อดีตภรรยาสุดเหี้ยม! สั่งอุ้มฆ่าสามีเก่าหัวหน้าคนงานบริษัท ชิโนทัย หวังเงินประกัน 2 ล้าน ที่สามีเก่าทำไว้ก่อนเลิกรา วางแผนใช้หมอนวดเป็นนกต่อลวงมาให้พรรคพวกที่จ้างมาฆ่า แกล้งทำให้เป็นอุบัติเหตุ ญาติเห็นผิดสังเกตเงินสด โทรศัพท์หาย ร้อง ตร.สืบหาเบาะแสพบปมเงินประกัน ก่อนเรียกสาวนกต่อมาเค้นสารภาพรวบทีมฆ่าได้ยกแก๊ง ตร.เตรียมออกหมายจับล่าอดีตเมียใจโหด
วันนี้(2 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.บุญเลิศ พิริยะกฤต รอง ผกก.(สส.) สน.หัวหมาก พ.ต.ท.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผกก.(ป.) สน.หัวหมาก และ พ.ต.ท.พิพัฒน์ เต็งถาวร สว.สส.สน.หัวหมาก แถลงข่าวจับกุมตัว 1.น.ส.อรนุช หรือน้อง หล้าจันทร์ อายุ 27 ปี ชาว จ.สกลนคร 2.นายมาโนช หรือขาว ภูมิถาวร อายุ 36 ปี ชาว จ.สุโขทัย 3.นายพงษ์ศักดิ์ หรือศักดิ์ หงษ์เงิน อายุ 33 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ 4.นายนายกวี หรือตี๋ วัดเฉย อายุ 34 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ และ 5.นายแสวง หรือแดง ผาคำ อายุ 40 ปี ชาว จ.สุโขทัย ทั้ง 5 ราย เป็นผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามหมายจับศาลอาญารัชดาเลขที่ 1815 -1819/2551 ลงวันที่ 31 พ.ค.51 ถูกจับได้ภายในเขตพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยของกลาง รถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีฟ้า-แดง หมายเลขทะเบียน ทน 8915 กทม. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโมบาย 1 เครื่อง เงินสดจำนวน 16,000 บาท และมีดคัตเตอร์ 1 เล่ม
พ.ต.อ.วัฒนา กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 01.25 น.วันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ได้รับแจ้งว่า พบศพนายแสวง มีบุญ อายุ 56 ปี หัวหน้าคนงานของ บริษัท ชิโนทัย จำกัด ย่านมักกะสันถูกรถชนเสียชีวิตบริเวณก่อนถึงร้านอาหารลงขัน กลางซอยรามคำแหง 32 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.จึงรีบรุดไปตรวจสอบพบว่า ผู้ตายมีร่องรอยการถูกขีดข่วนทั่วลำตัว มีบาดแผลบวมช้ำที่ใบหน้า และปาก ซึ่งผิดปกติไม่เหมือนกับผู้ที่ถูกรถชนทั่วไป ประกอบกับผลผ่าชันสูตรของแพทย์ระบุอกมาว่า เนื้อตัวผู้ตายไม่มีร่องรอยการถูกรถเฉี่ยวชน แต่มีอาการซี่โครงหัก ปอดฉีก และมีญาติยืนยันด้วยว่าเงินสด จำนวน 10,000 บาท พร้อมกับโทรศัพท์มือถือของผู้ตายได้สูญหายไป พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการประสานให้ฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก ให้ช่วยทำการลงพื้นที่หาข่าวเพื่อคลี่คลายคดีที่เกิดขึ้น จนกระทั่งได้เบาะเเสมาว่า ผู้ตายเป็นพ่อหม้ายหย่าขาดกับภรรยาเก่า ชื่อนางไข่ (นามสมมติ) อายุ 52 ปี ชาว จ.สุโขทัย มาได้ประมาณ 3 ปี แล้ว สาเหตุเพราะนางไข่ ไปมีสามีใหม่ และก่อนหน้าที่จะเเยกทางกัน มีหลักฐานยืนยันว่า ผู้ตายได้ทำประกันชีวิตไว้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ในวงเงิน 2,000,000 บาท ซึ่งเงินดังกล่าวนี้มีชื่อของนางไข่ เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์เพียงคนเดียวหากผู้ตายถึงแก่กรรม
พ.ต.อ.วัฒนา กล่าวอีกว่า ฝ่ายสืบสวนได้เดินทางไปหาข่าวเพิ่มเติมที่บริษัทของผู้ตาย ทราบอีกว่า ก่อนพบศพมีพยานเห็นผู้ตาย ออกจากบริษัทไป พร้อมกับ น.ส.อรนุช ซึ่งเป็นหมอนวดแผนโบราณ และเป็นผู้พิการที่ขาเดินผิดปกติ ทำงานอยู่ในสถานบริการย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา โดย น.ส.อรนุช เคยไปหาผู้ตายถึงที่บริษัท 2-3 ครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรีบเดินทางไปควบคุมตัว น.ส.อรนุช มาสอบสวน ได้ความว่า เมื่อช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับว่าจ้างจากนายมาโนช หรือขาว ในราคา 5,000 บาท ให้ทำตัวเป็นนกต่อโทรศัพท์เข้าไปหาผู้ตายเพื่อตีสนิท และนัดพบกันมาแล้ว 3 ครั้ง จนกระทั่งครั้งล่าสุดเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมานายมาโนช ได้วางแผนให้ตนชักชวนผู้ตายไปเที่ยวที่ร้านตะวันแดง ย่านถนนพัฒนาการ โดยนัดเจอกันกับผู้ตายที่ซอยศูนย์วิจัย จากนั้นให้พากันไปนั่งดื่มกินจนถึงเวลา 23.00 น.แล้วค่อยชวนผู้ตายกลับออกจากร้านมาขึ้นรถแท็กซี่โตโยต้า สีฟ้า-แดง หมายเลขทะเบียน ทน 8915 กทม. ที่มีนายพงษ์ศักดิ์ เป็นผู้ขับขี่ พานายมาโนช นายกวี และ นายแสวง นั่งมาจอดรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อตนพาผู้ตายเดินมาถึงที่รถ ชายทั้ง 4 คน ก็เข้าประกบตัวแล้วจับผู้ตายขึ้นรถขับหลบหนีไปส่วนตนถูกปล่อยทิ้งไว้ให้กลับที่พักเพียงลำพัง
"ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จึงได้เร่งขอหมายจับจากศาลอาญารัชดา ก่อนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย เอาไว้ได้ทั้งหมด จากการสอบสวนผู้ต้องหาทุกรายให้การยอมรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนางไข่ อดีตภรรยาผู้ตาย ผ่านนายมาโนช ซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกันกับนางไข่ ในราคา 200,000 บาท โดยให้อุ้มตัวผู้ตายไปฆ่าทิ้งแล้วอำพรางว่าเป็นการเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ เนื่องจากนางไข่ ต้องการเงินประกันชีวิตจำนวน 2,000,000 บาท ที่ผู้ตายเคยระบุว่าจะให้รับประโยชน์ไว้เพียงผู้เดียวในกรมธรรม์ โดยหลังก่อเหตุผู้ต้องหาทั้งหมดได้พากันเดินทางไปที่ จ.สุโขทัย เพื่อรับเงินค่าจ้างงวดแรกจากนางไข่แล้ว จำนวน 29,000 บาท โดยจะมีการนัดรับเงินส่วนที่เหลือในวันนี้ (2 มิ.ย.) แต่ก็มาถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน เบื้องต้นตนกำลังให้พนักงานสอบสวน เร่งทำเอกสารขอออกหมายจับนางไข่ เป็นรายต่อไปแล้ว" พ.ต.อ.วัฒนา กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.พิพัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นผู้ต้องหายอมเปิดปากรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุ (28 พ.ค.) หลังจากที่ น.ส.อรนุช ซึ่งรับหน้าที่เป็นนกต่อ พาตัวผู้ตายออกจากร้านตะวันแดง มาถึงที่รถแล้ว นายแสวง ได้รีบเข้าประกบตัวผู้ตายขึ้นไปซ้อนกันที่เบาะหน้าข้างคนขับ โดยมีนายมาโนช และ นายกวี นั่งอยู่ที่เบาะด้านหลัง จากนั้นนายพงษ์ศักดิ์ ซึ่งเป็นโชเฟอร์และเป็นเจ้าของรถแท็กซี่คันดังกล่าว ได้ขับพามุ่งหน้าไปวนตามถนนพัฒนาการ ถนนอ่อนนุช ถนนมอเตอร์เวย์ ถนนศรีนครินทร์ เรื่อยมาโดยระหว่างทาง นายมาโนช และนายกวี ได้ช่วยกันใช้ถุงดำคลุมที่ศีรษะของผู้ตาย ก่อนที่จะรุมซ้อมจนแน่นิ่ง จากนั้นนายกวี ได้ใช้มีดคัตเตอร์กรีดเป็นรอยข่วนจนทั่วลำตัวของผู้ตาย เพื่ออำพรางว่าเป็นรอยถลอกจากการถูกรถเฉี่ยวชน จนกระทั่งเวลา 01.00 น.ของวันรุ่งขึ้น (29 พ.ค.) คนร้ายทั้งหมดได้ขับรถมาจอดตรงจุดที่พบศพ ก่อนที่จะช่วยกันอุ้มร่างผู้ตายลงมานอนกลางถนน แล้วขับรถทับร่างช่วงกลางลำตัวผู้ตายไป 1 ครั้ง โดยก่อนที่จะหลบหนียังช่วยกันปลดทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 10,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ ของผู้ตายติดมือไปด้วย
ต่อมา พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก และกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ขึ้นรถตู้ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยมีการเตรียมดอกไม้ ธูปเทียน มาให้ผู้ต้องหาจุดบอกกล่าวขออโหสิกรรมต่อผู้ตาย ท่ามกลางความสนใจของกลุ่มไทยมุงจำนวนมาก จากนั้นทั้งหมดจึงถูกควบคุมตัวกลับโรงพัก เพื่อรอการฝากขังที่ศาลอาญารัชดาในวันพรุ่งนี้ เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องขอคัดค้านการให้ประกันตัวแนบท้ายคำร้องไปให้ศาลพิจารณาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
วันนี้(2 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.บุญเลิศ พิริยะกฤต รอง ผกก.(สส.) สน.หัวหมาก พ.ต.ท.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผกก.(ป.) สน.หัวหมาก และ พ.ต.ท.พิพัฒน์ เต็งถาวร สว.สส.สน.หัวหมาก แถลงข่าวจับกุมตัว 1.น.ส.อรนุช หรือน้อง หล้าจันทร์ อายุ 27 ปี ชาว จ.สกลนคร 2.นายมาโนช หรือขาว ภูมิถาวร อายุ 36 ปี ชาว จ.สุโขทัย 3.นายพงษ์ศักดิ์ หรือศักดิ์ หงษ์เงิน อายุ 33 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ 4.นายนายกวี หรือตี๋ วัดเฉย อายุ 34 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ และ 5.นายแสวง หรือแดง ผาคำ อายุ 40 ปี ชาว จ.สุโขทัย ทั้ง 5 ราย เป็นผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามหมายจับศาลอาญารัชดาเลขที่ 1815 -1819/2551 ลงวันที่ 31 พ.ค.51 ถูกจับได้ภายในเขตพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยของกลาง รถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีฟ้า-แดง หมายเลขทะเบียน ทน 8915 กทม. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโมบาย 1 เครื่อง เงินสดจำนวน 16,000 บาท และมีดคัตเตอร์ 1 เล่ม
พ.ต.อ.วัฒนา กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 01.25 น.วันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ได้รับแจ้งว่า พบศพนายแสวง มีบุญ อายุ 56 ปี หัวหน้าคนงานของ บริษัท ชิโนทัย จำกัด ย่านมักกะสันถูกรถชนเสียชีวิตบริเวณก่อนถึงร้านอาหารลงขัน กลางซอยรามคำแหง 32 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.จึงรีบรุดไปตรวจสอบพบว่า ผู้ตายมีร่องรอยการถูกขีดข่วนทั่วลำตัว มีบาดแผลบวมช้ำที่ใบหน้า และปาก ซึ่งผิดปกติไม่เหมือนกับผู้ที่ถูกรถชนทั่วไป ประกอบกับผลผ่าชันสูตรของแพทย์ระบุอกมาว่า เนื้อตัวผู้ตายไม่มีร่องรอยการถูกรถเฉี่ยวชน แต่มีอาการซี่โครงหัก ปอดฉีก และมีญาติยืนยันด้วยว่าเงินสด จำนวน 10,000 บาท พร้อมกับโทรศัพท์มือถือของผู้ตายได้สูญหายไป พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการประสานให้ฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก ให้ช่วยทำการลงพื้นที่หาข่าวเพื่อคลี่คลายคดีที่เกิดขึ้น จนกระทั่งได้เบาะเเสมาว่า ผู้ตายเป็นพ่อหม้ายหย่าขาดกับภรรยาเก่า ชื่อนางไข่ (นามสมมติ) อายุ 52 ปี ชาว จ.สุโขทัย มาได้ประมาณ 3 ปี แล้ว สาเหตุเพราะนางไข่ ไปมีสามีใหม่ และก่อนหน้าที่จะเเยกทางกัน มีหลักฐานยืนยันว่า ผู้ตายได้ทำประกันชีวิตไว้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ในวงเงิน 2,000,000 บาท ซึ่งเงินดังกล่าวนี้มีชื่อของนางไข่ เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์เพียงคนเดียวหากผู้ตายถึงแก่กรรม
พ.ต.อ.วัฒนา กล่าวอีกว่า ฝ่ายสืบสวนได้เดินทางไปหาข่าวเพิ่มเติมที่บริษัทของผู้ตาย ทราบอีกว่า ก่อนพบศพมีพยานเห็นผู้ตาย ออกจากบริษัทไป พร้อมกับ น.ส.อรนุช ซึ่งเป็นหมอนวดแผนโบราณ และเป็นผู้พิการที่ขาเดินผิดปกติ ทำงานอยู่ในสถานบริการย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา โดย น.ส.อรนุช เคยไปหาผู้ตายถึงที่บริษัท 2-3 ครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรีบเดินทางไปควบคุมตัว น.ส.อรนุช มาสอบสวน ได้ความว่า เมื่อช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับว่าจ้างจากนายมาโนช หรือขาว ในราคา 5,000 บาท ให้ทำตัวเป็นนกต่อโทรศัพท์เข้าไปหาผู้ตายเพื่อตีสนิท และนัดพบกันมาแล้ว 3 ครั้ง จนกระทั่งครั้งล่าสุดเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมานายมาโนช ได้วางแผนให้ตนชักชวนผู้ตายไปเที่ยวที่ร้านตะวันแดง ย่านถนนพัฒนาการ โดยนัดเจอกันกับผู้ตายที่ซอยศูนย์วิจัย จากนั้นให้พากันไปนั่งดื่มกินจนถึงเวลา 23.00 น.แล้วค่อยชวนผู้ตายกลับออกจากร้านมาขึ้นรถแท็กซี่โตโยต้า สีฟ้า-แดง หมายเลขทะเบียน ทน 8915 กทม. ที่มีนายพงษ์ศักดิ์ เป็นผู้ขับขี่ พานายมาโนช นายกวี และ นายแสวง นั่งมาจอดรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อตนพาผู้ตายเดินมาถึงที่รถ ชายทั้ง 4 คน ก็เข้าประกบตัวแล้วจับผู้ตายขึ้นรถขับหลบหนีไปส่วนตนถูกปล่อยทิ้งไว้ให้กลับที่พักเพียงลำพัง
"ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จึงได้เร่งขอหมายจับจากศาลอาญารัชดา ก่อนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย เอาไว้ได้ทั้งหมด จากการสอบสวนผู้ต้องหาทุกรายให้การยอมรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนางไข่ อดีตภรรยาผู้ตาย ผ่านนายมาโนช ซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกันกับนางไข่ ในราคา 200,000 บาท โดยให้อุ้มตัวผู้ตายไปฆ่าทิ้งแล้วอำพรางว่าเป็นการเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ เนื่องจากนางไข่ ต้องการเงินประกันชีวิตจำนวน 2,000,000 บาท ที่ผู้ตายเคยระบุว่าจะให้รับประโยชน์ไว้เพียงผู้เดียวในกรมธรรม์ โดยหลังก่อเหตุผู้ต้องหาทั้งหมดได้พากันเดินทางไปที่ จ.สุโขทัย เพื่อรับเงินค่าจ้างงวดแรกจากนางไข่แล้ว จำนวน 29,000 บาท โดยจะมีการนัดรับเงินส่วนที่เหลือในวันนี้ (2 มิ.ย.) แต่ก็มาถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน เบื้องต้นตนกำลังให้พนักงานสอบสวน เร่งทำเอกสารขอออกหมายจับนางไข่ เป็นรายต่อไปแล้ว" พ.ต.อ.วัฒนา กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.พิพัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นผู้ต้องหายอมเปิดปากรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุ (28 พ.ค.) หลังจากที่ น.ส.อรนุช ซึ่งรับหน้าที่เป็นนกต่อ พาตัวผู้ตายออกจากร้านตะวันแดง มาถึงที่รถแล้ว นายแสวง ได้รีบเข้าประกบตัวผู้ตายขึ้นไปซ้อนกันที่เบาะหน้าข้างคนขับ โดยมีนายมาโนช และ นายกวี นั่งอยู่ที่เบาะด้านหลัง จากนั้นนายพงษ์ศักดิ์ ซึ่งเป็นโชเฟอร์และเป็นเจ้าของรถแท็กซี่คันดังกล่าว ได้ขับพามุ่งหน้าไปวนตามถนนพัฒนาการ ถนนอ่อนนุช ถนนมอเตอร์เวย์ ถนนศรีนครินทร์ เรื่อยมาโดยระหว่างทาง นายมาโนช และนายกวี ได้ช่วยกันใช้ถุงดำคลุมที่ศีรษะของผู้ตาย ก่อนที่จะรุมซ้อมจนแน่นิ่ง จากนั้นนายกวี ได้ใช้มีดคัตเตอร์กรีดเป็นรอยข่วนจนทั่วลำตัวของผู้ตาย เพื่ออำพรางว่าเป็นรอยถลอกจากการถูกรถเฉี่ยวชน จนกระทั่งเวลา 01.00 น.ของวันรุ่งขึ้น (29 พ.ค.) คนร้ายทั้งหมดได้ขับรถมาจอดตรงจุดที่พบศพ ก่อนที่จะช่วยกันอุ้มร่างผู้ตายลงมานอนกลางถนน แล้วขับรถทับร่างช่วงกลางลำตัวผู้ตายไป 1 ครั้ง โดยก่อนที่จะหลบหนียังช่วยกันปลดทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 10,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ ของผู้ตายติดมือไปด้วย
ต่อมา พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก และกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ขึ้นรถตู้ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ โดยมีการเตรียมดอกไม้ ธูปเทียน มาให้ผู้ต้องหาจุดบอกกล่าวขออโหสิกรรมต่อผู้ตาย ท่ามกลางความสนใจของกลุ่มไทยมุงจำนวนมาก จากนั้นทั้งหมดจึงถูกควบคุมตัวกลับโรงพัก เพื่อรอการฝากขังที่ศาลอาญารัชดาในวันพรุ่งนี้ เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องขอคัดค้านการให้ประกันตัวแนบท้ายคำร้องไปให้ศาลพิจารณาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
