ประชุมร่วม 4 หน่วยวางแผนบูรณาการปราบยาเสพติด ระบุ 1 เดือน อายัดทรัยพ์นักค้ากว่า 94 ล้าน ผลงานจับกุมยาบ้าเพิ่มขึ้น 80% พื้นที่แพร่ระบาดยังเป็นกรุงเทพฯ ด้าน “สมพงษ์” เผยประชุมครั้งหน้าเตรียมโชว์เครือข่ายนักค้าอย่างหมดเปลือก
วันนี้ (30 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมเพื่อกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาผู้ค้า ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ว่า ได้นัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงยุติธรรมทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมราชทัณฑ์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งได้ตั้งคณะทำงานพิจารณาเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดขึ้นมา 3 คณะ และมีการรายงานความคืบหน้าเรื่องเครือข่ายนักค้า สถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ และการบำบัดฟื้นฟู โดยจะนัดหารือถึงการจัดการกับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งเป็นการหารือแบบวงเล็กที่จะสะดวกกว่าการประชุมใหญ่
นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า ในการประชุมครั้งต่อไปจะมีการเปิดเผยรายละเอียดของเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายแต่ละราย ซึ่งเครือข่ายนักค้ายาเสพติดเป้าหมายมีหลายร้อยเครือข่าย จะต้องตรวจสอบทั้งหมดโดยเฉพาะญาติพี่น้องและผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งการชี้แจงที่มาของเงิน โดยก่อนหน้านี้ได้ใช้การตรวจสอบทางลับ แต่ไม่ได้หลายถึงการเพิ่มตัวเลขการยึดทรัพย์ของ ปปง.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคณะทำงานทั้ง 3 คณะ ประกอบด้วย คณะทำงานสืบสวน ทางการเงินและดำเนินการต่อทรัพย์สินของผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ซึ่งจะมุ่งเน้นการดำเนินงานต่อทรัพย์สินของนักค้ายาเสพติดรายใหญ่และบุคคลหรือเครือข่ายที่มีพฤติการณ์ฟอกเงินจากการค้ายาเสพติด โดยจะให้ ปปง.และ ดีเอสไอ สืบสวนติดตามร่องรอยทางการเงินโดยใช้อำนาจในการเรียกเอกสารทางการเงินและตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางทุรกรรม คณะทำงานปราบปรามเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย ป.ป.ส.และดีเอสไอ จะคัดเลือกเป้าหมายและเครือข่ายยาเสพติดที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดหรือความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะทำงานด้านการบูรณาการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยา
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรายงานสถานการณ์ยาเสพติดในช่วง 1 เดือนภายหลังรัฐบาลประกาศนโยบายปราบปรามยาเสพติดโดยพบว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมยาบ้าได้ประมาณ 1.42 ล้านเม็ด กัญชา 3.99 ตัน เฮโรอีน 2.7 กิโลกรัม และไอซ์ 0.89 กิโลกรัม หากเปรียบเทียบกับการปฏิบัติการในปี 2551 สามารถจับกุมยาบ้าได้เพิ่มขึ้น 81% กัญชาเพิ่มขึ้น 31.2% ยึดทรัพย์นักค้าได้ 161 ราย รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 94 ล้านบาท โดยพื้นที่แพร่ระบาดมากที่สุด คือกรุงเทพฯ สมุทรสาคร และนครปฐม
