xs
xsm
sm
md
lg

หมายจับ"สุนัย" สะท้อนบันได(ผุ)ขั้นแรกของกระบวนการยุติธรรม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

จารบุรุษ

ด้อ่านข่าว ตำรวจสภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับ นายสุนัย มโนมัยอุดม เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ( ป.ป.ท.) อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ฐานขัดหมายเรียกไม่มารายงานตัวกับพนักงานสอบสวน กรณีถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งมทนายความเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสภ.วังน้อย ภายหลังนายสุนัยได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อโทรทัศน์หนังสือพิมพ์เมื่อประมาณเดือน ก.ค.2550 เกี่ยวกับคดีต่างๆของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าดีเอสไอมีพยานหลักฐานสามารถเอาผิดได้ ซึ่งถือเป็นการชี้นำนั้น

มองดูเหมือนว่า คดีขัดหมายเรียกของพนักงานสอบสวนในคดีนี้ คล้ายจะมีใบสั่งออกมาให้เช็กบิลนายสุนัยหรือไม่ ไม่อาจทราบได้ แต่เมื่อพิจารณาถึงการไปขออนุมัติออกหมายจับในครั้งนี้ เป็นเวลาที่นายสุนัยเดินทางไปยังต่างประเทศ ซึ่งเมื่อกลับเข้ามาสู่ราชอาณาจักรปุ๊ป ก็จะต้องถูกควบคุมตัวปั๊ป เรียกง่ายๆว่า "ถูกจับคาสนามบิน"ว่างั้นเถอะ เจตนาในข้อนี้ น่าเชื่อว่า ต้องการที่จะล้างแค้น ด้วยการทำลายเกียรติยศ ชื่อเสียงของนายสุนัยอย่างไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงได้

นัยยะข้อนี้ พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ วาพันสุ รองผกก.สส.สภ.วังน้อย ผู้ไปยื่นขออนุมัติออกหมายจับ และผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปของพ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ คงจะรู้อยู่แก่ใจดี เราไม่ได้ดูถูก แต่ลำพังพ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ คงไม่กล้าที่จะทำลายเกียรติภูมิของอดีตอธิบดีดีเอสไอคนนี้แน่ หากไม่มีใครชักใยอยู่เบื้องหลัง แต่หากจะอ้างว่า ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่แล้วละก็ ทำไม...ไม่นำกำลังไปรอจับกุม หรือประสานตำรวจตม.ให้จับกุมนายสุนัยที่สนามบินสุวรรณภูมิเสียเลยล่ะ เจตนาข้อนี้ มองกันง่ายๆ เพื่อต้องการให้หน้า 1 หนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวเพียงว่า "จับสุนัยคาสนามบิน"เท่านั้น!

ย้อนกลับไป เมื่อครั้งที่นายสุนัย ดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ บรรดาข้าราชการในสังกัด ที่โอนย้ายมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูจะไม่"แฮปปี้"กับการทำงานของนายสุนัย เพราะต่างก็ถูก"ความดีงาม" กดดัน ทำให้ไม่สามารถที่จะอยู่ทำงานได้ ต้องระหกระเหิร เร่ร่อน โยกย้ายไปซุกตามที่ต่างๆ ครั้นเมื่อระบอบทักษิณ กลับมาอีก จึงพากันผงกหัวโผล่กลับมากุมอำนาจในดีเอสไออีกครั้ง ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีว่า ระบบตำรวจนั้นมีรุ่นพี่รุ่นน้องกันมาอย่างไร ยุทธการ เช็กบิลย้อนหลังเพื่อนายใหญ่ จึงถูกงัดออกมาใช้ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม และก็ยังเชื่อมั่นว่า จะต้องมีวิชามารคอยตามล้างตามเช็ดนายสุนัยไม่ให้ได้อยู่อย่างเป็นสุขอีกแน่นอน

คดีของนายสุนัยขอยกไว้แค่นี้ก่อน มาดูคดี ส.ต.อ.ประสาท จันทิมา ผบ.หมู่ ป.ช่วยงานสอบสวน กับ จ.ส.ต.ปรวิศร์ จองพิทักษ์พงษ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ประชาชื่น ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง ส.ต.ชัยวุฒิ ประสมศรี ทหารสังกัดกรมยุทธบริการ จนเสียชีวิตกลางตลาดนัดอย่างอุกอาจและไม่เกรงกลัวกฏหมาย

คดีนี้กำลังเป็นที่จับตามองกันว่า ส.ต.ชัยวุฒิ จะตายฟรีหรือไม่ ซึ่งสุดท้ายก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นเช่นนั้น โดยเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศาลต้องประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน เนื่องจากครบกำหนดฝากขัง 84 วัน ตามกฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 87 ไปเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว เนื่องจากคดีนี้ พนักงานสอบสวนกองปราบปรามเพิ่งส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นสั่งฟ้องสองผู้ต้องหาทั้งสองในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ ให้พนักงานอัยการเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้อัยการไม่สามารถสั่งฟ้องคดีได้ทันตามกำหนดฝากขังผู้ต้องหา และทำให้ผู้ต้องหาต้องได้รับการปล่อยตัวไป

นายสุวิทย์ ดิษฐแพ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอัยการสูงสุด ให้เหตุผลว่า เพิ่งได้รับสำนวนการสอบสวนคดีนี้เมื่อสัปดาห์ก่อน จึงยังไม่กำหนดวันนัดสั่งคดี เพราะจะต้องตรวจสอบสำนวนการสอบสวนก่อนว่ามีความบกพร่อง และต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่ อย่างไรก็ดี ขอให้ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวลเพราะแม้ผู้ต้องหาจะได้รับการปล่อยตัวเนื่องจากครบกำหนดฝากขัง แต่คดีมีอายุความถึง 20 ปี อัยการยังสามารถนำตัวผู้ต้องหามาฟ้องศาลได้

"คนทั่วไปอาจเข้าใจผิดว่า เมื่อครบกำหนดฝากขังก็จะเป็นการปล่อยคนผิด ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะยังไม่ได้มีคำสั่งคดีว่าใครผิดหรือไม่ผิด แต่เป็นขั้นตอนตามกฎหมายเท่านั้น ซึ่งในที่สุดหากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแล้วผู้ต้องหาเกิดหลบหนีก็เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะขออนุมัติหมายจับกุมมาฟ้องต่อศาลได้"นายสุวิทย์ว่าไว้อย่างนั้น

ถามกันตรงๆ แล้วใครจะไปตามจับกุมมันมาดำเนินคดีเมื่อถึงเวลานั้นล่ะ หรือว่าต้องให้รอไปจนใกล้จะครบอายุความ 20 ปี เรื่องอย่างนี้ อัยการน่าจะมีวิธีการดำเนินการที่น่าจะเป็นธรรมมากกว่านี้ ไม่ใช่อ้างแค่เพียงว่า "เพิ่งได้รับสำนวน" !!

บอกตรงๆว่า ไม่อยากจะว่ากล่าวอะไรไปมากกว่านี้ เพราะมันอัดอั้นตันใจ แม้แต่ชีวิตทหาร ยังอาจเข้าข่าย"ตายฟรี"ได้ นับประสาอะไรกับประชาชนทั่วไปเล่า ก็เมื่อปลวกและมอดมันไซบันไดขั้นแรกของของกระบวนการยุติธรรมในชั้นพนักงานสอบสวน หรือตำรวจได้ บันไดขั้นที่สองของกระบวนการยุติธรรม คืออัยการ ก็ถูกแทะโลม ผุพังไปไม่ต่างจากบันไดขั้นแรกนัก อย่างนี้ บันไดขั้นสุดท้าย แม้จะทำด้วยไม้สัก ไม้แดง ไม้เต็ง หรือไม้เนื้อแข็งอะไรก็ตาม ที่มอดปลวกยากจะเข้าไปกัดกินได้ ก็มีอันที่จะต้องมิพังทลายไปกระนั้นหรือ

เฮ้อ...เบื่อไอ้บันไดสองขั้นแรกของกระบวนการยุติรรมจริงๆ พับผ่า!!!
นายสุนัย มโนมัยอุดม
ส.ต.อ.ประสาท จันทิมา และจ.ส.ต.ปรวิศร์ จองพิทักษ์พงษ์
กำลังโหลดความคิดเห็น