“สมพงษ์” ติง ตร.ออกหมายจับ นายสุนัย น่าจะประสานทางต้นสังกัดเสียก่อน ชี้ เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่มีผลต้องให้ออกจากราชการ ย้ำ ไม่ได้กลั่นแกล้งหลังสอบสวนคดีซุกหุ้นเอสซีฯ ด้าน ปลัด ยธ.เต้นตำรวจออกหมายจับ “สุนัย” คดีหมิ่นทักษิณ ไม่น่าเกิดขึ้นกับ ขรก.ชั้นผู้ใหญ่ ระบุ เจ้าตัวออกนอกประเทศบ่อย จึงทำไม่ให้ได้พบพนักงานสอบสวน
วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่สถานีตำรวจภูธรวังน้อย ขออนุมัติออกหมายจับ นายสุนัย มโนมัยอุดม เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ท.) อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เนื่องจากขัดหมายเรียก ไม่มารายงานตัวกับพนักงานสอบสวน กรณีถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากการสอบสวนคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ว่า ก่อนหน้านี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่เคยประสาน หรือแจ้งมายังกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดของนายสุนัยว่าจะมีการออกหมายจับ ในเบื้องต้นทราบว่านายสุนัยถูก พ.ต.ท.ทักษิณ แจ้งความคดีหมิ่นประมาท และมีการขออนุมัติหมายจับจากศาล อย่างไรก็ตาม คดีหมิ่นประมาทเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่หากตรวจสอบ พบว่า นายสุนัยถูกฟ้องจากการปฏิบัติหน้าที่ ก็จะมอบหมายให้ นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ รักษาการปลัดกระทรวงยุติธรรม เข้าไปดูแลว่าจะสามารถให้ความช่วยเหลือนายสุนัยได้อย่างไรบ้าง
ส่วนกรณีการร้องเรียนให้ตรวจสอบเรื่องการใช้รถยนต์ของนายสุนัย ทั้งที่รับเงินค่ารถประจำตำแหน่งจากทางราชการ นายสมพงษ์ กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้นายสุนัยชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนความผิดใดๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกหมายจับและการสอบสวนนายสุนัยในช่วงนี้ อาจถูกมองเป็นการกลั่นแกล้งเพราะเคยสอบสวนคดีปกปิดหุ้นเอสซี แอสเสท นายสมพงษ์ กล่าวว่า เรื่องการกลั่นแกล้งหรือไม่ ตนคงแสดงความเห็นไม่ได้ เพราะเพิ่งรู้เรื่องจากสื่อ เป็นเรื่องของศาลและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งคงต้องเป็นไปตามกลไกของศาลยุติธรรม อย่างไรก็ตาม การออกหมายจับ นายสุนัย ไม่มีผลให้ต้องสั่งพักราชการ หรือออกจากราชการ เพราะไม่เกี่ยวกับการทำงาน การฟ้องร้องลักษณะนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนกรณีที่มีการออกหมายจับในวันเดียวกับที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปตรวจราชการที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นั้น ตนมองว่าน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า
นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ รักษาการปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกระแสข่าวว่า ตำรวจจะนำหมายจับเข้าจับกุมตัว นายสุนัย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทันทีที่กลับจากการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ และจะกลับถึงประเทศไทยในวันนี้ ว่า ตนได้สั่งการให้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ รองอธิบดีดีเอสไอ ช่วยราชการรองเลขาธิการ ป.ป.ท.เดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่นายสุนัย ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ นายสุนัย รู้สึกโดดเดี่ยว และได้มอบหมายให้นายธาริต ประสานไปยังตำรวจในท้องที่ ว่า จะเข้าดำเนินการจับกุมตามหมายจับทันทีหรือไม่ หากยืนยันจะจับกุม นายสุนัย สามารถใช้ตำแหน่งหน้าที่ประกันตัวได้ทันทีเช่นกัน จากนั้นพนักงานอัยการจะเป็นทนายความแก้ต่างคดีให้กับ นายสุนัย อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า เรื่องในลักษณะนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะ นายสุนัย เองก็เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ผ่านมา นายสุนัย ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง จึงอาจทำให้ไม่ได้ไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกจนมีการขออนุมัติหมายจับตามมา โดยทั่วไปถ้าเชิญตัวข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ไปดำเนินคดี ก็ควรมีการประสานหน่วยงานต้นสังกัดก่อน
สำหรับคดีนี้ ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้อนุมัติหมายจับ ที่ จ.374/2551 ลงวันที่ 3 มิถุนายน 2551 โดยให้เจ้าพนักงานตำรวจจับตัวนายสุนัย ไปส่งที่ สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ภายในอายุความ 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2550 เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยก่อนหน้านี้ ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายสุนัย ฐานหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท ฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ห้ามไม่ให้พนักงานสอบสวนให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่อ้าง หรือยืนยันว่าผู้ต้องหากระทำความผิด
วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่สถานีตำรวจภูธรวังน้อย ขออนุมัติออกหมายจับ นายสุนัย มโนมัยอุดม เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ท.) อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เนื่องจากขัดหมายเรียก ไม่มารายงานตัวกับพนักงานสอบสวน กรณีถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากการสอบสวนคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ว่า ก่อนหน้านี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่เคยประสาน หรือแจ้งมายังกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดของนายสุนัยว่าจะมีการออกหมายจับ ในเบื้องต้นทราบว่านายสุนัยถูก พ.ต.ท.ทักษิณ แจ้งความคดีหมิ่นประมาท และมีการขออนุมัติหมายจับจากศาล อย่างไรก็ตาม คดีหมิ่นประมาทเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่หากตรวจสอบ พบว่า นายสุนัยถูกฟ้องจากการปฏิบัติหน้าที่ ก็จะมอบหมายให้ นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ รักษาการปลัดกระทรวงยุติธรรม เข้าไปดูแลว่าจะสามารถให้ความช่วยเหลือนายสุนัยได้อย่างไรบ้าง
ส่วนกรณีการร้องเรียนให้ตรวจสอบเรื่องการใช้รถยนต์ของนายสุนัย ทั้งที่รับเงินค่ารถประจำตำแหน่งจากทางราชการ นายสมพงษ์ กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้นายสุนัยชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนความผิดใดๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกหมายจับและการสอบสวนนายสุนัยในช่วงนี้ อาจถูกมองเป็นการกลั่นแกล้งเพราะเคยสอบสวนคดีปกปิดหุ้นเอสซี แอสเสท นายสมพงษ์ กล่าวว่า เรื่องการกลั่นแกล้งหรือไม่ ตนคงแสดงความเห็นไม่ได้ เพราะเพิ่งรู้เรื่องจากสื่อ เป็นเรื่องของศาลและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งคงต้องเป็นไปตามกลไกของศาลยุติธรรม อย่างไรก็ตาม การออกหมายจับ นายสุนัย ไม่มีผลให้ต้องสั่งพักราชการ หรือออกจากราชการ เพราะไม่เกี่ยวกับการทำงาน การฟ้องร้องลักษณะนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนกรณีที่มีการออกหมายจับในวันเดียวกับที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปตรวจราชการที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นั้น ตนมองว่าน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า
นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ รักษาการปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกระแสข่าวว่า ตำรวจจะนำหมายจับเข้าจับกุมตัว นายสุนัย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทันทีที่กลับจากการเดินทางไปดูงานต่างประเทศ และจะกลับถึงประเทศไทยในวันนี้ ว่า ตนได้สั่งการให้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ รองอธิบดีดีเอสไอ ช่วยราชการรองเลขาธิการ ป.ป.ท.เดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่นายสุนัย ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ นายสุนัย รู้สึกโดดเดี่ยว และได้มอบหมายให้นายธาริต ประสานไปยังตำรวจในท้องที่ ว่า จะเข้าดำเนินการจับกุมตามหมายจับทันทีหรือไม่ หากยืนยันจะจับกุม นายสุนัย สามารถใช้ตำแหน่งหน้าที่ประกันตัวได้ทันทีเช่นกัน จากนั้นพนักงานอัยการจะเป็นทนายความแก้ต่างคดีให้กับ นายสุนัย อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า เรื่องในลักษณะนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะ นายสุนัย เองก็เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ผ่านมา นายสุนัย ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง จึงอาจทำให้ไม่ได้ไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกจนมีการขออนุมัติหมายจับตามมา โดยทั่วไปถ้าเชิญตัวข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ไปดำเนินคดี ก็ควรมีการประสานหน่วยงานต้นสังกัดก่อน
สำหรับคดีนี้ ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้อนุมัติหมายจับ ที่ จ.374/2551 ลงวันที่ 3 มิถุนายน 2551 โดยให้เจ้าพนักงานตำรวจจับตัวนายสุนัย ไปส่งที่ สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ภายในอายุความ 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2550 เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยก่อนหน้านี้ ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายสุนัย ฐานหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท ฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ห้ามไม่ให้พนักงานสอบสวนให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่อ้าง หรือยืนยันว่าผู้ต้องหากระทำความผิด
