นครบาล 6 แถลงจับสองผู้ต้องหาอ้างตัวเป็นตำรวจตระเวนปล้นทรัพย์เหยื่อหาเงินเสพยาบ้า โดนจับได้ถึงกับสลดอ้างเป็นเจ้าของร้านเพชรแต่ชีวิตตกต่ำต้องเป็นโจรเพราะติดยา
วันนี้ (29 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ สน.พลับพลาไชย 1 พ.ต.อ.ปวิตร เลขะวณิช รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.สังวาลย์ ฤกษ์ศรีลักษณ์ ผกก.สน.พลับพลาไชย 1 แถลงข่าวจับกุม นายอรรณพ หรือ อันดาอา ดีประเสริฐ อายุ 26 ปี และนายอาคม หรือบลู อุรีภาส อายุ 19 ปี สองผู้ต้องหาคดีปล้นทรัพย์ ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ จ.606/2551 ลงวันที่ 27 พ.ค.51 และเลขที่ จ.622/2551 ลงวันที่ 29 พ.ค.51 ตามลำดับ
พ.ต.อ.ปวิตร เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคนพร้อมพวกที่หลบหนีไปอีก 2 คน ได้ร่วมกันออกตระเวนปล้นทรัพย์เหยื่อในพื้นที่สน.พลับพลาไชย 1 โดยแอบอ้างตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปขอตรวจค้นรถและตัวผู้เสียหาย ก่อนจะรุมทำร้ายร่างกายแล้วปล้นทรัพย์ไป โดยรายแรกเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้งสองคนพร้อมพวกที่หลบหนีอีก 2 คน ได้ขี่รถจยย.สองคัน เข้ามาปาดหน้ารถของนายธนพล สัตยบัณฑิต อายุ 25 ปี ที่บริเวณปากซอยนาคราช แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย พร้อมทั้งแสดงตัวเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ ขอตรวจค้นตัวก่อนจะรุมทำร้ายแล้วปล้นเอาเงินสดจำนวน 1,000 บาท หลบหนีไป
หลังจากนั้นในเวลา 03.00 น.ของวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็ยังก่อเหตุในลักษณะเดิมกับชายชาวพม่าไม่ทราบชื่อในซอยอนันตนาค และเวลา 12.00 น.ในวันเดียวกันผู้ต้องหาทั้งสองคนพร้อมพวกที่หลบหนีไปอีกคน ก็ขี่รถจักรยานยนต์ปาดหน้ารถของนายอุทัย แก่นแสง อายุ 42 ปี ก่อนเข้าไปทำทีขอตรวจค้น ก่อนจะยึด 6,000 บาทของผู้เสียหายจากกระเป๋า ทำให้ผู้เสียหายไม่เชื่อว่าว่าเป็นตำรวจ จึงพยายามต่อสู้ แต่ก็ถูกกลุ่มผู้ต้องหารุมทำร้ายแล้วหลบหนีไป ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่าทั้งสองคนคือคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้ จึงขออนุมัติหมายจับจากศาลก่อนจับกุมนายอรรณพ ได้ที่บ้านเลขที่ 557 ซอยบางนา-ตราด 56 แขวงและเขตบางนา และตามจับนายอาคมได้ที่ตรอกบ้านบาตร แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน
จากการสอบปากคำ นายอรรณพให้การรับสารภาพโดยอ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าของร้านจิวเวลรีเพชรเกือบแท้ 100% เปิดร้านอยู่ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แต่ที่ต้องมาทำแบบนี้เพราะติดยาบ้า และไม่อยากนำเงินรายได้จากการขายเพชรมาใช้ ซึ่งส่วนตัวชื่นชอบตำรวจนอกเครื่องแบบอยู่แล้ว รู้สึกปลื้มตำรวจสายสืบของโรงพักนี้หลายคน อยากเป็นตำรวจบ้างเลยพยายามทำตัวเลียนแบบ โดยเลือกเอาเฉพาะเหยื่อที่ดูท่าทางผอมโซเหมือนคนติดยา พวกค้ายาบ้า หรือไม่ก็ท่าทางจะเป็นคนต่างด้าว
นายอรรณพ ให้การต่อว่า เมื่อหาเหยื่อได้ก็จะเข้าไปทำทีขอตรวจค้นรถ หรือค้นตัวเหยื่อ หากคนไหนมีอาการแสดงท่าทีมีพิรุธก็แสดงว่ามีกลัวความผิด ตนกับพวกก็จะยึดเงินแล้วหลบหนีไปทันที หากคนไหนสู้ก็จะรุมเตะต่อย โดยครั้งล่าสุดที่ได้เงินมา 6,000 บาทก็นำไปซื้อยาบ้ามา 20 เม็ด ก่อนจะแบ่งกันเสพและแบ่งเงินเป็นค่านมให้ลูกเพื่อนในแก๊งอีกคนหนึ่ง ซึ่งหากตนออกจากคุกมาก็ยินดีที่จะช่วยเหลืองานตำรวจฝ่ายสืบสวนเต็มที่
ส่วนนายอาคมอ้างว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่วันเกิดเหตุแค่ขับรถจักรยานยนต์มาด้วยกัน ช่วงที่ปล้นก็นั่งรออยู่บนรถจักรยานยนต์เท่านั้น ไม่ได้ลงไปรุมทำร้ายร่างกายผู้เสียหายแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาปล้นทรัพย์ต่อผู้ต้องหาทั้งสองคน พร้อมทั้งจะติดตามผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยเจ้าหน้าที่รู้ตัวแล้วว่ามีใครบ้าง