ตำรวจภูธรภาค1 แถลงจับ 2ใน6คนร้ายก่อเหตุฆ่ายาม และขโมยแผ่นเหล็กในสนามบินสุวรรณภูมิได้แล้ว สารภาพวางแผนแอบเข้าไปขโมยของแต่ยามมาเห็นลงมือทำร้ายหวังปิดปาก ได้ส่วนแบ่งแค่คนละ 9 พัน
วันนี้(6 พ.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่สภ.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง.ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ราชาเทวะ ได้แถลงข่าวการติดตามจับกุมตัว คือ นายคมสันต์ พูวงษี อายุ 36 ปีอยู่บ้านเลขที่ 85 ม.1 ต.ผักขวง อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ และนาย ณรงค์ ยารวง อายุ 35 ปีอยู่บ้านเลขที่ 5 ม.5 ต.หน้าประดู่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านรับซื้อของเก่า 2 คนร้ายจากทั้งหมด 6 คนที่บุกเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของบริษัท ไออาร์ซีซี ไชน่า จำกัด ซึ่งรับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินภายในสนามบินสุวรรณภูมิ จนเสียชีวิต 2 รายเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 51 เวลา 04.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมของกลางท่อนรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 75-5602 กทม ไม้เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8 ซม ยาวประมาณ 1 เมตร 1 ท่อน แผ่นเหล็กโลหะขนาดกว้าง 1.5 เมตร ยาวประมาณ 6 เมตร หนา 2 ซม 1 แผ่น โดยกล่าวหาว่าร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 5 คนได้ออกหมายจับแล้วคือ 1.นาย ศิริวัฒน์ วงษ์หราบ อายุ 31 ปีอยู่บ้านเลขที่ 34 ม.10 ต.ย่านยาว อ.เมือง จ.พิจิตร 2.นาย ชุน วงษ์บำหราบ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/1 ม.7 ต.สีสุก อ.แก้งสนามหลวง จ.นครราชสีมา 3.นายจรัญ แซ่ตั้ง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.5 ต.กุดเลาะ อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ 4.นายรุ่ง ไม่ทราบอายุ เป็นชาว จ.หนองบัวลำภู 5. นายวีระศักดิ์ วังพา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ม.2 ต.ชำยาง อ.ศรีชมภู จ.ขอนแก่น
จากการสอบสวนนาย คมสันต์ ซึ่งเป็นคนงานในบริษัทเดียวกับผู้ตายให้การว่าวันเกิดเหตุตนเองเป็นคนขับรถเครนคันที่ใช้เข้าไปยกแผ่นเหล็กมาจอดรออยู่ที่ริมถนนทางเข้าสนามบินโดยกลุ่มผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ได้ขับรถกระบะนิสสัน สีบรอนทอง ทะเบียน บท-1107 พระนครศรีอยุธยา เข้าไปดูลาดเลาในแคมป์งานจนกระทั่งสบโอกาสจึงเข้าไปลักแผ่นเหล็กแต่ ยามมาเห็นจึงได้ลงมือรุมตีทำร้ายยาม จนเสียชีวิตแล้วจึงโทรศัพท์มาบอกให้ตนนำรถเข้าไปยกแผ่นเหล็กก่อนที่จะนำไปขายให้นายณรงค์ ยารวง ที่เป็นเจ้าของร้านรับซื้อของเก่าที่ อ.พานทองในราคา 26,500 บาทโดยตนเองได้รับเงินส่วนแบ่งมา 9 พันบาท แล้วนำรถไปจอดทิ้งไว้ที่ปั้มน้ำมันเอสโซ่ ใน อ.พานทอง ก่อนที่จะเหมารถแท็กซี่มาที่ไซด์งานเพื่อทำงานตามปกติจนถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว
วันนี้(6 พ.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่สภ.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง.ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ราชาเทวะ ได้แถลงข่าวการติดตามจับกุมตัว คือ นายคมสันต์ พูวงษี อายุ 36 ปีอยู่บ้านเลขที่ 85 ม.1 ต.ผักขวง อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ และนาย ณรงค์ ยารวง อายุ 35 ปีอยู่บ้านเลขที่ 5 ม.5 ต.หน้าประดู่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านรับซื้อของเก่า 2 คนร้ายจากทั้งหมด 6 คนที่บุกเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของบริษัท ไออาร์ซีซี ไชน่า จำกัด ซึ่งรับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินภายในสนามบินสุวรรณภูมิ จนเสียชีวิต 2 รายเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 51 เวลา 04.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมของกลางท่อนรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 75-5602 กทม ไม้เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8 ซม ยาวประมาณ 1 เมตร 1 ท่อน แผ่นเหล็กโลหะขนาดกว้าง 1.5 เมตร ยาวประมาณ 6 เมตร หนา 2 ซม 1 แผ่น โดยกล่าวหาว่าร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 5 คนได้ออกหมายจับแล้วคือ 1.นาย ศิริวัฒน์ วงษ์หราบ อายุ 31 ปีอยู่บ้านเลขที่ 34 ม.10 ต.ย่านยาว อ.เมือง จ.พิจิตร 2.นาย ชุน วงษ์บำหราบ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/1 ม.7 ต.สีสุก อ.แก้งสนามหลวง จ.นครราชสีมา 3.นายจรัญ แซ่ตั้ง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.5 ต.กุดเลาะ อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ 4.นายรุ่ง ไม่ทราบอายุ เป็นชาว จ.หนองบัวลำภู 5. นายวีระศักดิ์ วังพา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ม.2 ต.ชำยาง อ.ศรีชมภู จ.ขอนแก่น
จากการสอบสวนนาย คมสันต์ ซึ่งเป็นคนงานในบริษัทเดียวกับผู้ตายให้การว่าวันเกิดเหตุตนเองเป็นคนขับรถเครนคันที่ใช้เข้าไปยกแผ่นเหล็กมาจอดรออยู่ที่ริมถนนทางเข้าสนามบินโดยกลุ่มผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ได้ขับรถกระบะนิสสัน สีบรอนทอง ทะเบียน บท-1107 พระนครศรีอยุธยา เข้าไปดูลาดเลาในแคมป์งานจนกระทั่งสบโอกาสจึงเข้าไปลักแผ่นเหล็กแต่ ยามมาเห็นจึงได้ลงมือรุมตีทำร้ายยาม จนเสียชีวิตแล้วจึงโทรศัพท์มาบอกให้ตนนำรถเข้าไปยกแผ่นเหล็กก่อนที่จะนำไปขายให้นายณรงค์ ยารวง ที่เป็นเจ้าของร้านรับซื้อของเก่าที่ อ.พานทองในราคา 26,500 บาทโดยตนเองได้รับเงินส่วนแบ่งมา 9 พันบาท แล้วนำรถไปจอดทิ้งไว้ที่ปั้มน้ำมันเอสโซ่ ใน อ.พานทอง ก่อนที่จะเหมารถแท็กซี่มาที่ไซด์งานเพื่อทำงานตามปกติจนถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว