ผบช.น.สั่งบก.น.5 สนธิกำลัง สน.พระโขนง เร่งไล่ล่าไอ้โหดสังหารเหยื่อในร้านเสริมสวยซอยสุภาพงษ์ เชื่อ ปมฆ่าจากประเด็นชู้สาว-เรื่องส่วนตัว ไม่ใช่ชิงทรัพย์ เพราะไม่แตะต้องทรัพย์สิน เน้นหาหลักฐานความเชื่อมโยงระหว่างผู้ก่อเหตุกับเจ้าของร้าน ด้าน ผกก.สน.พระโขนง ยัน จะได้ภาพสเกตช์หน้าคนร้ายวันนี้ คาดคนร้ายอาจมีอาการทางจิต เพราะไม่เว้นแม้เด็ก
วันนี้ (8 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายบุกเข้าไปในร้านเสริมสวยชื่อ “เมย์แฮร์ดีไซน์” ภายในแฮปปี้อพาร์ทเม้นท์ เลขที่ 15/57 ซอยสุภาพงษ์ 1/1 ถนนศรีนครินทร์ 42 แขวงหนองบอน เขตประเวศ ก่อนใช้มีดจ้วงแทง นางอรทัย เรืองศรีนุกุลกิจ หรือ “เจ๊ไนซ์” อายุ 37 ปี เจ้าของกิจการห้างหุ้นส่วนจำกัด ช.เรืองชัยโลหะกิจ เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล และผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 2 ราย คือ นางเมธาวี หมื่นเงิน อายุ 34 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยที่เกิดเหตุ ด.ญ.พุทธรักษา หรือ “น้องเอเชีย” หมื่นเงิน อายุ 7 ปี ลูกสาวของนางเมธาวี ว่า เชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากเรื่องชู้สาวหรือเรื่องส่วนตัว เนื่องจากหลังเกิดเหตุผู้ต้องหาไม่แตะต้องทรัพย์สินของผู้ตายที่อยู่ภายในร้าน
ผบช.น.กล่าวต่อไปว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการฝ่ายสืบสวน บก.น.5 ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนงสืบสวนหาสาเหตุและความเกี่ยวเนื่องระหว่างตัวคนร้ายและเจ้าของร้านเสริมสวยดังกล่าว พร้อมให้เร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ได้กำชับพนักงานสอบสวนตรวจสอบภาพจากโทรทัศน์วงจรปิด และสอบสวนพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อไป
ทางด้าน พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.สน.พระโขนง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำพยานไปทั้งหมด 4-5 ปาก ซึ่งจากการสอบปากคำเจ้าของร้านเสริมสวยที่ถูกแทงได้รับบาดเจ็บ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเข้ามาทำผมที่ร้านเวลาประมาณ 16.00 น.จากนั้นคนร้ายก็ได้เดินเข้ามาภายในร้านและบอกให้ตัดผมให้ตนเอง เพื่อที่จะรอแฟนที่จะมาทำผมที่ร้าน แต่คนร้ายไว้ผมทรงสกินเฮด เจ้าของร้านจึงได้ตอบกลับไปว่าไม่สามารถตัดได้ เนื่องจากผมสั้นมาก ระหว่างที่เจ้าของร้านกำลังทำผมให้ผู้ตายอยู่นั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่ด้านหลังของเจ้าของร้าน ก่อนที่จะหันมาแทงผู้ตายและเด็ก
พ.ต.อ.สิทธิภาพ กล่าวต่อว่า จากการสอบถามแพทย์นิติเวช ทราบว่า ลักษณะบาดแผลที่คนร้ายแทงผู้ตาย เป็นการกระหน่ำแทงอย่างโหดเหี้ยม คล้ายกับว่า มีความโกรธแค้นกันมาก่อน จากแนวทางการสืบสวนหากเป็นเรื่องความแค้นส่วนตัวคนร้ายน่าจะแทงผู้ตายก่อนเป็นรายแรก แต่ขณะเกิดเหตุคนร้ายเริ่มแทงเจ้าของร้านก่อน และทำร้ายลูกเจ้าของร้านซึ่งเป็นเด็กด้วย เป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจจะมีอาการทางจิต ทำให้ประเด็นเรื่องความแค้นส่วนตัวยังมีความคลุมเครือ ส่วนประเด็นเรื่องการชิงทรัพย์คงไม่เกี่ยวข้องเนื่องจากคนร้ายไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินของผู้ตายเลย
“ในวันนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน นำภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดไปขยายเพื่อให้เห็นใบหน้าของคนร้ายอย่างชัดเจน และเรียกพยานที่เห็นใบหน้าของคนร้าย มาช่วยบอก จนท.ภาพสเกตช์ ซึ่งคาดว่าจะได้ภาพสเกตช์หน้าคนร้ายภายในวันนี้ เบื้องต้นจากการสอบถามพยานแวดล้อม และการดูภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุไม่มีใครเคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน ในวันนี้หลังจากที่ได้ภาพสเกตช์ของคนร้ายแล้วจะเรียกผู้จัดการของ หจก.ช.เรืองชัยโลหะกิจ มาสอบปากคำด้วยว่าคนร้ายเคยทำงาน อยู่ที่โรงงานมาก่อนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จะต้องรอภาพสเกตช์ของคนร้ายและผลการตรวจพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุจากกองพิสูจน์หลักฐานอย่างละเอียด ก่อนที่จะขออนุมัติออกหมายจับคนร้ายจากศาลแขวงจังหวัดพระโขนง และเร่งติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้ เพราะถ้าหากคนร้ายมีอาการทางจิตจริงเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อสังคม” พ.ต.อ.สิทธิภาพ กล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ, พกพาอาวุธมีด และบุกรุกเคหสถาน ไว้ก่อนแต่ถ้าหากพบว่าคนร้ายมีอาการทางจิตก็จะต้องให้แพทย์เป็นผู้ตรวจอย่างละเอียดว่าคนร้ายมีอาการทางจิตอยู่ในขั้นไหน เพื่อที่จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โคตรอำมหิต! บุกร้านเสริมสวยแทงยับดับ 1 สาหัสอีกสอง-เด็ก 7 ขวบก็ไม่เว้น
วันนี้ (8 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายบุกเข้าไปในร้านเสริมสวยชื่อ “เมย์แฮร์ดีไซน์” ภายในแฮปปี้อพาร์ทเม้นท์ เลขที่ 15/57 ซอยสุภาพงษ์ 1/1 ถนนศรีนครินทร์ 42 แขวงหนองบอน เขตประเวศ ก่อนใช้มีดจ้วงแทง นางอรทัย เรืองศรีนุกุลกิจ หรือ “เจ๊ไนซ์” อายุ 37 ปี เจ้าของกิจการห้างหุ้นส่วนจำกัด ช.เรืองชัยโลหะกิจ เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล และผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 2 ราย คือ นางเมธาวี หมื่นเงิน อายุ 34 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยที่เกิดเหตุ ด.ญ.พุทธรักษา หรือ “น้องเอเชีย” หมื่นเงิน อายุ 7 ปี ลูกสาวของนางเมธาวี ว่า เชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากเรื่องชู้สาวหรือเรื่องส่วนตัว เนื่องจากหลังเกิดเหตุผู้ต้องหาไม่แตะต้องทรัพย์สินของผู้ตายที่อยู่ภายในร้าน
ผบช.น.กล่าวต่อไปว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการฝ่ายสืบสวน บก.น.5 ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนงสืบสวนหาสาเหตุและความเกี่ยวเนื่องระหว่างตัวคนร้ายและเจ้าของร้านเสริมสวยดังกล่าว พร้อมให้เร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ได้กำชับพนักงานสอบสวนตรวจสอบภาพจากโทรทัศน์วงจรปิด และสอบสวนพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อไป
ทางด้าน พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.สน.พระโขนง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำพยานไปทั้งหมด 4-5 ปาก ซึ่งจากการสอบปากคำเจ้าของร้านเสริมสวยที่ถูกแทงได้รับบาดเจ็บ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเข้ามาทำผมที่ร้านเวลาประมาณ 16.00 น.จากนั้นคนร้ายก็ได้เดินเข้ามาภายในร้านและบอกให้ตัดผมให้ตนเอง เพื่อที่จะรอแฟนที่จะมาทำผมที่ร้าน แต่คนร้ายไว้ผมทรงสกินเฮด เจ้าของร้านจึงได้ตอบกลับไปว่าไม่สามารถตัดได้ เนื่องจากผมสั้นมาก ระหว่างที่เจ้าของร้านกำลังทำผมให้ผู้ตายอยู่นั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่ด้านหลังของเจ้าของร้าน ก่อนที่จะหันมาแทงผู้ตายและเด็ก
พ.ต.อ.สิทธิภาพ กล่าวต่อว่า จากการสอบถามแพทย์นิติเวช ทราบว่า ลักษณะบาดแผลที่คนร้ายแทงผู้ตาย เป็นการกระหน่ำแทงอย่างโหดเหี้ยม คล้ายกับว่า มีความโกรธแค้นกันมาก่อน จากแนวทางการสืบสวนหากเป็นเรื่องความแค้นส่วนตัวคนร้ายน่าจะแทงผู้ตายก่อนเป็นรายแรก แต่ขณะเกิดเหตุคนร้ายเริ่มแทงเจ้าของร้านก่อน และทำร้ายลูกเจ้าของร้านซึ่งเป็นเด็กด้วย เป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจจะมีอาการทางจิต ทำให้ประเด็นเรื่องความแค้นส่วนตัวยังมีความคลุมเครือ ส่วนประเด็นเรื่องการชิงทรัพย์คงไม่เกี่ยวข้องเนื่องจากคนร้ายไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินของผู้ตายเลย
“ในวันนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน นำภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดไปขยายเพื่อให้เห็นใบหน้าของคนร้ายอย่างชัดเจน และเรียกพยานที่เห็นใบหน้าของคนร้าย มาช่วยบอก จนท.ภาพสเกตช์ ซึ่งคาดว่าจะได้ภาพสเกตช์หน้าคนร้ายภายในวันนี้ เบื้องต้นจากการสอบถามพยานแวดล้อม และการดูภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุไม่มีใครเคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน ในวันนี้หลังจากที่ได้ภาพสเกตช์ของคนร้ายแล้วจะเรียกผู้จัดการของ หจก.ช.เรืองชัยโลหะกิจ มาสอบปากคำด้วยว่าคนร้ายเคยทำงาน อยู่ที่โรงงานมาก่อนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จะต้องรอภาพสเกตช์ของคนร้ายและผลการตรวจพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุจากกองพิสูจน์หลักฐานอย่างละเอียด ก่อนที่จะขออนุมัติออกหมายจับคนร้ายจากศาลแขวงจังหวัดพระโขนง และเร่งติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้ เพราะถ้าหากคนร้ายมีอาการทางจิตจริงเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อสังคม” พ.ต.อ.สิทธิภาพ กล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ, พกพาอาวุธมีด และบุกรุกเคหสถาน ไว้ก่อนแต่ถ้าหากพบว่าคนร้ายมีอาการทางจิตก็จะต้องให้แพทย์เป็นผู้ตรวจอย่างละเอียดว่าคนร้ายมีอาการทางจิตอยู่ในขั้นไหน เพื่อที่จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โคตรอำมหิต! บุกร้านเสริมสวยแทงยับดับ 1 สาหัสอีกสอง-เด็ก 7 ขวบก็ไม่เว้น