห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์ปราศจากข้อสงสัย ส่วนฝ่ายจำเลยเบิกความขัดแย้งกันเองและเชื่อว่าเป็นคำกล่าวอ้างลอยๆ ไม่มีพยานหลักฐานมาหักล้างนำหนักของพยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ เชื่อว่าจำเลยกระทำผิดตานฟ้องจริง
พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยทั้ง 3 คนไว้ตลอดชีวิต ปรับ 4 ล้านบาท จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 25 ปี ปรับ 2 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 คงจำคุกตลอดชีวิต ปรับคนละ 4 ล้านบาท ริบของกลาง
