“สมพงษ์” ยันไม่มีการข่าวสั่งเก็บ “แม้ว”

“สมพงษ์” พร้อมยุติประเด็นปราสาทพระวิหาร ชี้ รัฐบาลไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิบัติสวนทางกับคำสั่งศาลปกครอง วอนพันธมิตรฯ ไม่ควรโยงเรื่องเป็นประเด็นกระเทือนสัมพันธ์เขมร ส่วนข่าวการปองร้าย “ทักษิณ” เจ้าตัวบอกไม่มีหน่วยงานใดในสังกัดยุติธรรมรายงานข่าวว่ามีเรื่องแบบนี้

วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่อาคารชวนชมอาเขต เรือนจำกลางคลองเปรม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรีว่า การปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ตนคงไปกดดันไม่ได้ นายกรัฐมนตรีคงมีอยู่ในใจ แต่เท่าที่ฟังคิดว่านายกรัฐมนตรีจะยังไม่ปรับ ครม.ในช่วงนี้ อาจจะรอจังหวะที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากถึงฝ่ายค้านและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อย่าพูดจายั่วยุ ก้าวก่าย หรือกระทบกระเทือนความสัมพันธ์ของประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะการยกข้อมูลว่าไทยเคยครอบครองดินแดนบางส่วนในประเทศกัมพูชาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 3 เพราะถ้ายิ่งพูดเช่นนี้จะทำให้ขมวดเป็นปมทางความรู้สึก

ทั้งนี้ ในการพูดจาหรืออธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ควรพูดด้วยความนิ่มนวล มีปัญหาอะไรก็มาพูดคุยกัน ซึ่งต้องขอบคุณศาลปกครองกลางที่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวกรณีปราสาทพระวิหารออกมา โดยคำสั่งของศาลช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่เป็นประเด็นร้อนลงได้

นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า กรณีที่พันธมิตรฯ เรียกร้องให้ปรับเปลี่ยนนายนพดล ปัทมะ ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนั้น เป็นเรื่องภายในเราสามารถพูดจากันได้ เพราะเป็นเรื่องภายในประเทศของเรา ขนาดด่าพ่อล่อแม่เราก็ยังไม่ว่าอะไรเลย แต่ไม่อยากให้พูดอะไรที่ไปกระทบกระเทือนประเทศเพื่อนบ้าน ยอมรับว่าจะให้ทุกคนเห็นด้วยในแนวทางเดียวกันไม่ได้ แต่อยากให้มาพูดคุยวางกรอบการทำงานร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรหลังศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้นำแถลงการณ์ร่วมไปใช้สนับสนุนประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว นายสมพงษ์ กล่าวว่า เมื่อศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว คงจะปฏิบัติอะไรลำบาก ต้องรอก่อนไม่มีเหตุผลที่ต้องไปสวนทาง เพราะศาลปกครองสั่งให้หยุดกระบวนการไว้ชั่วคราว ไม่ได้สั่งให้ถอนแถลงการณ์ร่วม ส่วนรายละเอียดที่ว่า ครม.จะต้องถอนแถลงการณ์ร่วมเพื่อไม่ให้กัมพูชานำไปใช้หรือไม่นั้น ครม.คงต้องหารือกับกระทรวงการต่างประเทศก่อน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าถูกปองร้าย นายสมพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รายงานการข่าวเรื่องดังกล่าวจากหน่วยข่าวใดมาก่อน รวมทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หรือหน่วยงานข่าวใดที่สังกัดอยู่กับกระทรวงยุติธรรม

นอกจากนี้ นายสมพงษ์ยังเป็นประธานเปิดนิทรรศการภาพวาดฝีมือผู้ต้องขัง (Art Gallery) ซึ่งเป็นการรวบรวมผลงานภาพวาดและผลงานศิลปะของผู้ต้องขังจากเรือนจำทั่วประเทศ มาจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไป

นายสมพงษ์ กล่าวว่า ผู้ต้องขังในเรือนจำได้พยายามผลิตผลงานศิลปะและภาพวาดออกมาจัดจำหน่ายแก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งตนพร้อมให้การสนับสนุนการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษ เพื่อให้มีกำลังใจกลับตัวเป็นคนดีในสังคม นอกจากนี้จะเร่งรัดไปยังกระทรวงการคลัง เรื่องการจัดเงินค้ำประกันการทำงานให้กับผู้พ้นโทษ ทั้งนี้เพื่อสร้างความยอมรับผู้พ้นโทษกลับคืนสังคมและไม่กลับไปกระทำความผิดซ้ำอีก

สำหรับอาคารชวนชมอาเขตปัจจุบันใช้เป็นสถานที่แสดงและจำหน่ายสินค้าฝีมือผู้ต้องขังจากเรือนจำต่างๆ และยังมีบริการร้านอาหาร ร้านเสริมสวย นวดฝ่าเท้า ร้านตัดเสื้อ และร้านซักอบรีด ที่เปิดให้บริการแก่บุคคลภายนอก โดยกรมราชทัณฑ์จะนำผู้ต้องขังใกล้พ้นโทษออกมาฝึกทักษะอาชีพด้านต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัว