ตร.รู้ตัว 2 คนร้ายขี่ จยย.กราดยิงอริหน้าร้านบาหลี 2 แล้ว หลังทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีกหลายราย ตร.เตรียมนำภาพคนร้ายเข้าร่วมสอบปากคำพยานที่ได้รับบาดเจ็บเพื่อหาสาเหตุการก่อเหตุ ก่อนขออนุมัติหมายจับ
จากกรณีที่ 2 คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์กราดยิงคู่อริบริเวณหน้าร้านบาหลี 2 ถ.เจริญราษฎร์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายธนพงษ์ ทองอร่าม อายุ 21 ปี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายราย โดยเหตุเกิดในท้องที่ สน.วัดพระยาไกร เมื่อคืนวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (23 มิ.ย.) พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาคย์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร ได้เรียก พ.ต.ท.ปราชญาณ จิเนราวัต รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ฉัฐภูมิ วิทยาเกษมพงศ์ สว.สส. และ พ.ต.ต.นรินทร์ อารีย์วงศ์ สว.สป. เข้าร่วมประชุมเพื่อวางแผนแบ่งงานกันทำในการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี
พ.ต.อ.พจน์ กล่าวภายหลังประชุมว่า วันนี้ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวนมาร่วมประชุมเพื่อแบ่งงานให้แต่ละฝ่ายไปทำเนื่องจากข้อมูลที่ได้ในเบื้องต้นยังสับสนอยู่ ประกอบกับมีผู้บาดเจ็บหลายราย จึงต้องนำข้อมูลที่ได้จากการสอบปากคำพยานแวดล้อม และหลักฐานที่พบมาประมวลดูว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายใด ซึ่งขณะนี้ทราบแล้วว่า มือปืนที่ก่อเหตุยิงเข้าใส่แล้วหลบหนีไป คือ นายปิยะ หรือชง แจ้งดอนไทย อายุประมาณ 18 ปี ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปกบดานกับญาติในต่างจังหวัด
สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นยังไม่ทราบว่าเป็นขนาดใด แต่ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งประสานไปยังแผนกนิติเวชของโรงพยาบาลจุฬาฯ เพื่อขอหัวกระสุนมาเปรียบเทียบ พร้อมทั้งทำหนังสือไปยังพนักงานสอบสวน สน.บางรัก เพื่อให้ส่งอาวุธปืนประจำตัวของ ด.ต.บุญนำ ทองอร่าม บิดานายธนพงษ์มาตรวจสอบเปรียบเทียบอีกทางหนึ่งด้วย
พ.ต.อ.พจน์ กล่าวต่อว่า สำหรับมือปืนคู่อริที่ตามมายิงนายธนพงษ์จนเสียชีวิต ขณะนี้ทราบเพียงชื่อเล่น คือ “นายต๊ะ” ไม่ทราบนามสกุลและอายุ ซึ่งอยู่ในกลุ่มของนายวงศ์พิษณุ ราชการดี, นายชัยฤกษ์ ทองปิ่นไพร และนายสาโจน์ พวงชมพู ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ แต่นายต๊ะนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บด้วย จึงวิ่งตามมายิงใส่ผู้ตายจนเสียชีวิตดังกล่าว โดยจะตรวจสอบหารายละเอียดเกี่ยวกับชื่อนามสกุลจริง และภูมิลำเนาอีกครั้ง
พ.ต.อ.พจน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับอาวุธปืนที่นายต๊ะใช้ยิงใส่นายธนพงษ์นั้น จากคำให้การของพยานทราบว่าเป็นอาวุธปืนปากกา ซึ่งหลังเกิดเหตุได้นำติดตัวไปด้วย ส่วนหัวกระสุนนั้นน่าจะเป็นขนาด .22 ซึ่งอยู่ระหว่างให้ทางพนักงานสอบสวนประสานขอผลการตรวจสอบเช่นกัน ส่วนการขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะเดินทางไปสอบปากคำพยานที่ยังพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาลอีก 2 ราย คือ นายสาโรจน์ พวงชมพู ที่ย้ายจากโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลจุฬาฯ และนายวัชระพงศ์ นิทัศน์ ที่ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตากสินในประเด็นเกี่ยวกับตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองฝ่าย โดยอาจจะนำภาพของผู้ต้องหาทั้งสองคนไปให้พยานชี้ระบุตัวเพื่อประกอบไว้ในสำนวน ก่อนจะยื่นคำร้องขออนุมัติออกหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ต่อไป
ตร.ขอหมายจับเร่งตามโจ๋มือยิงอริหน้าร้านบาหลี 2 หลังได้เค้าหลบไปอยู่บ้านย่า
2 โจ๋!ควบ จยย.กราดยิงคู่อริหน้าผับบาหลี 2 ดับ 1 ราย
จากกรณีที่ 2 คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์กราดยิงคู่อริบริเวณหน้าร้านบาหลี 2 ถ.เจริญราษฎร์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายธนพงษ์ ทองอร่าม อายุ 21 ปี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายราย โดยเหตุเกิดในท้องที่ สน.วัดพระยาไกร เมื่อคืนวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (23 มิ.ย.) พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาคย์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร ได้เรียก พ.ต.ท.ปราชญาณ จิเนราวัต รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ฉัฐภูมิ วิทยาเกษมพงศ์ สว.สส. และ พ.ต.ต.นรินทร์ อารีย์วงศ์ สว.สป. เข้าร่วมประชุมเพื่อวางแผนแบ่งงานกันทำในการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี
พ.ต.อ.พจน์ กล่าวภายหลังประชุมว่า วันนี้ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวนมาร่วมประชุมเพื่อแบ่งงานให้แต่ละฝ่ายไปทำเนื่องจากข้อมูลที่ได้ในเบื้องต้นยังสับสนอยู่ ประกอบกับมีผู้บาดเจ็บหลายราย จึงต้องนำข้อมูลที่ได้จากการสอบปากคำพยานแวดล้อม และหลักฐานที่พบมาประมวลดูว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายใด ซึ่งขณะนี้ทราบแล้วว่า มือปืนที่ก่อเหตุยิงเข้าใส่แล้วหลบหนีไป คือ นายปิยะ หรือชง แจ้งดอนไทย อายุประมาณ 18 ปี ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปกบดานกับญาติในต่างจังหวัด
สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นยังไม่ทราบว่าเป็นขนาดใด แต่ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งประสานไปยังแผนกนิติเวชของโรงพยาบาลจุฬาฯ เพื่อขอหัวกระสุนมาเปรียบเทียบ พร้อมทั้งทำหนังสือไปยังพนักงานสอบสวน สน.บางรัก เพื่อให้ส่งอาวุธปืนประจำตัวของ ด.ต.บุญนำ ทองอร่าม บิดานายธนพงษ์มาตรวจสอบเปรียบเทียบอีกทางหนึ่งด้วย
พ.ต.อ.พจน์ กล่าวต่อว่า สำหรับมือปืนคู่อริที่ตามมายิงนายธนพงษ์จนเสียชีวิต ขณะนี้ทราบเพียงชื่อเล่น คือ “นายต๊ะ” ไม่ทราบนามสกุลและอายุ ซึ่งอยู่ในกลุ่มของนายวงศ์พิษณุ ราชการดี, นายชัยฤกษ์ ทองปิ่นไพร และนายสาโจน์ พวงชมพู ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ แต่นายต๊ะนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บด้วย จึงวิ่งตามมายิงใส่ผู้ตายจนเสียชีวิตดังกล่าว โดยจะตรวจสอบหารายละเอียดเกี่ยวกับชื่อนามสกุลจริง และภูมิลำเนาอีกครั้ง
พ.ต.อ.พจน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับอาวุธปืนที่นายต๊ะใช้ยิงใส่นายธนพงษ์นั้น จากคำให้การของพยานทราบว่าเป็นอาวุธปืนปากกา ซึ่งหลังเกิดเหตุได้นำติดตัวไปด้วย ส่วนหัวกระสุนนั้นน่าจะเป็นขนาด .22 ซึ่งอยู่ระหว่างให้ทางพนักงานสอบสวนประสานขอผลการตรวจสอบเช่นกัน ส่วนการขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะเดินทางไปสอบปากคำพยานที่ยังพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาลอีก 2 ราย คือ นายสาโรจน์ พวงชมพู ที่ย้ายจากโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลจุฬาฯ และนายวัชระพงศ์ นิทัศน์ ที่ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตากสินในประเด็นเกี่ยวกับตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองฝ่าย โดยอาจจะนำภาพของผู้ต้องหาทั้งสองคนไปให้พยานชี้ระบุตัวเพื่อประกอบไว้ในสำนวน ก่อนจะยื่นคำร้องขออนุมัติออกหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ต่อไป
ตร.ขอหมายจับเร่งตามโจ๋มือยิงอริหน้าร้านบาหลี 2 หลังได้เค้าหลบไปอยู่บ้านย่า
2 โจ๋!ควบ จยย.กราดยิงคู่อริหน้าผับบาหลี 2 ดับ 1 ราย
