ตำรวจ ปส.แถลงจับแก๊งยาบ้ารายใหญ่เครือข่าย “เฮียกู” พร้อมของกลาง 2.4 หมื่นเม็ด เผยกระทำกันเป็นขบวนการ โดยมีนักโทษในเรือนจำลาดยาวเป็นคนสั่งซื้อยาจากประเทศเพื่อนบ้านก่อนกระจายขายให้เอเยนต์ใน กทม.
วันนี้ (29 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.ปส., พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส., นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์, พ.ต.อ.โภควิบูลย์ โภตะนันทน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะหัวหน้าปราบปรามยาเสพติด ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายยาเสพติดจากในเรือนจำและเครือข่ายกระทุ่มแบน ซึ่งประกอบด้วยนายจรูญ นาราษฎร์ อายุ 26 ปี, นายพีระพงษ์ ธรรมมุน อายุ 36 ปี, นายสุนทร มุงอินทร์ อายุ 43 ปี, นางพเยาว์ แย้มโกเมน อายุ 46 ปี และนายคำผาย ละบุดดา อายุ 39 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 24,000 เม็ด รถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ทย-8088 กทม. รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ หมายเลขทะเบียน ตว-4220 กทม. กล่องขนมยี่ห้อยูโร่ คัสตาร์ด เค้ก ใช้สำหรับบรรจุยาบ้าโทรศัพท์มือถือ และบัญชีหมายเลขโทรศัพท์ลูกค้า
พล.ต.ท.วุฒิ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.2 สืบทราบว่านายจรุญผู้กว้างขวางในจังหวัดนนทบุรี มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาบ้า จึงติดตามความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด จนกระทั่งเวลา 12.00 น.วานนี้ (28 เม.ย.) นายจรูญได้กลับมาห้องเช่าเลขที่ 10 ชั้น 2 อาคารเลขที่ 106/7 ซ.บุญมาสู่ 3 อ่อนนุช 36 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. พร้อมถุงใบใหญ่ใบหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้นก็พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกล่องใส่ขนมดังกล่าว
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายจรูญ ให้การรับสารภาพว่า ตนไปรับยาบ้ามาจากนายพีระพงษ์ เพื่อไปแบ่งให้เอเยนต์คนอื่นๆ ตามคำสั่งของ “เฮียกู” เจ้าหน้าที่จึงวางแผนจับกุมนายพีระพงษ์ ได้ที่หน้าห้องเช่าดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ขยายผลจับกุม นายสุนทรกับนางพเยาว์ สองสามีภรรยาที่ขับรถกระบะของกลางมารับยาบ้าได้ที่ลานจอดรถร้านอาหารแห่งหนึ่ง ริมถนนศรีนครินทร์ แขวงและเขตสวนหลวง ก่อนจะตามจับกุมนายคำผายได้ที่ปั๊มน้ำมัน ถนนเศรษฐกิจ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้เป็นคนสุดท้าย
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวด้วยว่า นายคำผาย เป็นเครือขายของนักค้ายาเสพติดรายสำคัญของ บก.ปส.3 ต้องการตัวมากที่สุดรายหนึ่งที่ชื่อ “เจ๊ผ่อน” ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ออกหมายจับต่อไป นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้งหมด ยังให้การว่าเฮียกูจะเป็นคนประสานกับ “ไก่ ลาดยาว” นักโทษคดียาเสพติดที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำลาดยาวที่สามารถสั่งยาบ้าจากนอกประเทศได้ จากนั้นก็จะลำเลียงมาส่งให้เฮียกูแล้วกระจายไปให้เอเยนต์รายย่อย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่ นายวันชัย กล่าวว่า ทางกรมราชทัณฑ์ได้ประสานข้อมูลกับ บช.ปส.อยู่ตลอดเวลา เพื่อหาเครือขายยาบ้าในเรือนจำ โดยกรมราชทัณฑ์จะนำข้อมูลที่ได้นี้ไปติดตามตัวเอเยนต์ที่ชื่อ “ไก่ ลาดยาว” มาดำเนินคดีต่อไป ส่วนเรื่องที่นักโทษยังสามารถสั่งยาบ้าได้ทั้งที่ยังอยู่ในเรือนจำนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการติดต่อระหว่างเยี่ยมญาติ โดยใช้โทรศัพท์ ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์มีแผนการตรวจสอบป้องกันโดยติดตั้งกล้องวงจรปิดและจดบันทึกบัตรประชาชนของผู้เข้าเยี่ยมไว้ด้วย
