ปส.โชว์จับผู้ต้องหาค้ายา “เหลิม” โผล่แจมเอาหน้า!!

ตร.ปราบปรามยาเสพติด สนองนโยบาย “มท.1” โชว์จับหนุ่มเชียงรายผู้ต้องหาค้าเฮโรอีน รายใหญ่ พร้อมของกลางน้ำหนัก 8,500 กรัม สอบประวัติขายยากันยกบ้าน อีกรายรวบ 2 นิโกร พร้อม โคเคน 2.5 กิโล หลังลอบนำไปขายให้ชาวผิวดำด้วยกัน ตามย่านอาร์ซีเอ ประตูน้ำ สุขุมวิท ด้าน “เป็ดเหลิม” โผล่แจมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ออกตัว มีปัญหาเรียกได้เสมอ

วันนี้ (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ผอ.ศอ.ปส.) พล.ต.ท.ภาณุพงษ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.ปส. พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส.ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่จำนวน 4 ราย

พล.ต.ต.อดิเทพ เปิดเผยว่า รายแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส. 2 จับกุม นายจังเบ แซ่จัง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 ม.4 ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พร้อมของกลางเฮโรอีน น้ำหนักประมาณ 8,500 กรัม ได้ที่บริเวณลานจอดรถโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง ม.1 ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย หลังจากสืบทราบว่า กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดที่เคยเป็นกองกำลังลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่แนวชายแดน ต่อมากลุ่มดังกล่าวได้แยกตัวมาดำเนินการจัดหายาเสพติดเพื่อส่งขายให้กับนายทุนเอง เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งวันที่ 26 พ.ค.ก็สืบทราบว่า นายจังเบ และ นางอาหมี่เดอ แม่ของ นายจังเบ จะนำเฮโรอีนจำนวนมากเตรียมส่งมอบให้นายทุน ที่ลานจอดรถโรงพยาบาลดังกล่าว จึงนำกำลังเข้าดักซุ่มเพื่อจับกุม

พล.ต.ต.อดิเทพ กล่าวต่อว่า เมื่อ นายจังเบ และนางอาหมี่เดอ เข้ามาที่โรงพยาบาลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวจับกุม พร้อมยึดเฮโรอีนได้อีกจำนวนมาก ทั้งนี้ นายจังเบ ให้การรับสารภาพ ว่า นายอาฟู อดีตทหารว้าแดง อยู่ที่ประเทศพม่า คอยสั่งให้ นายจังเบ นำยาเสพติดไปให้นายทุนจากภาคใต้ที่สั่งซื้อเพื่อเตรียมไปจำหน่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และบางส่วนจะส่งไปยังประเทศที่สาม ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของ นายจังเบ นั้น พบว่า บุคคลในครอบครัวมีประวัติถูกจับกุมคดียาเสพติดมาแล้ว 3 คน ประกอบด้วย นายนาคูลี ผู้เป็นพ่อ นางสาวอาหมี่มะ น้องสาว และ นายอาเบ ญาติ ซึ่งทั้งหมดถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำในภาคเหนือและจังหวัดอื่นๆ

พล.ต.ต.อดิเทพ กล่าวต่อว่า คดีที่สองเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.1 จับกุม นายมิเกล หรือ มิกูเอล (Mr.Miguel) สัญชาติไนจีเรีย หรือ นายคอนเด กาบา (Mr.Conde Kaba Guineenne) สัญชาติกีนี อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 64//2551 ลงวันที่ 12 พ.ค.2551 ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมด้วยของกลางยาบ้าโคเคน 2.5 กิโล โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้องพักเลขที่ 809 ภายในอพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อ เลขที่ 1/1 ตึก 2 ซอยรามคำแหง 32 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ หลังจากสืบทราบว่า มีกลุ่มชาวแอฟริกัน ผิวดำ และเครือข่ายยาเสพติดชาวต่างประเทศ นำโคเคนเข้ามาทางสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินภูเก็ต และการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจากประเทศกัมพูชา

พล.ต.ต.อดิเทพ กล่าวต่ออีกว่า เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนพบว่า นายมิเกล จะนำโคเคนเข้ามาจำหน่ายให้ชาวผิวดำใน กทม.ตามย่านต่างๆ เช่น อาร์ซีเอ ย่านประตูน้ำ สุขุมวิท รามคำแหง และบางส่วนส่งไปจำหน่ายตามเกาะท่องเที่ยวสำคัญทางภาคใต้ เช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน โดยใช้ภรรยาที่เป็นคนไทยคอยติดต่อกับลูกค้า จากนั้นก็จะจ้างหญิงชาวฟิลิปปินส์และชาวไทยซุกซ่อนยาโดยใช้วิธีกลืนลงท้อง เจ้าหน้าที่จึงล่อซื้อโคเคนจำนวน 1 กก.แต่ นายมิเกล นำติดตัวมาจำนวน 2.5 กก.

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังสืบทราบว่า นายมิเกล ได้พยายามว่าจ้างหญิงชาวฟิลิปปินส์ ผ่านนายหน้าชาวจีน จำนวน 3 ครั้ง และว่าจ้างหญิงไทยผ่านนายหน้าชาวไทย 1 ครั้ง ให้เดินทางนำโคเคนจากประเทศเปรู เข้ามาในไทย แต่ยังไม่สำเร็จ นายมิเกล ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวไทยและชาวลาวได้จำนวน 6 คน พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 35,000 เม็ด โดยลำเลียงยาบ้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาขายในประเทศไทยทางภาคเหนือในลักษณะกองทัพมด

จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้กล่าวขอบคุณการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยกันทำงานจนสามารถจับกุมยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งบอกด้วยว่า หากเจ้าหน้าที่มีปัญหาอะไรให้แจ้งมายังตนเองซึ่งเป็น ผอ.ศอ.ปส.ได้