xs
xsm
sm
md
lg

อุทธรณ์ยืนคุกลืมกะเทยโหดฆ่าปาดคอเด็ก 12 ชิงมือถือ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายณัฐสิทธิ์ หรือโหน่ง กลมสะอาด จำเลย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุกตลอดชีวิตกะเทยใจโหดฆ่าปาดคอเด็กสาว 12 ขวบ ชิงมือถือ ศาลชี้พฤติการณ์โหดเหี้ยมไม่ควรลงโทษสถานเบา

วันนี้ (13 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 802 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการกองคดีอาญา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายณัฐสิทธิ์ หรือโหน่ง กลมสะอาด อายุ 21 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยการกระทำทารุณ และชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

คดีนี้โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 19 ก.พ.50 ระบุความผิดสรุปว่า ระหว่างวันที่ 7-8 พ.ย.49 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้บังอาจเข้าไปในบ้านพักอาศัย อันเป็นเคหสถานของ น.ส.นาฎตยา หรือหน่อง เล็กใบ มารดาของ ด.ญ.นฤนาท หรือฟลุ๊ค โพธิ์ประเสริฐ อายุ 12 ปี เมื่อจำเลยได้บังอาจเอาโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย จำนวน 1 เครื่องราคา 7,500 บาท กระเป๋าแบบสตรี 1 ใบ ภายในมีลูกแก้วเหลี่ยมทองของหลวงพ่อสูงวัดหนองผักชี หนัก 1 สลึง ราคา 2,850 บาท เงินสดจำนวน 100 บาท และมีดทำครัว 1 เล่ม รวม 5 รายการ ราคา 10,590 บาทไป โดยใช้มีดทำครัวเป็นอาวุธ เชือด ฟันและแทง ด.ญ.นฤนาท ที่บริเวณลำคอ ท้ายทอย ศีรษะ หลัง แขน มือ และเส้นเลือดแดงใหญ่ ลำคอขาด 2 ข้างเป็นบาดแผลฉกรรจ์ อันเป็นการกระทำโดยทารุณโหดร้าย และโดยเจตนาฆ่าเพื่อความสะดวกแก่การลักทรัพย์ และเพื่อปกปิดการกระทำความผิด เหตุเกิดที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.

ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 15 ส.ค.50 ให้ลงโทษประหารชีวิต แต่จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกตลอดชีวิต คืนของกลางแก่เจ้าของ และให้จำเลยคืนทรัพย์หรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนเป็นเงิน 3,090 บาท แก่เจ้าของ กับให้จำเลยชำระเงินจำนวน 720,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป จำเลยอุทธรณ์ขอให้ศาลลงโทษสถานเบา

ศาลอุทธรณ์ประชุมหารือแล้วเห็นว่า ตามคำเบิกความของ น.ส.นาฎตยา มารดา เป็นเพื่อนกับจำเลยที่มีลักษณะเป็นกะเทย ก่อนเกิดเหตุได้ชักชวนจำเลยไปรับประทานอาหารกับเพื่อนที่ร้านดาวแดงสาดแสงเดือน ระหว่างนั้นตนได้โทรศัพท์ไปหา ด.ญ.นฤนาท บอกให้เข้านอนและไม่ต้องรอ เพราะจะกลับดึก ปรากฏว่าจำเลยได้ขอตัวกลับบ้านก่อน อ้างว่ามารดาตามให้กลับบ้าน จนกระทั่งร้านปิดได้ตระเวนขับรถส่งเพื่อนกลับบ้าน จากนั้นได้เดินทางกลับบ้านพัก พบว่าประตูบ้านถูกเปิดอ้าไว้ มีเพียงแสงไฟจากห้องน้ำที่เปิดทิ้งอยู่ เมื่อเข้าไปดูพบศพลูกสาวนอนเปลือยกายเสียชีวิตอยู่ภายใน มีเลือดไหลเต็มห้องน้ำ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าโทรศัพท์มือถือของลูกสาวหายไปพร้อมทรัพย์สินต่างๆ จากการสืบสวนทราบว่าจำเลยเป็นผู้นำโทรศัพท์มือถือไปขายที่ห้างสรรพสินค้าเซียร์ รังสิต นอกจากนี้โจทก์ยังมีพนักงานขายโทรศัพท์มือถือที่ระบุว่า จำเลยเป็นผู้นำโทรศัพท์มือถือมา และได้ทำบันทึกรายละเอียดในการซื้อขายไว้เป็นหลักฐานด้วย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมจำเลยได้ พร้อมให้การรับสารภาพว่า กลัวว่า ด.ญ.นฤนาท ที่เห็นตนกำลังรื้อค้นทรัพย์สินอยู่จะนำเรื่องไปบอก น.ส.นาฎตยา จึงต้องฆ่าปิดปาก

เห็นว่าพยานทั้งสองปากเบิกความเชื่อมโยงกันปราศจากข้อพิรุธสงสัย แม้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์ แต่การที่จำเลยมีโทรศัพท์ของผู้ตายอยู่ในครอบครองย่อมเป็นเครื่องบ่งชี้ที่แน่ชัดอย่างแน่นหนักว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของผู้ตาย สอดคล้องกับการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุที่ไม่พบร่องรอยการงัดแงะ เชื่อว่าผู้ตาย เปิดประตูให้จำเลยเข้าไปในบ้านด้วยความไว้วางใจ เชื่อว่าจำเลยให้ข้อเท็จจริงด้วยความสมัครใจ ที่จำเลยอุทธรณ์ของให้ศาลลงโทษสถานเบานั้น เห็นว่าจำเลยมุ่งหวังเอาทรัพย์สิน แต่เมื่อผู้ตายมาเห็นกลับไม่สำนึกในการกระทำความผิด กลับก่อเหตุฆ่าผู้ตายด้วยความโหดเหี้ยม ทารุณ ทั้งที่ผู้ตายไม่มีทางต่อสู้ได้ แม้ขณะก่อเหตุจำเลยจะมีอายุเพียง 19 ปี แต่จำเลยควรจะทราบดีว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมาย ที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษานั้นเหมาะสมต่อรูปคดีแล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
กำลังโหลดความคิดเห็น