xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เร่งหาตัว 2 คนร้าย กระชากกระเป๋า “แม่น้องได๋”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ได๋-ไดอาน่า จงจินตนาการ นางเอกและพิธีกรสาวหมวย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ดาราสาว “น้องได๋” ไดอาน่า เผยนาทีระทึกคนร้ายบุกเข้าบ้านกลางดึก กระชากกระเป๋าถือจากมารดา ขณะเปิดประตูลงจากรถ ได้ทรัพย์สินทั้ง นาฬิกาโรเล็กซ์ แหวน ตุ้มหูเพชร กระเป๋าเงิน บัตรเครดิต รวมมูลค่ากว่า 2 แสน พร้อมสมุดคิวงาน ก่อนขึ้น จยย.ซิ่งหนีลอยนวล ตำรวจเชื่อคนร้ายเฝ้าจับตาดูอยู่หลายวัน จนรู้เวลาเข้าออกคนในบ้านก่อนลงมือก่อเหตุ

วันนี้(19 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ร.ต.ท.ณรงค์ แป้นปลื้ม รอง สว.สส.สน.พระโขนง เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 246-248 หมู่บ้านรังสิยา ซอยวชิรธรรมสาธิต 55 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.ซึ่งเป็นบ้านพักของ น.ส.ไดอาน่า จงจิตนาการ หรือ “น้องได๋” อายุ 26 ปี นักแสดงและพิธีการชื่อดัง เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมในกรณี เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา นางจันทร์เพ็ญ จงจินตนาการอายุ 50 ปี แม่ของ “น้องได๋” ถูกคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 2 คน ซ้อนท้ายรถ จยย.มาจอดดักรอหน้าบ้าน ก่อนอาศัยจังหวะที่นางจันทร์เพ็ญ กำลังเดินลงจากรถ บุกเข้าไปในตัวบ้านเพื่อก่อเหตุลักทรัพย์กระเป๋าสะพายภายในบรรจุ นาฬิกาโรเล็กซ์ แหวนและตุ้มหูเพชร กระเป๋าเงิน บัตรเครดิต และเอกสารสำคัญ มูลค่ารวมกว่า 2 แสนบาทไป นอกจากนั้นสมุดจดคิวงานของ “น้องได๋”ซึ่งบันทึกวันเวลาที่รับงานไว้ตลอดทั้งปียังหายไปพร้อมกับกระเป๋าอีกด้วย

เมื่อเดินทางไปถึงบ้านดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกอยู่ในรั้วรอบขอบชิด บนพื้นที่กว่า 200 ตารางวา พบว่า “น้องได๋” และ นางจินตนา กำลังรอพร้อมให้ปากคำอยู่แล้ว จากการสอบสวนน้องได๋ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถเก๋งวอลโว่ รุ่น เอส 80 ทะเบียนป้ายแดง จ – 5331 กทม.ออกจากบ้านไปที่โรงแรมพลาซ่าแอทธินี ถนนวิทยุ พร้อมกับคุณแม่ เพราะตนรับงานเอาไว้โดยพาคุณแม่ไปจัดการเรื่องยอดเงินในบัญชีกับออกาไนซ์ด้วย หลังเสร็จธุระจึงได้ขับรถพากันกลับมาถึงบ้านเวลาประมาณ 23.00 น.จากนั้นตนก็กดรีโมตเปิดประตู เพื่อนำรถขับเข้ามาจอดภายในลานจอดรถข้างบ้าน ขณะที่คุณแม่ซึ่งมีอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุขับรถไปชนกับแท็กซี่บนทางด่วนเมื่อหลายเดือนก่อน ก็ได้เปิดประตูรถถือไม้ค้ำยันค่อยๆพยุงตัวเองเดินเข้าไปในตัวบ้าน ส่วนตนก็กำลังง่วนอยู่กับการเก็บข้าวของในรถโดยยังไม่ได้กดรีโมตปิดประตูบ้านแต่อย่างใด

น้องได๋ ให้การต่อไปว่า ขณะนั้นได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน ขับรถ จยย.ไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น และหมายเลขทะเบียน ซ้อนท้ายกันมาจอดที่บริเวณหน้าบ้าน จากนั้นคนซ้อนท้ายซึ่งมีรูปร่างผอมสูง ผิวคล้ำ ใส่กางเกงยีนสีซีด ได้ลงจากรถเดินเข้ามาในบ้านแล้วผลักแม่ตนจนล้มลง ก่อนที่จะกระชากกระเป๋าสะพายวิ่งขึ้นรถซึ่งคนร้ายอีกคนจอดติดเครื่องรออยู่แล้วพากันเร่งเครื่องหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยตนจดจำรูปพรรณของคนขับได้เพียงแค่เป็นชายสวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบเท่านั้น หลังเกิดเหตุคุณพ่อ และพี่ชายได้ยินเสียงเอะอะจึงวิ่งออกมาดู และรีบนำรถเก๋งขับติดตามคนร้ายออกไป ซึ่งระหว่างนั้นตนก็พยายามโทรศัพท์แจ้งตำรวจที่เบอร์ 191 แต่ปรากฏว่าคู่สายไม่ว่างเลยจึงทำให้คนร้ายหลบหนีไปได้อย่างลอยนวล

น้องได๋ กล่าวต่ออีกว่า หลังเกิดเหตุตนรู้สึกแปลกใจมากเพราะว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมามีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นคือ บ้านตนมีปัญหาเรื่องแก๊สรั่ว คุณแม่จึงได้โทรศัพท์ไปที่ร้านให้ส่งช่างมาซ่อม โดยช่วงที่ช่างมาที่บ้านนั้นมีเพียงแม่บ้านอยู่เพียงลำพัง และช่างก็ไม่ได้ลงมือซ่อมแก๊สแต่อย่างใดกลับทำทีหลอกถามความเคลื่อนไหวของคนในบ้าน เช่นอยู่กันกี่คน มีผู้ชายอยู่ด้วยไหม ช่วงกลางวันทุกคนออกไปทำงานหรือเปล่า แล้วเดินทางกลับไป ก่อนจะย้อนเข้ามาใหม่อีกครั้งเพื่อถามคำถามเดิมๆ และเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาขณะที่ตนขับรถกลับมาถึงหน้าบ้าน ก็พบชายขับรถ จยย.มาจอดอยู่ แล้วก็ส่งยิ้มให้ ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเจอคนยิ้มให้ทุกวันอยู่แล้วจึงยิ้มตอบไปด้วยความที่เราเป็นคนของประชาชน หลังจากนี้ตนกลัวว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาอีกจึงกำลังคิดอยู่ว่าจะจ้าง รปภ.มาเฝ้าหน้าบ้านหรืออาจจะไปหากล้องวงจรปิดมาติดรอบๆ ตัวบ้านเลยเพื่อป้องกันเหตุ

“สำหรับรถวอลโว่ คันดังกล่าวซึ่งตนเพิ่งจะซื้อมาใหม่หมายเลขทะเบียนป้ายแดง เคยให้โชคทีมงานที่กองถ่ายจนถูกหวยกันทั้งกอง แต่ตนไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมถึงได้รับเคราะห์อยู่เพียงคนเดียว ช่วงนี้ตนเพิ่งขับรถไปทำงานเองได้เพียง 4-5 วัน เท่านั้นเนื่องจากคนขับรถเพิ่งจะลาออกไป และปกติก็จะไม่ค่อยพาคุยแม่ไปไหนมาไหนด้วย ซึ่งตนคาดว่าคนร้ายน่าจะมาซุ่มสังเกตพฤติกรรมของตนมานานแล้วเนื่องจากตนจะกลับมาถึงบ้านเวลานี้แทบทุกวัน ที่สำคัญคิดว่าต้องการจะลงมือกับตนมากกว่า แต่พอเห็นคุณแม่เดินลงจากรถและถือกระเป๋าสะพายอยู่ ประกอบกับคุณแม่กำลังได้รับบาดเจ็บที่ขาจึงทำให้ต้องมารับเคราะห์แทนตน น่าโมโหมากที่เบอร์ 191 โทรไม่ติดเลยและเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนไปทำธุรกรรมที่ธนาคาร ก็ยังมีชาวบ้านที่รู้ข่าวเข้ามาเตือนว่า ให้ระวังไว้เพราะในละแวกนี้มีโจรวิ่งราวชิงทรัพย์กันบ่อยครั้ง เฉลี่ยแล้วมีผู้เสียหายถูกกระชากกระเป๋ากันวันเว้นวันเลยทีเดียว” น้องได๋ กล่าวด้วยอาการสลด

ด้าน ร.ต.ท.ณรงค์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นตนจะประสานตามห้างร้าน และบ้านพักในละแวกใกล้เคียงเพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่าสามารถบันทึกภาพคนร้ายเอาไว้ได้บ้างหรือไม่ รวมถึงจะตามหาพยานแวดล้อมซึ่งอาจมีใครพบเห็นคนร้ายมาซุ่มอยู่ก่อนก่อเหตุ ส่วนเรื่องทรัพย์สินที่หายไปขณะนี้ตนได้ขอหมายเลขซีรี่ย์นัมเบอร์ของนาฬิกาโรเล็กซ์ และใบอินวอยซ์ของแหวนเพชรจากผู้เสียหาย เพื่อนำไปตรวจเช็คตามโรงรับจำนำ และในตลาดมืดอย่างเร่งด่วนแล้ว

มีรายงานว่าหลังเกิดเหตุนางจินตนา และ “น้องได๋” ได้พากันเดินทางไปที่ร้านแก๊ส เพื่อถามหาตัวช่างซ่อม ที่ย้อนเข้าไปในบ้านถึง 2 ครั้ง แต่ทางเจ้าของร้านตอบกลับมาว่า ได้ไล่ช่างคนดังกล่าวทราบชื่อคือนายยุทธภูมิ จันทร์ศรี อายุ 20 ปี ออกจากงานไปเเล้ว เพราะมีลูกค้าโทรมาร้องเรียนเรื่องพฤติกรรมอยู่บ่อยๆ ว่าเจ้าตัวชอบเข้าไปในบ้านโดยที่เจ้าของบ้านไม่ได้โทรสั่งกับทางร้าน อย่างไรก็ตามฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง ได้นำสำเนาบัตรประชาชนของผู้ต้องสงสัยรายนี้ไปทำการตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

น้องได๋-ไดอาน่า ชี้ให้ดูจุดเกิดเหตุ
บริเวณที่เกิดเหตุคนร้ายวิ่งราวกระเป๋าได้ทรัพย์สินไปจำนวนมาก
ได๋-ไดอาน่า จงจินตนาการ พร้อมด้วยนางจันทร์เพ็ญ จงจินตนาการ มารดา ร้องทุกข์กับสื่อฯที่ไปรอทำข่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น