ตำรวจชี้พันธมิตรฯ เข้าใจคำสั่งศาลผิด ต้องเปิดถนนตลอดเวลา พร้อมขอเวลารอคำสั่งตั้งพนักงานบังคับคดีชี้ขาดจันทร์นี้
วันนี้ (3 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก.ในฐานะรองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีที่ศาลแพ่งมีคำสั่งให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเส้นทางจราจรถนนพระราม 5 และถนนพิษณุโลกว่า ตามที่ศาลได้มีคำสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดเส้นทางการจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกให้โจทก์นั้นมีความชัดเจนอยู่แล้ว การที่แกนนำออกมากล่าวว่าให้ปิดถนนในช่วงเวลา 16.30-07.30 น.ของอีกวันนั้น เป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน เนื่องจากคำสั่งศาลแพ่งได้พิจารณาให้อำนวยความสะดวการจราจรซึ่งหมายถึงการเปิดถนนตลอดเวลา
“อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการไต่สวนโจทก์และพยานเพื่อแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี กรณีที่กลุ่มพันธมิตรไม่ทำตามคำสั่งศาลและทำผิดซ้ำโดยการปิดถนน ในวันจันทร์ที่ 7 ก.ค.นี้ เวลา 13.00 น.อีกครั้ง เพื่อดูรายละเอียดว่าศาลจะมีคำสั่งบังคับคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ อย่างไร” รอง โฆษก ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ จะนำกลุ่มผู้ชุมนุมมาที่ ตร.เพื่อทวงถามความคืบหน้าในการดำเนินคดีต่อกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ(นปก.) รองโฆษก ตร.กล่าวว่า หากกลุ่มพันธมิตรฯ จะเดินทางมา ตร.ด้วยความสงบก็สามารถทำได้ตามสิทธิ ตำรวจก็พร้อมจะอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัยและการจราจร ส่วนคดีนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดยพนักงานสอบสวนได้มีความเห็นสั่งฟ้อง และได้ส่งเรื่องให้กับสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อมีความเห็นในคดี ตนก็เพิ่งได้ไปที่สำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อติดตามคดีก็พบว่าคณะทำงานได้พิจารณาคืบหน้าไปมากใกล้ที่จะเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าจะสามารถสั่งคดีได้ในไม่ช้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตำรวจจะมีการรื้อถอนเวทีพันธมิตรฯ หรือไม่ รองโฆษก ตร.กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กับแกนนำแล้วแต่ไม่ได้รับความร่วมมือ รวมทั้งการเปิดเส้นทางการจราจรโดนแกนนำชี้แจงกับตำรวจว่าตีความคำสั่งศาลผิด
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าจะมีการออกหมายจับแกนนำพันธมิตรฯหรือไม่ พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของโจทก์กับจำเลย ศาลได้มีการนัดไต่สวนแล้วต้องรอคำสั่งบังคับคดีในวันจันทร์นี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล แต่หากศาลขออำนาจตำรวจในการบังคับคดีตำรวจก็ต้องปฏิบัติตาม
ส่วนการที่กลุ่มพันธมิตรฯ ใช้ยุทธวิธีในการเคลื่อนไหวแบบดาวกระจายไปตามจังหวัดต่างๆ นั้น พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า ตำรวจก็ต้องศึกษาในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมเพราะหากมีการกระจายขยายตัวไปตามที่ต่างๆจำนวนมากก็อาจมีการปะทะจนเกิดความรุนแรง
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมโน ผบก.น.1 กล่าวถึงกรณีที่ คณะครูและนักเรียนโรงเรียนราชวินิตมัธยม โจทก์ของ 6 แกนนำพันธมิตรฯ ได้ยื่นเรื่องต่อศาลระบุว่า 6 แกนนำพันธมิตรฯ ยังฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล หลังศาลแพ่ง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ครูโรงเรียนราชวินิตมัธยม โดยขอให้พันธมิตรฯ เปิดถนนพระราม 5 ถนนพิษณุโลก บริเวณแยกนางเลิ้ง แยกพาณิชยการ เพื่อให้รถโดยสารประจำทาง ทั้งให้งดใช้เครื่องขยายเสียงตั้งแต่เวลา 07.30-16.30 น.ในวันจันทร์-วันศุกร์ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและนักเรียนโรงเรียนราชวินิตให้คุ้มครองชั่วคราวมีผลทันทีจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงว่า วันจันทร์ที่ 7 ก.ค.นี้ พนักงานสอบสวนจะนำหลักฐานเทปข่าวสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ซึ่งบันทึกภาพ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ใช้เครื่องขยายเสียงปราศรัยบนเวทีสะพานชมัยมรุเชฐ ถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งศาล ส่งต่อศาลเพื่อไต่สวนอีกครั้ง
ส่วนกรณีการรื้อหรือไม่นั้น พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ตำรวจไม่ได้มีหน้าที่รื้อเวที เพราะขั้นตอนตามกฎหมายนั้น เมื่อคู่กรณีไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ศาลจะมีคำสั่งถึงกรมบังคับคดีให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามคำสั่งศาล เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานบังคับคดี แต่อาจร้องขอให้ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ส่วนจะดำเนินการรื้อเวทีหรือทำอย่างไร ต้องแล้วแต่เจ้าพนักงานบังคับคดี
ด้าน พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ โฆษก ตร.แถลงถึงสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ว่า เหตุการณ์ทางภาคใต้ขณะนี้ไม่รุนแรงเท่ากับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยจากสถิติพบว่า ต.ค.49 - มิ.ย.50 เทียบกับ ต.ค.50-มิ.ย.51 พบว่าเหตุการรุนแรงลดลงเกือบร้อยละ 50 นอกจากนี้ยังพบว่าศูนย์ปฏิบัติงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) สามารถออกหมายจับตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเรื่องนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.จะออกมาให้รายละเอียดต้วยตนเองภายในสัปดาห์นี้
