อดีตที่ปรึกษา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร้องดีเอสไอให้ตรวจสอบนายทุนบุกรุกที่ดินบนเกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กว่า 100 ไร่ ชี้อาจจะมีการออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง
วันนี้ (22 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พล.ร.อ.เกาะหลัก เจริญรุกข์ ข้าราชการบำนาญ อดีตหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา กองทัพเรือและอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม สมัยนายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นรัฐมนตรี ได้มายื่นเอกสารข้อมูลและร้องเรียนต่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ตรวจสอบการบุกรุกและครอบครองที่ดินของกลุ่มผู้มีอิทธิพลและนายทุนครอบครองที่ดินบนเกาะทะลุ เนื้อที่กว่า 100 ไร่ ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าอาจจะมีเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง
พล.ร.อ.เกาะหลัก กล่าวว่า สมัยที่ตนดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ประมาณปี 2547 ได้ทราบว่ามีนายทุนเข้าไปครอบครองที่ดินบนเกาะทะลุ ทั้งที่บริเวณดังกล่าวมีสภาพเป็นหาดทรายสวยงาม ด้านบนเกาะเป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติ ตามกฎหมายไม่สามารถครอบครองได้ แต่ภายหลังการบุกรุกได้มีการอ้างเอกสารครอบครองที่ดิน เป็น ส.ค.1 และ น.ส.3 เพื่อใช้ประโยชน์และทำรีสอร์ทและที่พักอาศัย
พล.ร.อ.เกาะหลัก กล่าวต่อว่า ภายหลังทราบว่ามีกลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุกพื้นที่ดังกล่าว จึงได้ไปร้องเรียนที่อำเภอบางสะพานน้อย และทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จนมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ แต่ผลการตรวจสอบยืนยันว่าไม่ได้มีการบุกรุก วันนี้ตนจึงเดินทางมาร้องเรียนกับดีเอสไอเพื่อให้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว
“เมื่อเกิดลมพายุ หรือออกไปทำประมง ชาวบ้านเคยอาศัยเป็นที่พักพิง จอดเรือหลบพายุ เขาไม่ยอมให้เข้าไป เพราะฉะนั้นชาวบ้านก็ไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ ทั้งที่แผ่นดินตรงนี้เป็นที่สาธารณะ ที่ใครๆ ก็เป็นเจ้าของร่วมกัน ตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะเข้าไปดูแล” พล.ร.อ.เกาะหลัก กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ภายหลัง พล.ร.อ.เกาะหลัก ได้ยื่นเอกสารและข้อมูลต่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว ซึ่งท่านอธิบดีดีเอสไอได้รับเรื่องไว้ พร้อมมอบหมายให้ พ.ต.อ.อโณทัย บำรุงพงษ์ หัวหน้ากลุ่มงานที่ปรึกษากฎหมาย ตั้งคณะทำงานเพื่อเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป โดยขั้นตอนอาจจะต้องประสานกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย เพื่อพิสูจน์เอกสารการครอบครองที่ดินดังกล่าว หากพบว่ามีการละเมิดกฎหมาย หรือออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบก็จะเสนอให้มีการพิจารณาเพิกถอนต่อไป
วันนี้ (22 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พล.ร.อ.เกาะหลัก เจริญรุกข์ ข้าราชการบำนาญ อดีตหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา กองทัพเรือและอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม สมัยนายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นรัฐมนตรี ได้มายื่นเอกสารข้อมูลและร้องเรียนต่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อให้ตรวจสอบการบุกรุกและครอบครองที่ดินของกลุ่มผู้มีอิทธิพลและนายทุนครอบครองที่ดินบนเกาะทะลุ เนื้อที่กว่า 100 ไร่ ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าอาจจะมีเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง
พล.ร.อ.เกาะหลัก กล่าวว่า สมัยที่ตนดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ประมาณปี 2547 ได้ทราบว่ามีนายทุนเข้าไปครอบครองที่ดินบนเกาะทะลุ ทั้งที่บริเวณดังกล่าวมีสภาพเป็นหาดทรายสวยงาม ด้านบนเกาะเป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติ ตามกฎหมายไม่สามารถครอบครองได้ แต่ภายหลังการบุกรุกได้มีการอ้างเอกสารครอบครองที่ดิน เป็น ส.ค.1 และ น.ส.3 เพื่อใช้ประโยชน์และทำรีสอร์ทและที่พักอาศัย
พล.ร.อ.เกาะหลัก กล่าวต่อว่า ภายหลังทราบว่ามีกลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุกพื้นที่ดังกล่าว จึงได้ไปร้องเรียนที่อำเภอบางสะพานน้อย และทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จนมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ แต่ผลการตรวจสอบยืนยันว่าไม่ได้มีการบุกรุก วันนี้ตนจึงเดินทางมาร้องเรียนกับดีเอสไอเพื่อให้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว
“เมื่อเกิดลมพายุ หรือออกไปทำประมง ชาวบ้านเคยอาศัยเป็นที่พักพิง จอดเรือหลบพายุ เขาไม่ยอมให้เข้าไป เพราะฉะนั้นชาวบ้านก็ไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ ทั้งที่แผ่นดินตรงนี้เป็นที่สาธารณะ ที่ใครๆ ก็เป็นเจ้าของร่วมกัน ตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะเข้าไปดูแล” พล.ร.อ.เกาะหลัก กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ภายหลัง พล.ร.อ.เกาะหลัก ได้ยื่นเอกสารและข้อมูลต่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว ซึ่งท่านอธิบดีดีเอสไอได้รับเรื่องไว้ พร้อมมอบหมายให้ พ.ต.อ.อโณทัย บำรุงพงษ์ หัวหน้ากลุ่มงานที่ปรึกษากฎหมาย ตั้งคณะทำงานเพื่อเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป โดยขั้นตอนอาจจะต้องประสานกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย เพื่อพิสูจน์เอกสารการครอบครองที่ดินดังกล่าว หากพบว่ามีการละเมิดกฎหมาย หรือออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบก็จะเสนอให้มีการพิจารณาเพิกถอนต่อไป