โจรสุดโหดบุกร้านเสริมสวยชั้นล่างอพาร์ตเมนต์ย่านศีรนครินทร์ คว้ามีดแทงสาวเจ้าของอพาร์ตเมนต์ไม่ยั้ง จนทนพิษไม่ไหวไปตายที่โรงพยาบาล แถมยังแทงสาวเจ้าของร้านเสริมสวยกับลูกสาววัยแค่ 7 ขวบ สาหัสอีก 2 ราย ฝั่งตำรวจยังไม่ฟังธงว่าฆ่าชิงทรัพย์ เพราะเงินสด-เอกสารสำคัญของคนตายยังอยู่ครบ ตั้งประเด็นเรื่องแค้นส่วนตัวเพิ่มอีกประเด็น
วันนี้ (7 พ.ค.) เวลา 17.45 น. ร.ต.ท.สมเด่น แดงเครื่อง พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.พระโขนง รับแจ้งเหตุมีคนถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บหลายราย ภายในแฮปปี้อพาร์ทเม้นท์ เลขที่ 15/57 ซอยสุภาพงษ์ 1/1 ถนนศรีนครินทร์ 42 แขวงหนองบอน เขตประเวศ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.5 พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ตเมนต์สูง 4 ชั้น 5 คูหา โดยห้องที่เกิดเหตุอยู่ห้องเลขที่ 107 ชั้นล่างของอพาร์ตเมนต์เปิดเป็นร้านเสริมสวยชื่อ “เมย์แฮร์ดีไซน์” เจ้าหน้าที่พบกองเลือดกระจายไปทั่วร้านและบริเวณหน้าร้าน และมีร่องรอยการต่อสู้จนข้าวของล้มกระจัดกระจาย บานเกล็ดห้องน้ำของร้านถูกทุบจนแตกละเอียด นอกจากนี้ยังพบหมวกกันน็อกสีน้ำเงิน 1 ใบ วางอยู่บนโซฟา จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากคาดว่าน่าจะเป็นของคนร้าย
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีด้วยกัน 3 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลไทยนครินทร์ และโรงพยาบาลศิครินทร์ไปก่อนหน้านี้แล้ว ประกอบด้วย นางอรทัย เรืองศรีนุกุลกิจ หรือ “เจ๊ไนซ์” อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/1-3 หมู่ 1 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ เจ้าของกิจการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ช.เรืองชัยโลหะกิจ และลูกสาวของอพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุ มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่บริเวณหน้าอกซ้ายทะลุหัวใจ หน้าท้องและแผ่นหลัง รวมกว่า 10 แผล อาการสาหัส ก่อนเจ้าตัวจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนรายที่สองคือ นางเมธาวี หมื่นเงิน อายุ 34 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยที่เกิดเหตุ มีบาดแผลถูกแทงเข้าที่สีข้างขวา 1 แผล และรายที่สุดท้ายคือ ด.ญ.พุทธรักษา หรือ “น้องเอเชีย” หมื่นเงิน อายุ 7 ปี ลูกสาวของนางเมธาวี มีบาดแผลถูกแทงเข้าที่แผ่นหลังจำนวน 3 แผล เบื้องต้นแพทย์ได้ช่วยเหลือทั้งทั้งสองแม่ลูกจนอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
จากการสอบสวน นางดวงพร ศรีแก้วนวล อายุ 40 ปี ซึ่งเปิดร้านขายของชำอยู่ใกล้เคียงกับร้านเสริมสวยที่เกิดเหตุให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นชายได้เข้ามาซื้อลูกอมที่ร้านของตนจำนวน 2 เม็ด 1 บาทแล้วออกไป หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงกระจกแตกเสียงดังมาจากบริเวณด้านหลังร้านเสริมสวย พร้อมกับมีคนร้องเอะอะโวยวายเสียงดังจึงรีบออกไปดูก็พบนางเมธาวี เจ้าของร้านเสริมสวยวิ่งออกมาโบกมือร้องให้คนช่วยในสภาพเลือดไหลโทรมกาย ก่อนที่คนร้ายจะออกมาจากร้านไปขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยตนพยายามส่งเสียงร้องให้ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงช่วยกันออกมาจับกุมคนร้ายแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือจนคนร้ายสามารถหนีไปได้
ด้าน พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.5 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่า ทรัพย์สินในกระเป๋าของผู้ตายยังอยู่ครบ ทั้งเงินสดจำนวน 14,400 บาท รวมทั้งเอกสารสำคัญต่างๆ อีกหลายรายการ และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าอพาร์ตเมนต์สามารถจับภาพคนร้ายเอาไว้ได้อย่างชัดเจน โดยรูปพรรณของคนร้ายรายนี้ เป็นชายผิวคล้ำ รูปร่างผอม อายุประมาณ 25 ปี ไว้ผมสั้น สวมเสื้อยืดสีฟ้า กางเกงยีนส์ขายาว ทีมาดูลาดลาวอยู่บริเวณที่เกิดเหตุเป็นเวลานาน ก่อนที่จะเข้าไปลงมือในร้าน โดยใช้เวลาเพียงแค่ 1 นาที เท่านั้น ก่อนจะขับขี่รถจจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนหลบหนีไป
พล.ต.ต.สาโรจน์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่มุ่งประเด็นเอาไว้ 2 ประเด็น คือ พยายามชิงทรัพย์ และเรื่องความแค้นส่วนตัว ซึ่งหลังกจากนี้จะเรียกผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ตาย รวมทั้งผู้บาดเจ็บมาสอบปากคำ เพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง