กรมคุ้มครองสิทธิฯ ส่ง จนท.แจ้งสิทธิรับค่าตอบแทนแก่ญาติเหยื่อที่ถูกไอ้โหดฆ่าและทำร้ายสาหัสในร้านเสริมสวยย่านประเวศ ระบุคนตายจะได้รับชดเชยไม่เกินแสน ขณะที่เหยื่อสาว ม.มหิดล เสริมดั้งกับคลินิกโหดต้องรอผลพิสูจน์ความจริงก่อน แต่พร้อมจัดหาทนายความสู้คดีหากญาติเหยื่อร้องขอ
วันนี้ (8 พ.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์คนร้ายจ้วงแทงลูกค้าในร้านเสริมสวย และเจ้าของร้าน พร้อมลูกสาววัย 7 ขวบได้รับบาดเจ็บสาหัส ในร้านเสริมสวยซอยสุภาพงษ์ แถวเขตประเวศว่า ในวันนี้ (8 พ.ค.) เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพได้เดินทางไปพบญาติของผู้เสียชีวิต รวมทั้งผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อแจ้งสิทธิในการยื่นขอรับเงินค่าตอบแทนผู้เสียหายค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา จากสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญากรมคุ้มครองสิทธิฯ
นางสุวณา กล่าวอีกว่า หลังจากได้รับคำร้องจากทางญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บแล้วจะนำมาเข้าคณะกรรมการพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนฯ โดยฝ่ายผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งรวมค่าทำศพและค่ารักษาพยาบาล ส่วนผู้บาดเจ็บก็จะได้รับลดหลั่นลงมาซึ่งต้องขึ้นกับคณะกรรมการพิจารณา
ส่วนกรณีเหตุการณ์ของ น.ส.ชไมภรณ์ แก้วเชื้อ อายุ 19 ปี นศ.ปี 1 ม.มหิดล ซึ่งป่วยอาการโคม่าหลังทำศัลยกรรมเสริมจมูกที่คลินิกแห่งหนึ่งนั้น นางสุวณา กล่าวว่า เหตุการณ์ของ น.ส.ชไมภรณ์เพิ่งเกิดขึ้น และเรื่องก็ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนให้ชัดเจนก่อนว่ามีสาเหตุมาจากอะไร จากความบกพร่องของคลินิกหรือไม่ ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิฯ จะยังไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในตอนนี้ แต่จะติดตามข่าวสารตลอด
ทั้งนี้ หากหลังการสอบสวนทางญาติของ น.ส.ชไมภรณ์ เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถยื่นเรื่องมายังกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพได้ เมื่อรับเรื่องแล้วจะส่งเรื่องไปยังแพทยสภาช่วยพิจารณาอีกทางหนึ่ง และหากทางญาติต้องการทนายความ ทางกรมคุ้มครองสิทธิฯ จะจัดหาให้ ขณะนี้ต้องรอการพิสูจน์ให้แน่ชัดเจนก่อน
วันนี้ (8 พ.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์คนร้ายจ้วงแทงลูกค้าในร้านเสริมสวย และเจ้าของร้าน พร้อมลูกสาววัย 7 ขวบได้รับบาดเจ็บสาหัส ในร้านเสริมสวยซอยสุภาพงษ์ แถวเขตประเวศว่า ในวันนี้ (8 พ.ค.) เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพได้เดินทางไปพบญาติของผู้เสียชีวิต รวมทั้งผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อแจ้งสิทธิในการยื่นขอรับเงินค่าตอบแทนผู้เสียหายค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา จากสำนักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญากรมคุ้มครองสิทธิฯ
นางสุวณา กล่าวอีกว่า หลังจากได้รับคำร้องจากทางญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บแล้วจะนำมาเข้าคณะกรรมการพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนฯ โดยฝ่ายผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินชดเชยไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งรวมค่าทำศพและค่ารักษาพยาบาล ส่วนผู้บาดเจ็บก็จะได้รับลดหลั่นลงมาซึ่งต้องขึ้นกับคณะกรรมการพิจารณา
ส่วนกรณีเหตุการณ์ของ น.ส.ชไมภรณ์ แก้วเชื้อ อายุ 19 ปี นศ.ปี 1 ม.มหิดล ซึ่งป่วยอาการโคม่าหลังทำศัลยกรรมเสริมจมูกที่คลินิกแห่งหนึ่งนั้น นางสุวณา กล่าวว่า เหตุการณ์ของ น.ส.ชไมภรณ์เพิ่งเกิดขึ้น และเรื่องก็ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนให้ชัดเจนก่อนว่ามีสาเหตุมาจากอะไร จากความบกพร่องของคลินิกหรือไม่ ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิฯ จะยังไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในตอนนี้ แต่จะติดตามข่าวสารตลอด
ทั้งนี้ หากหลังการสอบสวนทางญาติของ น.ส.ชไมภรณ์ เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถยื่นเรื่องมายังกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพได้ เมื่อรับเรื่องแล้วจะส่งเรื่องไปยังแพทยสภาช่วยพิจารณาอีกทางหนึ่ง และหากทางญาติต้องการทนายความ ทางกรมคุ้มครองสิทธิฯ จะจัดหาให้ ขณะนี้ต้องรอการพิสูจน์ให้แน่ชัดเจนก่อน