สน.พระโขนง พร้อมตรวจคุ้มกันเข้มทั้งบริเวณบ้านและโดยรอบตลอด 24 ชม. หลังแม่ “น้องได๋” ถูกโจรมือดีบุกเข้ากระชากกระเป๋าได้ทรัพย์ไปกว่า 2 แสน ขณะที่แม่ดาราสาวยังผวา และเชื่อฝีมือโจรน่าจะเป็นลูกจ้างร้านแก๊สที่ถูกไล่ออกไปแล้ว หลังเข้ามาซ่อมแก๊สในบ้านแต่แอบถามเพื่อหาช่องก่อเหตุ ขณะที่ ผบก.น.5 เผย เตรียมเรียกช่างซ่อมแก๊สผู้ต้องสงสัยมาสอบสวน
วันนี้ (20 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.5 เรียกประชุมพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เพื่อรายงานความคืบหน้ากรณีติดตามจับกุมคนร้ายที่อาศัยจังหวะที่นางจันทร์เพ็ญ จงจินตนาการ อายุ 50 ปี แม่ของ น.ส.ไดอาน่า จงจิตนาการ หรือ “น้องได๋” กำลังเดินลงจากรถ ภายในบ้านเลขที่ 246-248 หมู่บ้านรังสิยา ซอยวชิรธรรมสาธิต 55 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. โดยคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 2 คน ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาจอดดักรอหน้าบ้าน และบุกเข้าไปในตัวบ้านแล้วก่อเหตุกระชากกระเป๋าสะพาย ซึ่งภายในบรรจุนาฬิกาโรเล็กซ์ แหวน และตุ้มหูเพชร กระเป๋าเงิน บัตรเครดิต และเอกสารสำคัญ มูลค่ารวมกว่า 2 แสนบาทไป นอกจากนั้นยังมีสมุดจดคิวงานของ “น้องได๋” ซึ่งบันทึกวันเวลาที่รับงานไว้ตลอดทั้งปีหายไปพร้อมกับกระเป๋าด้วย
อย่างไรก็ตาม เหตุวิ่งราวทรัพย์ แม่ของ น.ส.ไดอาน่า ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกประชุมซึ่งประกอบด้วย พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.สน.พระโขนง พ.ต.ท.ปัญญา ปริญญานุสรณ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.วีรชัย โพธิปัตชา รอง ผกก.ปป. ร.ต.ท.ณรงค์ แป้นปลื้ม รอง สว.สส.สน.พระโขนง ก่อนจะเดินทางไปสอบปากคำ น.ส.ไดอาน่า และนางจันทร์เพ็ญ แม่ของดาราสาวเพิ่มเติมอีกครั้ง แต่ดาราสาวออกจากบ้านไปทำงานแต่ตั้งเช้าแล้ว
นางจันทร์เพ็ญ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทุกคนในบ้านต่างหวาดกลัวว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาอีก เนื่องจากได้กุญแจ และรีโมตเปิดประตูอัลลอยบ้านไป ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนประตูใหม่เพราะยังติดต่อช่างไม่ได้ ต้องใช้โซ่คล้องล็อกกุญแจไปก่อน ส่วนประตูด้านในบ้านเปลี่ยนไปได้บางส่วนยังไม่ครบทั้งหมด โดยตอนกลางคืนต้องตรวจดูประตูและหน้าต่างปิดบ้านอย่างมิดชิด ที่สำคัญคือลูกสาวต้องเดินทางกลับถึงบ้านดึกเป็นประจำ จึงกลัวว่าคนร้ายจะมาดักรออยู่ ตนต้องสั่งกำชับว่าทุกครั้งก่อนกลับบ้านให้โทรศัพท์มาบอกก่อนว่าจะมาถึงบ้านตอนกี่โมง โดยตนกับคนในบ้านจะออกมาดูให้แน่ใจโดยจะมารอรับที่หน้าบ้าน
นางจันทร์เพ็ญ กล่าวด้วยว่า หลังจากคิดทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมา ตนสงสัยช่างที่มาซ่อมแก๊สรั่วที่บ้านมากที่สุด เพราะตอนที่มาซ่อมเจ้าของร้านแก๊สก็ไม่รู้เรื่อง และบอกว่าไล่ออกจากงานไปแล้วโดยเพิ่งมาทำงานได้เพียง 15 วัน เพราะมีพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจเวลาออกไปซ่อมแก๊สให้กับลูกค้าก็ไม่เคยบอกเจ้าของร้าน ช่วงที่มาซ่อมที่บ้านของตนช่างคนดังกล่าว ก็สอบถามกับแม่บ้านของตนว่า มีใครอยู่บ้านบ้าง มีผู้ชายกี่คน และไปทำงานกันตอนไหน ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องแก๊สรั่วเลย อีกทั้งยังเดินดูอะไรๆ ไปทั่วบ้านอย่างผิดสังเกต
“อย่างไรก็ตาม ได้ไปที่ร้านแก๊สเพื่อขอเอกสารสำเนาบัตรประชาชนช่างซ่อมแก๊สมาไว้เป็นข้อมูลด้วย และคิดว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุน่าจะรู้จักดิฉัน เพราะก่อนที่กระชากกระเป๋า คนร้ายผลักดิฉันแค่เบาๆ เหมือนรู้ว่าขาเรากำลังเจ็บอยู่ ซึ่งจังหวะช่วงนั้นเรายังร้องว่าไม่ต้องๆ เพราะคิดว่าลูกสาวมาช่วยถือกระเป๋า ทั้งที่คนร้ายน่าจะผลักเราให้ล้มลงก่อนแย่งเอากระเป๋าไป” นางจันทร์เพ็ญ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.สน.พระโขนง กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจมาตรวจสอบที่บ้านผู้เสียหายตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากนางจันทร์เพ็ญแจ้งให้ทราบว่า แก้ไขประตูอัลลอยด์และประตูด้านในบ้านยังไม่เสร็จ จึงเกรงว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาและเข้าไปในบ้านได้ พร้อมทั้งให้เบอร์โทรศัพท์ของ สวป.ไว้ติดต่อ หากมีเหตุเร่งด่วนก็โทร.ติดต่อได้ทันที หรือหากเป็นห่วงช่วงเวลาที่ลูกสาวกลับบ้านก็ให้เจ้าหน้าที่สายตรวจมารอที่หน้าบ้านได้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่สายตรวจอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุประจำอยุ่แล้ว
ขณะที่ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.5 กล่าวว่า ขณะนี้ได้รวบรวมรายละเอียด และเอกสารของทรัพย์สินของผู้เสียหาย ตรวจสอบที่โรงรับจำนำ ร้านทอง และร้านรับซื้อของเก่า เพื่อเป็นแนวทางติดตามตัวคนร้าย เนื่องจากผู้เสียหายจดจำรูปพรรณ และพาหนะคนร้ายไม่ได้ ก็ต้องหาพยานแวดล้อม กับ รปภ.หมู่บ้าน เพิ่มเติม เพราะหลังตรวจสอบหาโทรทัศน์วงจรปิดภายในซอยที่เกิดเหตุไม่มีบ้านไหนติดกล้องวงจรปิดเลย นอกจากนี้ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบบุคคลใกล้ชิด เช่น คนขับรถ 2 คน ที่ผู้เสียหายเคยจ้างและลาออกไปแล้ว รวมทั้งช่างซ่อมแก๊สที่ผู้เสียหายสงสัย ซึ่งทราบชื่อแล้วอยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวน
ตร.เร่งหาตัว 2 คนร้าย กระชากกระเป๋า “แม่น้องได๋”


วันนี้ (20 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.5 เรียกประชุมพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เพื่อรายงานความคืบหน้ากรณีติดตามจับกุมคนร้ายที่อาศัยจังหวะที่นางจันทร์เพ็ญ จงจินตนาการ อายุ 50 ปี แม่ของ น.ส.ไดอาน่า จงจิตนาการ หรือ “น้องได๋” กำลังเดินลงจากรถ ภายในบ้านเลขที่ 246-248 หมู่บ้านรังสิยา ซอยวชิรธรรมสาธิต 55 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. โดยคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 2 คน ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาจอดดักรอหน้าบ้าน และบุกเข้าไปในตัวบ้านแล้วก่อเหตุกระชากกระเป๋าสะพาย ซึ่งภายในบรรจุนาฬิกาโรเล็กซ์ แหวน และตุ้มหูเพชร กระเป๋าเงิน บัตรเครดิต และเอกสารสำคัญ มูลค่ารวมกว่า 2 แสนบาทไป นอกจากนั้นยังมีสมุดจดคิวงานของ “น้องได๋” ซึ่งบันทึกวันเวลาที่รับงานไว้ตลอดทั้งปีหายไปพร้อมกับกระเป๋าด้วย
อย่างไรก็ตาม เหตุวิ่งราวทรัพย์ แม่ของ น.ส.ไดอาน่า ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกประชุมซึ่งประกอบด้วย พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.สน.พระโขนง พ.ต.ท.ปัญญา ปริญญานุสรณ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.วีรชัย โพธิปัตชา รอง ผกก.ปป. ร.ต.ท.ณรงค์ แป้นปลื้ม รอง สว.สส.สน.พระโขนง ก่อนจะเดินทางไปสอบปากคำ น.ส.ไดอาน่า และนางจันทร์เพ็ญ แม่ของดาราสาวเพิ่มเติมอีกครั้ง แต่ดาราสาวออกจากบ้านไปทำงานแต่ตั้งเช้าแล้ว
นางจันทร์เพ็ญ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทุกคนในบ้านต่างหวาดกลัวว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาอีก เนื่องจากได้กุญแจ และรีโมตเปิดประตูอัลลอยบ้านไป ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนประตูใหม่เพราะยังติดต่อช่างไม่ได้ ต้องใช้โซ่คล้องล็อกกุญแจไปก่อน ส่วนประตูด้านในบ้านเปลี่ยนไปได้บางส่วนยังไม่ครบทั้งหมด โดยตอนกลางคืนต้องตรวจดูประตูและหน้าต่างปิดบ้านอย่างมิดชิด ที่สำคัญคือลูกสาวต้องเดินทางกลับถึงบ้านดึกเป็นประจำ จึงกลัวว่าคนร้ายจะมาดักรออยู่ ตนต้องสั่งกำชับว่าทุกครั้งก่อนกลับบ้านให้โทรศัพท์มาบอกก่อนว่าจะมาถึงบ้านตอนกี่โมง โดยตนกับคนในบ้านจะออกมาดูให้แน่ใจโดยจะมารอรับที่หน้าบ้าน
นางจันทร์เพ็ญ กล่าวด้วยว่า หลังจากคิดทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมา ตนสงสัยช่างที่มาซ่อมแก๊สรั่วที่บ้านมากที่สุด เพราะตอนที่มาซ่อมเจ้าของร้านแก๊สก็ไม่รู้เรื่อง และบอกว่าไล่ออกจากงานไปแล้วโดยเพิ่งมาทำงานได้เพียง 15 วัน เพราะมีพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจเวลาออกไปซ่อมแก๊สให้กับลูกค้าก็ไม่เคยบอกเจ้าของร้าน ช่วงที่มาซ่อมที่บ้านของตนช่างคนดังกล่าว ก็สอบถามกับแม่บ้านของตนว่า มีใครอยู่บ้านบ้าง มีผู้ชายกี่คน และไปทำงานกันตอนไหน ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องแก๊สรั่วเลย อีกทั้งยังเดินดูอะไรๆ ไปทั่วบ้านอย่างผิดสังเกต
“อย่างไรก็ตาม ได้ไปที่ร้านแก๊สเพื่อขอเอกสารสำเนาบัตรประชาชนช่างซ่อมแก๊สมาไว้เป็นข้อมูลด้วย และคิดว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุน่าจะรู้จักดิฉัน เพราะก่อนที่กระชากกระเป๋า คนร้ายผลักดิฉันแค่เบาๆ เหมือนรู้ว่าขาเรากำลังเจ็บอยู่ ซึ่งจังหวะช่วงนั้นเรายังร้องว่าไม่ต้องๆ เพราะคิดว่าลูกสาวมาช่วยถือกระเป๋า ทั้งที่คนร้ายน่าจะผลักเราให้ล้มลงก่อนแย่งเอากระเป๋าไป” นางจันทร์เพ็ญ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.สน.พระโขนง กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจมาตรวจสอบที่บ้านผู้เสียหายตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากนางจันทร์เพ็ญแจ้งให้ทราบว่า แก้ไขประตูอัลลอยด์และประตูด้านในบ้านยังไม่เสร็จ จึงเกรงว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาและเข้าไปในบ้านได้ พร้อมทั้งให้เบอร์โทรศัพท์ของ สวป.ไว้ติดต่อ หากมีเหตุเร่งด่วนก็โทร.ติดต่อได้ทันที หรือหากเป็นห่วงช่วงเวลาที่ลูกสาวกลับบ้านก็ให้เจ้าหน้าที่สายตรวจมารอที่หน้าบ้านได้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่สายตรวจอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุประจำอยุ่แล้ว
ขณะที่ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.5 กล่าวว่า ขณะนี้ได้รวบรวมรายละเอียด และเอกสารของทรัพย์สินของผู้เสียหาย ตรวจสอบที่โรงรับจำนำ ร้านทอง และร้านรับซื้อของเก่า เพื่อเป็นแนวทางติดตามตัวคนร้าย เนื่องจากผู้เสียหายจดจำรูปพรรณ และพาหนะคนร้ายไม่ได้ ก็ต้องหาพยานแวดล้อม กับ รปภ.หมู่บ้าน เพิ่มเติม เพราะหลังตรวจสอบหาโทรทัศน์วงจรปิดภายในซอยที่เกิดเหตุไม่มีบ้านไหนติดกล้องวงจรปิดเลย นอกจากนี้ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบบุคคลใกล้ชิด เช่น คนขับรถ 2 คน ที่ผู้เสียหายเคยจ้างและลาออกไปแล้ว รวมทั้งช่างซ่อมแก๊สที่ผู้เสียหายสงสัย ซึ่งทราบชื่อแล้วอยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวน
ตร.เร่งหาตัว 2 คนร้าย กระชากกระเป๋า “แม่น้องได๋”