“บรรหาร” ส่ง “กมล จิรพัฒน์วานิช” เบิกความชั้นไต่สวนคดีฟ้องหมิ่น “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” กล่าวหาเป็นหลงจู๊ทางการเมือง ศาลนัดฟังคำสั่งรับฟ้องหรือไม่ 30 พ.ค.นี้
ที่ศาลอาญา เวลา 09.30 น.วันที่ 16 พ.ค. ศาลได้ทำการไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ในคดีที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย มอบอำนาจให้นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีเมื่อวันที่ 18 และ20 ม.ค.51นายชูวิทย์ แถลงข่าวบริเวณหน้าที่ทำการพรรคชาติไทย เกี่ยวกับการตัดสินใจร่วมรัฐบาล และวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับฉายา “หลงจู๊” ของนายบรรหาร
โดยในวันนี้ทนายโจทก์ นำนายกมล จิรพัฒน์วานิช ส.ส.พรรคชาติไทย จ.ลพบุรี และ กรรมการบริหารพรรคชาติไทย ขึ้นเบิกความสรุปว่า ในการแถลงข่าวของจำเลยได้พูดถึงโจทก์ว่าเป็น “หลงจู๊” ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้บุคคลทั่วไปที่ได้ฟังเข้าใจความหมายคำว่า”หลงจู๊”ในทำนองว่า เป็นผู้ที่มีจิตใจคับแคบ เห็นแก่ตัว ซึ่งไม่เป็นความจริง ทั้งนี้เพราะในการบริหารงานภายในพรรคชาติไทย โจทก์ได้ให้ทุกคนมีอิสระในการทำงาน
ขณะที่ ทนายความจำเลยถามค้านว่า โจทก์ เคยให้สัมภาษณ์ กับสื่อมวลชน ช่วงก่อนการเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค. 50ว่าจะไม่เข้าร่วมกับพรรคพลังประชาชนในการจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ นายกมลกล่าวว่าโจทก์เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อในทำนองว่าจะไม่เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนจริง ต่อมาโจทก์ไม่สบาย เข้าโรงพยาบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนได้เดินทางไปพบและขอให้พรรคชาติไทยเข้าร่วมรัฐบาล นอกจากนี้ฝ่ายทนายความโจทก์ยังได้นำพยานอีกจำนวน 2 ปาก คือเจ้าหน้าที่ประสานงานสื่อมวลชน ของพรรคชาติไทย และนายจารุเดช เกษมวงค์ อาชีพขี่จักรยานยนต์รับจ้าง บริเวณด้านหลังพรรคชาติไทยเข้าเบิกความด้วย จนแล้วเสร็จ ศาลจึงนัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องคดีไว้พิจารณาหรือไม่ ในวันที่ 30 พ.ค. นี้ เวลา 09.30 น.
ด้าน นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนไม่อยากพูดอะไรมาก ขอให้รอฟังคำสั่งของศาลก่อน เมื่อถามว่าจะมีโอกาสไปเจอหรือพูดคุยกับนายบรรหาร ศิลปอาชาหรือไม่นายชูวิทย์กล่าวว่าตนเป็นผู้น้อย ก็ต้องเข้าหาผู้ใหญ่ และคงจะหาเวลาไปพูดคุย เพราะยังเคารพนายบรรหารอยู่เหมือนเดิม ซึ่งอาจจะเป็นหลังวันที่ 30 พ.ค.นี้
“เติ้ง” รับไม่ได้ถูกด่าหลงจู๊ไร้สัจจะ! ฟ้อง “ชูวิทย์” หมิ่นฯ