เจ้าของร้านอาหาร “ไทยมาลิน” ในสนามบินสุวรรณภูมิ ร้องกองปราบเกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์เกือบ 10 คน บุกรุก ทำลายทรัพย์สิน ภายในร้านอาหารดังกล่าว หลังมีข้อพิพาทกับเรื่องสัญญาเช่าพื้นที่กับบริษัทคู่สัญญา เจ้าของร้านตั้งข้อสังเกต สนามบินสุวรรณภูมิ มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดที่สุด ทำไมถึงปล่อยให้มีชายฉกรรจ์เข้ามารื้อทำลายทรัพย์สินได้
วันนี้ (29 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่ กองบังคับการปราบปราม น.ส.ภควรรณ ฉลองตระกูล อายุ 44 ปี ตัวแทน บริษัท พรีเมียร์ คลับ จำกัด เจ้าของร้านอาหาร “ไทยมาลิน” ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เช่าพื้นที่บริเวณชอปปิ้งอาเขต ภายในศูนย์ขนส่งสาธารณะสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ บัสเทอร์มินอล เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.สุวัฒน์ อินทสิทธิ์ ผกก.ผป.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มชายฉกรรจ์เกือบ 10 คน ที่บุกรุก และทำลายทรัพย์สิน ภายในร้านอาหารดังกล่าว หลังมีปัญหาเรื่องสัญญาเช่าพื้นที่กับ บริษัท สุวรรณภูมิ รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ SRD โดยที่ก่อนหน้านี้ ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ แต่เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และคดีไม่มีความคืบหน้า
น.ส.ภควรรณ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่จาก บริษัท สุวรรณภูมิ รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ (SRD) เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2549 หลังจากทราบจากโฆษณาให้เช่าพื้นที่บริเวณชอปปิ้งอาเขต ในศูนย์ขนส่งสาธารณะสนามบินสุวรรณภูมิ ในอัตรา 5,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งตนสนใจที่จะเปิดเป็นร้านอาหารจึงตกลงเช่าพื้นที่รวม 149.5 ตารางเมตร เป็นเงิน 747,500 บาทต่อเดือน และดำเนินการก่อสร้างจนเปิดร้านอาหารครั้งแรก เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2549
น.ส.ภควรรณ กล่าวต่อว่า ต่อมาเมื่อช่วงเดือน พ.ค.2550 ทราบข่าวมาว่า บริษัท SRD มีปัญหาฟ้องร้องกับ บริษัท สุวรรณภูมิ ทรานส์ เซอร์วิส จำกัด หรือ SVT ซึ่งต่างฝ่ายต่างอ้างถึงกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ที่เช่าจาก การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) ทำให้เกิดความสับสน และไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าบริษัทใดเป็นผู้มีสิทธิ์ในพื้นที่ จึงหยุดการชำระค่าเช่าให้กับบริษัท SRD ตั้งแต่เดือน พ.ค.ถึงเดือน ก.ย.2550 หลังจากนั้น ทางบริษัท SRD ได้ทำหนังสือพร้อมสำเนาคำพิพากษาฟ้องตนกรณีผิดสัญญาเช่า พร้อมกับเรียกค่าเสียหาย และขับไล่
น.ส.ภควรรณ กล่าวต่อว่า เมื่อเดือน พ.ย.2550 จึงได้ทำสัญญาประนีประนอมกับ บริษัท SRD ที่ศาลจังหวัดพระโขนง โดยบริษัท SRD ได้ให้คำมั่นว่าจะเปิดศูนย์ชอปปิ้งอาเขต ตามคำโฆษณาให้ผู้ที่สนใจเช่าพื้นที่ ตนจึงยอมจ่ายค่าเช่าพื้นที่ต่อ แต่ต่อมาศูนย์ก็ยังไม่มีการเปิด และยังให้ผู้ค้ารายย่อยมาเปิดร้าน ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ตนจึงขอเจรจาเปลี่ยนแปลงผลตอบแทนโดยลดค่าเช่าจากเดือนละ 747,500 บาทต่อเดือน เหลือเดือนละ 373,750 บาท และทำจดหมายขอเลื่อนการชำระค่าเช่าเดือน เม.ย.ออกไปก่อน
น.ส.ภควรรณ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น วันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางร้านถูกตัดไฟฟ้า เมื่อสอบถามทางบริษัท SRD ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง จึงประสานขอใช้ฟ้าจาก ทอท.เนื่องจากเกรงว่าอาหารสดจำนวนมากที่เก็บแช่ไว้ในตู้เย็นจะได้รับความเสียหาย แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ จนเมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา มีชายฉกรรจ์ประมาณ 7-8 คน มาข่มขู่ลูกน้องที่เฝ้าร้าน ให้เซ็นสัญญาบางอย่าง แต่ลูกน้องได้โทรศัพท์มาบอก จึงบอกให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ ต่อมาช่วงกลางดึกวันที่ 27 เมษายน ได้ถูกชายฉกรรจ์ทุบผนังร้านจนพังเสียหาย และนำโซ่มาคล้องล็อกประตูร้านจากด้านใน ทำให้ไม่สามารถเข้าไปค้าขายภายในร้านได้อีก
“การกระทำของกลุ่มชายฉกรรจ์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการทำกันเกินกว่าเหตุ คดีที่เกิดขึ้นระหว่างดิฉันกับบริษัท SRD แม้จะมีการบังคับคดีก็ต้องมีหมายศาลมา ไม่ใช่ใช้อำนาจเถื่อนบุกมาทำลายทรัพย์สิน และที่สำคัญ คือ พื้นที่ทั้งหมดอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ซึ่งมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดที่สุด ตนก็ไม่ทราบว่าปล่อยให้มีชายฉกรรจ์เข้ามารื้อทำลายทรัพย์สินเช่นนี้ได้อย่างไร หากเรื่องนี้เผยแพร่ไปทั่วโลก ประเทศไทยจะได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียงแค่ไหน จึงอยากให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามช่วยติดตามดำเนินคดีกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย” น.ส.ภควรรณ กล่าว
เบื้องต้น พ.ต.อ.สุวัฒน์ ได้สั่งการให้ ร.ต.ต.ณรงค์ชัย เอกฉันท์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) กองบังคับการปราบปราม สอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับรวบรวมเอกสารสัญญาเช่า และนิติกรรมต่างๆ ไว้ ก่อนที่จะพิจารณาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (29 เม.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่ กองบังคับการปราบปราม น.ส.ภควรรณ ฉลองตระกูล อายุ 44 ปี ตัวแทน บริษัท พรีเมียร์ คลับ จำกัด เจ้าของร้านอาหาร “ไทยมาลิน” ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เช่าพื้นที่บริเวณชอปปิ้งอาเขต ภายในศูนย์ขนส่งสาธารณะสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ บัสเทอร์มินอล เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.สุวัฒน์ อินทสิทธิ์ ผกก.ผป.1 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มชายฉกรรจ์เกือบ 10 คน ที่บุกรุก และทำลายทรัพย์สิน ภายในร้านอาหารดังกล่าว หลังมีปัญหาเรื่องสัญญาเช่าพื้นที่กับ บริษัท สุวรรณภูมิ รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ SRD โดยที่ก่อนหน้านี้ ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ แต่เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และคดีไม่มีความคืบหน้า
น.ส.ภควรรณ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่จาก บริษัท สุวรรณภูมิ รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ (SRD) เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2549 หลังจากทราบจากโฆษณาให้เช่าพื้นที่บริเวณชอปปิ้งอาเขต ในศูนย์ขนส่งสาธารณะสนามบินสุวรรณภูมิ ในอัตรา 5,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งตนสนใจที่จะเปิดเป็นร้านอาหารจึงตกลงเช่าพื้นที่รวม 149.5 ตารางเมตร เป็นเงิน 747,500 บาทต่อเดือน และดำเนินการก่อสร้างจนเปิดร้านอาหารครั้งแรก เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2549
น.ส.ภควรรณ กล่าวต่อว่า ต่อมาเมื่อช่วงเดือน พ.ค.2550 ทราบข่าวมาว่า บริษัท SRD มีปัญหาฟ้องร้องกับ บริษัท สุวรรณภูมิ ทรานส์ เซอร์วิส จำกัด หรือ SVT ซึ่งต่างฝ่ายต่างอ้างถึงกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ที่เช่าจาก การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) ทำให้เกิดความสับสน และไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าบริษัทใดเป็นผู้มีสิทธิ์ในพื้นที่ จึงหยุดการชำระค่าเช่าให้กับบริษัท SRD ตั้งแต่เดือน พ.ค.ถึงเดือน ก.ย.2550 หลังจากนั้น ทางบริษัท SRD ได้ทำหนังสือพร้อมสำเนาคำพิพากษาฟ้องตนกรณีผิดสัญญาเช่า พร้อมกับเรียกค่าเสียหาย และขับไล่
น.ส.ภควรรณ กล่าวต่อว่า เมื่อเดือน พ.ย.2550 จึงได้ทำสัญญาประนีประนอมกับ บริษัท SRD ที่ศาลจังหวัดพระโขนง โดยบริษัท SRD ได้ให้คำมั่นว่าจะเปิดศูนย์ชอปปิ้งอาเขต ตามคำโฆษณาให้ผู้ที่สนใจเช่าพื้นที่ ตนจึงยอมจ่ายค่าเช่าพื้นที่ต่อ แต่ต่อมาศูนย์ก็ยังไม่มีการเปิด และยังให้ผู้ค้ารายย่อยมาเปิดร้าน ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ตนจึงขอเจรจาเปลี่ยนแปลงผลตอบแทนโดยลดค่าเช่าจากเดือนละ 747,500 บาทต่อเดือน เหลือเดือนละ 373,750 บาท และทำจดหมายขอเลื่อนการชำระค่าเช่าเดือน เม.ย.ออกไปก่อน
น.ส.ภควรรณ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น วันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางร้านถูกตัดไฟฟ้า เมื่อสอบถามทางบริษัท SRD ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง จึงประสานขอใช้ฟ้าจาก ทอท.เนื่องจากเกรงว่าอาหารสดจำนวนมากที่เก็บแช่ไว้ในตู้เย็นจะได้รับความเสียหาย แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ จนเมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา มีชายฉกรรจ์ประมาณ 7-8 คน มาข่มขู่ลูกน้องที่เฝ้าร้าน ให้เซ็นสัญญาบางอย่าง แต่ลูกน้องได้โทรศัพท์มาบอก จึงบอกให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ ต่อมาช่วงกลางดึกวันที่ 27 เมษายน ได้ถูกชายฉกรรจ์ทุบผนังร้านจนพังเสียหาย และนำโซ่มาคล้องล็อกประตูร้านจากด้านใน ทำให้ไม่สามารถเข้าไปค้าขายภายในร้านได้อีก
“การกระทำของกลุ่มชายฉกรรจ์ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการทำกันเกินกว่าเหตุ คดีที่เกิดขึ้นระหว่างดิฉันกับบริษัท SRD แม้จะมีการบังคับคดีก็ต้องมีหมายศาลมา ไม่ใช่ใช้อำนาจเถื่อนบุกมาทำลายทรัพย์สิน และที่สำคัญ คือ พื้นที่ทั้งหมดอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ซึ่งมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดที่สุด ตนก็ไม่ทราบว่าปล่อยให้มีชายฉกรรจ์เข้ามารื้อทำลายทรัพย์สินเช่นนี้ได้อย่างไร หากเรื่องนี้เผยแพร่ไปทั่วโลก ประเทศไทยจะได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียงแค่ไหน จึงอยากให้ตำรวจกองบังคับการปราบปรามช่วยติดตามดำเนินคดีกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย” น.ส.ภควรรณ กล่าว
เบื้องต้น พ.ต.อ.สุวัฒน์ ได้สั่งการให้ ร.ต.ต.ณรงค์ชัย เอกฉันท์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) กองบังคับการปราบปราม สอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับรวบรวมเอกสารสัญญาเช่า และนิติกรรมต่างๆ ไว้ ก่อนที่จะพิจารณาดำเนินคดีต่อไป
